กรุงเทพฯ 22 ตุลาคม 2563 : ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) ร่วมโชว์ศักยภาพการเป็นธนาคารพาณิชย์เพื่อรายย่อยที่ดีที่สุด จัดทัพผลิตภัณฑ์ทางการเงินทั้งสินเชื่อและเงินฝากที่ให้ข้อเสนอดีๆ และสิทธิพิเศษมากมาย พร้อมพาลูกค้าสู่ความมั่งคั่ง มาแสดงในงาน มหกรรมการเงินครั้งที่ 20 Money Expo 2020 ระหว่างวันที่ 22-25 ตุลาคม 2563 ที่บูธธนาคารไทยเครดิตฯ R1 อาคารชาเลนเจอร์ 1-2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

โดย นายสันติ วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานจัดงานมหกรรมการเงิน Money Expo นายรอย ออกุสตินัส กุนารา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) นายวีรเวท ไชยวรรณ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานบริหารเครือข่ายสาขา นายกมลภู ภูริดิฐสกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริหารธุรกิจไมโครไฟแนนซ์และสาขาสินเชื่อ และนายนาธัส กฤตวรานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริหารธุรกิจไมโครเอสเอ็มอี ร่วมพิธีเปิดบูธอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 22 ตุลาคม 2563

นายรอย เผยว่า “ภายใต้แนวคิด Everyone Matters ใครไม่เห็น เราเห็น ธนาคารไทยเครดิตมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้มีความหลากหลายครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้ารายย่อย ทั้งสนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจของผู้ประกอบการทั้งในระดับไมโครเอสเอ็มอีและไมโครไฟแนนซ์ ด้วยสินเชื่อธุรกิจดอกเบี้ยต่ำ

ส่งเสริมการออมเงินเพื่อสร้างรากฐานความมั่นคงให้ชีวิตด้วยผลิตภัณฑ์เงินฝากดอกเบี้ยสูง รวมถึงการลดภาระหนี้ เพิ่มสภาพคล่อง ให้กับมนุษย์เงินเดือนและผู้มีอาชีพอิสระที่มีบ้านเป็นหลักประกัน ด้วยสินเชื่อบ้านแลกเงินและสินเชื่อรีไฟแนนซ์พลัส และยังมี ไมโครเพย์ อีวอลเล็ท ที่ช่วยให้การ รับ-โอน-จ่าย เงินเป็นเรื่องง่าย สะดวกและรวดเร็ว เรียกได้ว่าทุกผลิตภัณฑ์ที่เรานำมาแสดงในงานพร้อมพาลูกค้าทุกท่านไปสู่ความมั่งคั่ง และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”

ผลิตภัณฑ์เด็ดที่ธนาคารนำมาแสดงในงาน เริ่มจาก สินเชื่อรีไฟแนนซ์พลัส สำหรับลูกค้าที่กำลังผ่อนบ้านและต้องการลดอัตราดอกเบี้ย ธนาคารมอบข้อเสนอดอกเบี้ยเบาๆ 3 ปีแรก เพียง 3% ต่อปี สินเชื่อบ้านแลกเงิน ที่ช่วยลูกค้ารวมหนี้ลดภาระดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือน เพียงมีบ้านเป็นหลักประกัน วงเงินสูงสุด 10 ล้านบาท ผ่อนนานสูงสุด 20 ปี

สินเชื่อ SME กล้าให้ มอบข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับลูกค้าธุรกิจไมโครเอสเอ็มอี ด้วยวงเงินเต็มมูลค่าราคาประเมินหลักประกัน (LTV 100%) สูงสุด 20 ล้านบาท ดอกเบี้ยปีแรกคงที่ 3% ต่อปี (หมดเขต 31 ธันวาคม 2563) เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียน เสริมสภาพคล่อง และขยายธุรกิจ

ในส่วนของเงินฝาก พลาดไม่ได้กับเงินฝากประจำ 12 เดือน และ 18 เดือน ที่ให้ดอกเบี้ยสูงถึง 1.45% ต่อปี และ 1.50% ต่อปี ตามลำดับ เปิดบัญชีขั้นต่ำ 1,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 20,000,000 บาท (นับรวมเงินฝากประจำทุกประเภท ยกเว้นเงิน

ฝากประจำทันใจ และเงินฝากประจำพิเศษสำหรับผู้ฝากที่ซื้อประกันชีวิตผ่านสาขา ทุกระยะเวลาการฝาก) เงินฝากประจำทันใจ ดอกเบี้ยสูง 1.50% ต่อปี รับดอกเบี้ยทันทีในวันที่ฝาก (เมื่อฝากด้วยเงินสด) เปิดบัญชีขั้นต่ำ 100,000 บาท สูงสุดต่อรายไม่เกิน 1,500,000 บาท เงินฝากปลอดภาษี ให้ดอกเบี้ยเต็มๆ 2.50% ต่อปี เมื่อฝากเงินเท่ากันทุกเดือน 36 เดือน และดอกเบี้ย 2.15% ต่อปี เมื่อฝากเงินเท่ากันทุกเดือน 24 เดือน และเงินฝากออมทรัพย์เพิ่มค่าพิเศษ ฝาก-ถอนสะดวกแบบเงินฝากออมทรัพย์ แต่ให้ดอกเบี้ยสูง รับดอกเบี้ยรายเดือน 1.25% ต่อปี สำหรับยอดฝากตั้งแต่ 100,000 บาท ถึง 10,000,000 บาท

นอกจากนี้ ธนาคารยังนำแอปพลิเคชัน ไมโครเพย์ อีวอลเล็ท (Micro Pay e-Wallet) บริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ของบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคาร ที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการในการทำธุรกิจของผู้ประกอบการรายย่อย รองรับการทำธุรกรรมการเงิน รับ-โอน-จ่าย ครบทุกฟังก์ชั่น มาจัดแสดงที่บูธ ลูกค้าและผู้เยี่ยมชมสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ลงทะเบียน และเติมเงินขั้นต่ำ 100 บาท เข้าไมโครเพย์ อีวอลเล็ท พร้อมรับเงิน Top Up ในอีวอลเล็ตเพิ่มอีก 50 บาท”