14 กันยายน 2559 : หลังจากธนาคารเปิดตัว “โครงการสินเชื่อบ้าน 63 ปี ธอส.” เพียงไม่ถึง 2 สัปดาห์ พบลูกค้าให้ความสนใจแสดงความประสงค์ขอยื่นกู้ใกล้เต็มกรอบวงเงินรวม 6,300 ล้านบาทแรกแล้ว ล่าสุดธนาคารได้ขยายกรอบวงเงินรวมเป็น 30,000 ล้านบาท พร้อมมอบของขวัญพิเศษให้ลูกค้าเพิ่มอีก “1 ฟรี!!! : ค่าจดจำนอง 1%” รวมเป็น 4 ฟรี!!! ได้แก่ (1) ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ (2) ค่าประเมินราคาหลักประกันทุกวงเงินกู้ (3) ค่าจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม และ (4) ค่าจดจำนอง 1% ติดต่อยื่นคำขอกู้และทำนิติกรรมได้แล้วตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2559
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ตามที่ธนาคารได้จัดทำ“โครงการสินเชื่อบ้าน 63 ปี ธอส.” เพื่อตอบแทนลูกค้าประชาชน เนื่องในโอกาสเดือนครบรอบการดำเนินงาน 63 ปี (24 กันยายน 2559) อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 5 เดือนแรก เท่ากับ MRR–6.12% ต่อปี (หรือเท่ากับ 0.63% ต่อปี คิดจากดอกเบี้ย MRR ธอส.ปัจจุบันเท่ากับ 6.75% ต่อปี) เดือนที่ 6 – 36 ดอกเบี้ยเท่ากับ MRR–3.12% ต่อปี (หรือเท่ากับ 3.63% ต่อปี) ให้กู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ซ่อมแซม ไถ่ถอนจำนองจากสถาบันการเงินอื่น และซื้ออุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่อง พร้อมกับกู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ซ่อมแซม หรือไถ่ถอนจำนอง โดยเริ่มเปิดรับคำขอยื่นกู้มาตั้งแต่วันจันทร์ที่ 5 กันยายนที่ผ่านมานั้น
ล่าสุดพบว่ามีลูกค้าประชาชนจำนวนมากให้ความสนใจติดต่อสอบถามและแสดงความประสงค์ขอยื่นกู้ใกล้เต็มกรอบวงเงินรวม 6,300 ล้านบาทแรกแล้วธนาคารจึงได้ขยายกรอบวงเงินโครงการดังกล่าวเพิ่มเป็น 30,000 ล้านบาท ภายใต้เงื่อนไขอัตราดอกเบี้ยเดิม เพิ่มฟรีพิเศษ!! “ธนาคารรับภาระค่าจดทะเบียนจำนอง 1% ของวงเงินกู้ตามสัญญากู้เงินแทนลูกค้าอีกด้วย” เฉพาะลูกค้าที่ทำนิติกรรมจดทะเบียนการโอนและจดทะเบียนการจำนอง ณ สำนักงานที่ดินภายใน 7 วันทำการ นับถัดจากวันที่ธนาคารอนุมัติเงินกู้
ซึ่งโครงการสินเชื่อบ้าน 63 ปี ธอส. นอกจากอัตราดอกเบี้ยจูงใจแล้ว ยังได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมถึง 4 ฟรี!!! ได้แก่ 1.ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ (0.1% ของวงเงินทำนิติกรรม) 2.ค่าประเมินราคาหลักประกันทุกวงเงินกู้ (1,900 / 2,800 /3,100 บาท ตามวงเงินกู้) 3.ค่าจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม (1,000 บาท) และ 4.ค่าจดทะเบียนจำนอง 1% ของวงเงินกู้ตามสัญญากู้เงิน ทั้งนี้จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายด้านที่อยู่อาศัยให้ลูกค้าได้ ทั้งนี้ สามารถขอกู้และทำนิติกรรมได้จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2559 หรือภายใต้กรอบวงเงินที่ธนาคารกำหนด