31 สิงหาคม 2563 : นายธนา ลิมปยารยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ อมาโด้ (amado) ผู้เชี่ยวชาญด้านวิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชั้นนำ เปิดเผยว่า ปัจจุบันประชากรส่วนใหญ่ของประเทศมีอายุระหว่าง 40-50 ปี และมีจำนวนผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เกือบ 20% ของจำนวนประชากรในประเทศ ซึ่งกลุ่มคนดังกล่าวเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและพร้อมใช้จ่ายกับสินค้าหรือบริการที่ช่วยส่งเสริมการดูแลสุขภาพของตนเอง และให้ความสำคัญกับการมีอายุยืนยาวพร้อมสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง

คนสูงวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของร่างกายมากขึ้น ทั้งในด้านของสุขภาพและรูปลักษณ์ภายนอกตามกาลเวลาที่ผ่านไป รวมทั้งจากการทำงานหนักขึ้นในช่วงวัยทำงานที่ผ่านมา เมื่อมีเวลาจึงเริ่มมองหาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยดูสุขภาพแบบองค์รวม ช่วยปรับสมดุล เพิ่มภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย บำรุงระบบประสาทและสมอง รวมถึงช่วยป้องกันการเกิดโรคต่าง ๆ ควบคู่กับดูแลตัวเองให้ดูดีอยู่เสมอ ประกอบกับปัญหามลภาวะและโรคภัยไข้เจ็บ โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เข้ามาเป็นปัจจัยกระตุ้นผู้คน โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงวัยหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพและสร้างภูมิคุ้มกันโรคมากขึ้น

ล่าสุดได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใหม่ “อมาโด้ บี-ลินซ์” (AMADO B-LiNZ) ในกลุ่มสุขภาพ สำหรับบำรุงร่างกาย ระบบประสาทและสมอง จับตลาดผู้สูงวัย รวมไปถึงคนทำงานอายุ 30 ปีขึ้นไป ที่มีปัญหานอนไม่หลับ นอนแล้วแต่สมองไม่แล่น หลับไม่ลึก มีการนอนหลับที่ไม่มีคุณภาพ ทำให้รู้ไม่สดชื่น สมองทำงานไม่เต็มที่ และส่งผลกับสุขภาพในระยะยาว ปัจจุบันปัญหาดังกล่าวนับเป็นปัญหาสุขภาพลำดับต้น ๆ ของคนไทย

“อมาโด้ บี-ลินซ์” (AMADO B-LiNZ) ผลิตจากเห็ดหลินจือ น้ำมันจมูกข้าว สารสกัดจากมะระขี้นก สารสกัดจากข้าว วิตามินบีรวม และแอล-ธีอะนีน พร้อมทั้งได้ “ดุ๊ก ภาณุเดช” นักแสดงพิธีกรและผู้จัดละครมากความสามารถ เพื่อสื่อถึงตัวแทนของคนที่ดูแลสุขภาพที่ดี นำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดี ไม่รับประทานอาหารเสริมเป็นหลัก แต่เน้นการทานอาหารและออกกำลังกาย

ทั้งนี้ ตามหลักการเลือกพรีเซ็นเตอร์ของอมาโด้คือจะต้อง “ทานจริง” เช่นเดียวกับ “ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์” พรีเซ็นเตอร์อมาโด้ คอลลิจิ คอลลาเจน (Amado Colligi Collagen) กระป๋องทอง และ “ฮยอนบิน” ซูเปอร์สตาร์เกาหลี พรีเซ็นเตอร์ อมาโด้ เฮช-คอลลาเจน (Amado H-Collagen) เมื่อ “ดุ๊ก ภาณุเดช” ได้เข้าดูทุกขั้นตอนการผลิต ทำให้เริ่มมั่นใจในมาตรฐานและคุณภาพ จนเปิดใจทดลองและเมื่อเห็นผลจึงตัดสินใจรับเป็นพรีเซ็นเตอร์ หลักการเลือกพรีเซ็นเตอร์ที่รับประทานจริงนั้นมีส่วนสำคัญช่วยให้ผู้บริโภคมั่นใจในคุณภาพและเปิดใจบริโภคผลิตภัณฑ์ของอมาโด้

“ด้านกลยุทธ์ในการขาย “อมาโด้ บี-ลินซ์” (AMADO B-LiNZ) จะยังคงเน้นไปใน 4 ช่องทางหลัก เพื่อให้สามารถกระจายไปสู่ผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึง ได้แก่ ผ่านดีลเลอร์ หน้าร้านคีออส ช่องทางออนไลน์ และช่องทางเทเลเซลล์ โดยมุ่งเจาะกลุ่มผู้บริโภคสูงวัย ซึ่งช่องทางที่คนกลุ่มดังกล่าวนิยมที่สุดคือ ช่องทางเทเลเซลล์ที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 2 ที่เริ่มจำหน่ายผลิตภัณฑ์อมาโด้ในช่องทางดังกล่าว เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มให้ความมั่นใจในแบรนด์และคุณภาพของสินค้าจึงเกิดการสั่งซื้อซ้ำมากขึ้น”

นายธนา กล่าวทิ้งท้ายว่า “อมาโด้วางเป้ายอดอมาโด้ บี-ลินซ์ ไว้ที่ 15,000,000 บาท ในสิ้นปีนี้ และตั้งเป้ามียอดขายแตะ 100,000 กล่องคิดเป็นยอดขาย 65 ล้านบาท ภายในไตรมาส 1/2564 มั่นใจว่า “อมาโด้ บี-ลินซ์” (AMADO B-LiNZ) จะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคในการเลือกซื้อเป็นของขวัญแทนความรักความห่วงใยให้กับผู้ใหญ่และคนที่รัก เนื่องจากตัวผลิตภัณฑ์ได้รับการออกแบบให้บรรจุลงในกล่องเหล็ก สามารถใช้เป็นของขวัญของฝากไว้ นอกจากการซื้อเพื่อรับประทานเองอีกด้วย”