เซินเจิ้น จีน, 21 สิงหาคม 2563 : Zepp แบรนด์ระดับมืออาชีพด้านการจัดการความเป็นอยู่ของผู้ใช้ด้วยดิจิทัล ประกาศเปิดตัวอุปกรณ์สวมใส่รุ่นใหม่ในซีรีส์ Zepp E ตอบรับเทรนด์รักสุขภาพที่กำลังมาแรงในปี 2563 โดยอุปกรณ์ซีรีส์ Zepp E ที่เพิ่งเปิดตัวออกมานี้ได้ใช้ประโยชน์จาก AI และเทคโนโลยีล่าสุดเพื่อแปลงสถิติสำคัญด้านสุขภาพให้กลายมาเป็นข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้งานได้จริง จึงช่วยให้ผู้ใช้สามารถสังเกตทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

แรงบันดาลใจเบื้องหลังการอัปเกรดผลิตภัณฑ์ของ Zepp นั้น ต้องย้อนกลับไปถึงประวัติความสำเร็จในการใช้เซ็นเซอร์เพื่อยกระดับการใช้ชีวิตของมนุษย์ขึ้นอีกขั้น โดยเมื่อสิบปีที่แล้ว Zepp ได้สร้างแรงกระเพื่อมขึ้นในตลาดการออกกำลังกายของชาวอเมริกาเหนือ ด้วยการนำเสนออุปกรณ์เซ็นเซอร์แบบสวมใส่ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะเพื่อช่วยในการตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลการออกกำลังกาย จนทำให้นักกีฬาได้รับผลสัมฤทธิ์จากการฝึกซ้อมเพิ่มขึ้นจากเดิมเป็นเท่าตัว และเมื่อเข็มนาฬิกาหมุนมาสู่ปี 2563 Zepp ก็ได้เปลี่ยนภาพลักษณ์ตัวเองให้มีรูปลักษณ์และสัมผัสที่เป็นพรีเมี่ยม

โดยพุ่งเป้าไปที่กลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นมืออาชีพที่มีงานมากมายต้องทำในแต่ละวันและต้องการผสมผสานรสนิยมเข้ากับการใช้งานจริง ด้วยการผสานรวมดีไซน์ระดับไฮเอนด์เข้ากับความสามารถด้านการติดตามสุขภาพและการออกกำลังกายที่เหนือกว่า

บรรลุเป้าหมายด้านสุขภาพของคุณด้วยฟังก์ชั่นตรวจวัดสถานะสุขภาพหลายรูปแบบ ทั้งการติดตามการนอนหลับและตรวจวัดความเครียด

Zepp E ให้ความสำคัญกับฟังก์ชั่นมากมายที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเฝ้าติดตามสุขภาพของตัวเองได้ดีขึ้น เช่น การติดตามการนอนหลับ และการตรวจวัดความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือด (SpO2[2]) โดยฟังก์ชั่นติดตามการนอนหลับชั้นสูงจะทำหน้าที่ในการวัดระดับขั้นการนอนของผู้ใช้ ตั้งแต่ช่วงกึ่งหลับกึ่งตื่น ช่วงหลับลึก ไปจนถึงช่วงของการหลับที่มีการกรอกตาอย่างรวดเร็ว (REM)[3] รวมถึงช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ตื่นขึ้นมาในขณะหลับ ทั้งยังสามารถตรวจสอบการงีบหลับเป็นเวลา 20 นาทีในระหว่างวัน [4] เพื่อให้คะแนนการนอนโดยรวมซึ่งจะช่วยให้สามารถรับรู้ได้ถึงคุณภาพการนอนและการหายใจของผู้ใช้ได้ ยิ่งไปกว่านั้น สมาร์ทวอชรุ่นนี้ยังรองรับคุณสมบัติการตรวจวัดความเครียดตลอด 24 ชั่วโมง จากการใช้งานเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจซึ่งมีความสามารถในการวัดระดับความเครียดของผู้ใช้ผ่านการอัปเกรด OTA[5] จึงช่วยให้ผู้ใช้สามารถรักษาสุขภาพจิตของตนเองให้ดีได้อยู่เสมอ

การออกแบบระดับพรีเมี่ยมด้วยจอแสดงผลแบบกระจก 3D สี Pure Black และตัวเรือนโลหะแบบบางพิเศษ

