WELCOME TO SEQUEL ONLINE (ซีเคว้ล ออนไลน์)
วันพุธ ที่ 9 เมษายน 2568 ติดต่อเรา
เปิดแล้ว!! “อินชัวรันส์บูโร..ศูนย์กลางการตรวจสอบข้อมูลประกันภัย” เริ่มดำเนินการ 1 มกราคม 2560 นี้แน่นอน##

14 กันยายน 2559 : สมาคมประกันวินาศภัยพร้อมดำเนินการ อินชัวรันส์ บูโร ศูนย์กลางการตรวจสอบข้อมูลการทำประกันภัย ดีเดย์ 1 มกราคม 2560 พร้อมควบรวม ไอพีอาร์บี และ ทีไอดี เข้าด้วยกันตั้งบริษัทใหม่ภายใต้ชื่อ “บริษัท สถาบันเพื่อการวิจัยและพัฒนาธุรกิจประกันภัย จำกัด” เพื่อความคล่องตัวในการดำเนินงาน

นายอานนท์ วังวสุ นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยว่า จากแนวนโยบายร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนที่กำหนดให้มีฐานข้อมูลกลางการประกันภัย หรือ หรืออินชัวรันส์ บูโร (Insurance Bureau) ตั้งแต่ปี 2555 เพื่อเป็นศูนย์กลางในการตรวจสอบข้อมูลการทำประกันภัย เช่นเดียวกับการตรวจสอบการมีประกันพ.ร.บ.ที่เชื่อมระบบกับกรมการขนส่งทางบก วันนี้เป็นรูปธรรมแล้วโดยจะเริ่มดำเนินการอย่างเป็นทางการตั้งแต่ 1 มกราคม 2560 เป็นต้นไป

นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย

ทั้งนี้ การเก็บสถิติข้อมูลในการรับประกันและการจ่ายสินไหมของธุรกิจในการประกันภัย ขณะนี้มีบริษัท ไทยอินชัวเรอส์ด้าตาเนท จำกัด หรือ TID ทำหน้าที่เก็บข้อมูลทั้งกรมธรรม์และการเคลมของประกันภัยรถยนต์อยู่ และสำนักงานอัตราเบี้ยประกันวินาศภัย หรือ IPRB มีหน้าที่ในการคำนวณต้นทุนการดำเนินงานของธุรกิจรวมถึง การจ่ายค่าสินไหมทดแทนของธุรกิจประกันภัย ซึ่งในต้นปี 2560 โครงการอินชัวรันส์ บูโร จะเริ่มให้สมาชิกประกันวินาศภัยส่งข้อมูล การประกันภัยประเภทอื่นๆ ได้แล้ว เช่นการประกันภัย อัคคีภัย ประกันมารีน ประกัน อุบัติเหตุ และประกันสุขภาพ

นอกจากนี้ จะมีการควบรวมหน่วยงานทั้งสอง คือ ทีไอดี และ ไอพีอาร์บี เข้าด้วยกัน โดยตั้งชื่อใหม่เป็น “บริษัท สถาบันเพื่อการวิจัยและพัฒนาธุรกิจประกันภัย จำกัด” มีหน้าที่รวบรวมข้อมูลการรับประกันภัย การจ่ายค่าสินไหมทดแทนของการประกันวินาศภัยทุกประเภท เพื่อหาต้นทุนในการดำเนินงานไม่ว่าจะเป็นค่าสินไหม ค่าใช้จ่ายในการบริการ เพื่อให้มีต้นทุนอ้างอิงที่ถูกต้องและเป็นธรรมสำหรับผู้บริโภคอย่างแท้จริง โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินงานได้ในเดือน มกราคม 2560 โดยใช้สถานที่ตั้งของสมาคมประกันวินาศภัยไทย

สำหรับแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจประกันวินาศภัย ปี 2559 คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตสูงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ จาก 2.2% จะสามารถเติบโตได้สูงถึง 3.0-3.5% ซึ่งเป็นผลพวงมาจากปัจจัยจากภาครัฐที่มีการส่งเสริมให้มีการลงทุนเพิ่มขึ้น และที่สำคัญนโยบายของภาครัฐที่มีการผลักดันให้นำระบบประกันภัยที่ภาคเอกชนมีกลไกที่เข้มแข็งอยู่แล้ว เข้ามาบริหารความเสี่ยงให้กับเกษตรกร โดยในปีนี้สมาคมฯ โดยบริษัทสมาชิก ได้ให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการเป็นผู้บริหารจัดการความเสี่ยงให้กับโครงการของภาครัฐ คือ โครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2559 ซึ่งส่งผลให้ธุรกิจประกันวินาศภัยมีการเติบโตสูงขึ้นในภาพรวมด้วย

นอกเหนือความช่วยเหลือจากภาครัฐ ซึ่งกระทรวงการคลังได้มอบหมายให้ ธ.ก.ส. ดำเนินโครงการประกันภัยข้าวนาปีต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งได้รับการตอบรับจาก ธ.ก.ส. ในการขับเคลื่อนให้โครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2559 นี้บรรลุเป้าหมาย โดยข้อมูลการรับประกันภัยข้าวนาปี ณ วันที่ 9 กันยายน 2559 ปรากฏว่ามีเกษตรกรทำประกันภัยข้าวนาปี รวมทั้งสิ้น 1,548,776 ราย มีพื้นที่เอาประกันภัย จำนวน 26.70 ล้านไร่ โดยมีทุนเอาประกันภัยรวมทั้งสิ้น 29,663.70 ล้านบาท ค่าเบี้ยประกันภัยกว่า 2,670 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตสูงถึง 367% เมื่อเทียบกับปีก่อน คาดว่าสิ้นปีจะมีการทำเพิ่มขึ้นถึง 30 ล้านไร่

ส่วนผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือน (มกราคม – มิถุนายน 2559) มีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงจำนวน 103,953 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.91 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งเป็นผลจากการขยายตัวของการประกันภัยเบ็ดเตล็ด (1.32%) การประกันภัยรถยนต์ (1.06%) ขณะที่การประกันอัคคีภัย (-1.86%) และการประกันภัยทางทะเลและขนส่ง (-2.01%) มีการขยายตัวติดลบ

โดยอัตราความเสียหาย (Loss Ratio) ของแต่ละประเภทประกันภัย มีแนวโน้มสูงขึ้น โดยเฉพาะการประกันภัยรถยนต์โดยครึ่งปีแรกนี้มีอัตราความเสียหายสูงถึง 64% เมื่อเทียบกับปีก่อน อีกทั้งสถานการณ์ด้านการแข่งขันยังคงมีสูง แม้ว่าจำนวนกรมธรรม์ประกันภัยจะเพิ่มจำนวนมากขึ้น แต่มูลค่าเบี้ยประกันภัยกลับลดลงเพราะมาจากการแข่งขันด้านราคากันอย่างหนัก

สมาคมประกันวินาศภัยไทย แถลงผลประกอบการครึ่งปีแรก 2559.1

“ใน 6 เดือนที่ผ่านมาจะเห็นว่าค่าสินไหมทดแทนของรถยนต์เพิ่มสูงมากถึงร้อยละ 64 ถือว่าสูงมากกว่าปกติ โดยเฉลี่ยที่เคยมีจะอยูประมาณ 57-58% เป็นผลจากอัตราการไม่เพิ่มขึ้นของอัตราเบี้ยประกันรถยนต์รายใหม่ แต่ว่าต้นทุนในการดำเนินงานเพิ่มขึ้นทุกปี ไม่ว่าจะมาจากปัจจัยอัตราเงินเฟ้อ ค่าแรง ค่าอาไหล่รถยนต์ ค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้น ทำให้ค่าสินไหมโดยรวมสูงถึง 64% สำหรับตนเองคิดว่า อัตรานี้ถือเป็นสัญญาณอันตรายต่อธุรกิจแล้ว หรือกำลังเดินเข้าสู่โซนขาดทุน จึงอยากให้บริษัทประกันภัยตระหนักในด้านนี้ ไม่แข่งขันด้านราคามากเกินไป หันไปแข่งขันที่การบริการหลังการขายและลดต้นทุนในการบริการน่าจะเป็นผลที่ดีกว่า”นายอานนท์ กล่าวสรุป

อนึ่ง : บริษัท ไทยอินชัวเรอส์ดาต้าเนท จำกัด เป็นศูนย์ข้อมูลประกันภัยรถยนต์ทั้งภาคบังคับ (พ.ร.บ.)และภาคสมัครใจ และในปัจจุบันยังเป็นผู้ให้บริการด้าน IT Professional Services ครบ วงจร รองรับความต้องการของหน่วยงานทั้งในส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และภาคธุรกิจเอกชน ทั่วไป ถือหุ้นโดยบริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ จำกัด (มหาชน) 40% และอีก 60% กระจายการถือหุ้นโดยบริษัทประกันวินาศภัย ซึ่งเป็นสมาชิกสมาคมประกันวินาศภัยจำนวน 50 บริษัท

สำนักงานอัตราเบี้ยประกันวินาศภัย (The Insurance Premium Rating Bureau : IPRB)เป็นหน่วยงานอิสระที่สมาคมประกันวินาศภัยของไทยได้จัดตั้งขึ้นตามมติที่ประชุมเชิงปฏิบัติการ “การกำหนดยุทธศาสตร์การประกันภัยแห่งชาติ” ในปี พ.ศ. 2546 โดยได้รับความเห็นชอบจากกรมการประกันภัย (ซึ่งปัจจุบันนี้คือ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ สำนักงาน คปภ.)

การจัดตั้ง IPRB ขึ้นนั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้มีองค์กรอิสระหรือหน่วยงานกลางที่ทำหน้าที่เตรียมความพร้อมให้แก่ภาคธุรกิจประกันวินาศภัยของไทยในการเปิดเสรีอัตราเบี้ยประกันภัยและการเปิดเสรีธุรกิจประกันภัยที่กำลังจะมาถึงในอนาคตอันใกล้ ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาการประกันภัยของไทยโดยการสนับสนุนให้ภาคธุรกิจมีการกำกับดูแลกันเองมากขึ้น logo เล็ก (ปิดท้ายข่าว)

ประกันภัย ดูทั้งหมด



COPYRIGHT © 2016 SEQUEL ONLINE. ALL RIGHTS RESERVED.
FOLLOW UP