Zepp E มาพร้อมหน้าจอ AMOLED เฉดสีสะดุดตา โดยมีให้เลือกรูปทรงหน้าปัด 2 แบบ ได้แก่ Zepp E Circle หนัาปัดกลมและ Zepp E Square หน้าปัดเหลี่ยม ขณะที่จอแสดงผลกระจกโค้ง 3D สี Pure Black แบบไร้ขอบได้ถูกออกแบบมาให้กลมกลืนกับรูปทรงทั้งสองอย่างไร้รอยต่อด้วยเส้นที่เป็นประกายจากทุกมุม ให้ภาพลักษณ์และความรู้สึกที่งดงามและดูดีมีสไตล์ อีกทั้งหน้าปัดกระจกแบบ 3D และกรอบด้านหลังที่เป็นสแตนเลสสตีลแบบขัดเงายังสามารถเข้ากันได้อย่างไร้ที่ติพร้อมมอบตัวเรือนที่มีขนาดบางเป็นพิเศษ

สมาร์ทวอชรุ่นนี้ยังมาพร้อมหน้าปัดที่มีให้เลือกหลายสิบแบบ[6] และสายนาฬิกาให้เปลี่ยนตามต้องการอีกมากมายหลากหลายสีสันทั้งที่เป็นสายโลหะ สายหนัง และสายฟลูออโรอิลาสโตเมอร์[7] ตอบรับความต้องการของทุกสไตล์และรสนิยม นอกจากนี้ ด้วยความหนาเพียง 9 มม. ยังทำให้สมาร์ทวอชซีรีส์ Zepp E รุ่นนี้สามารถสวมใส่ได้สบายตลอดวัน พร้อมอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานถึง 7 วัน [8] ต่อการชาร์จเต็มในหนึ่งครั้ง

บันทึกเวลาออกกำลังกายและติดตามพัฒนาการของตนเองด้วยโหมดเล่นกีฬา 11 โหมด

สมาร์ทวอชซีรีส์ Zepp E รองรับโหมดเล่นกีฬา 11 โหมด เช่น เดิน การวิ่งในร่มและกลางแจ้ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ ปีนป่าย และสกี ทั้งยังมีความสามารถการกันน้ำที่ระดับ 5ATM จึงช่วยผู้ใช้สามารถติดตามสมรรถนะการออกกายกำลังได้ตลอด นอกจากนี้ สำหรับสาวกที่รักการออกกำลังกายแบบผจญภัย Zepp E ยังมาพร้อมฟีเจอร์การตรวจสอบระดับ SpO2 ซึ่งเป็นตัววัดสุขภาพที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสถานที่สูงและมีออกซิเจนต่ำ หรือขณะเล่นกีฬาที่มีความเข้มข้นสูง เช่น การวิ่งมาราธอนหรือออกกำลังกายอย่างหนักในโรงยิม

ประเมินผลลัพธ์การออกกำลังกายด้วย Personal Activity Intelligence

โหมดการออกกำลังกายระดับมืออาชีพของ Zepp E ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามและพัฒนาสมรรถนะของตัวเองในขณะที่ออกกำลังกายได้ โดยแพลตฟอร์มการประเมินสุขภาพ Personal Activity Intelligence (PAI[9]) จะเปลี่ยนข้อมูลที่ซับซ้อนของผู้ใช้ ทั้งอัตราการเต้นของหัวใจ และระดับกิจกรรมประจำวันให้ออกมาในรูปแบบของมาตรวัดเพียงตัวเดียวแล้วแสดงผลเป็นคะแนนให้สามารถเข้าใจได้ง่ายเพื่อบ่งบอกถึงสภาพร่างกายของผู้ใช้ นอกจากนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ผู้คนมีสุขภาพดีและไลฟ์สไตล์ที่กระฉับกระเฉง Zepp E ยังเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถกำหนดเป้าหมายกิจกรรมประจำวันได้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นจำนวนก้าวเดินและปริมาณแคลอรี่ที่เผาผลาญ ทั้งยังมีฟีเจอร์ติดตามการออกกำลังกายครบวงจร เช่น การแจ้งเตือนให้ลุกขึ้นยืนหลังจากไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรเป็นระยะเวลานานด้วย

เพื่อนคู่คิดตลอด 24 ชั่วโมงบนข้อมือ

นอกจากความสามารถในการติดตามสุขภาพและการออกกำลังกายแล้ว Zepp E ยังเป็นเพื่อนคู่คิดอัจฉริยะที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจับเวลา ตั้งนาฬิกาปลุก และเช็คพยากรณ์อากาศได้ รวมถึงมีการแจ้งเตือนหากมีสายเรียกเข้าหรือข้อความใหม่บนสมาร์ทโฟน สำหรับผู้ที่ต้องการฟังเพลงขณะออกกำลังกาย ฟังก์ชั่น Bluetooth Music Control จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเล่น หยุด หรือข้ามเพลงได้จากนาฬิกาตัวเองขณะที่ออกกำลังกายโดยไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋า

Zepp จะวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาในราคาเริ่มต้น $249 ตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2563 เป็นต้นไป และจะเริ่มวางจำหน่ายในสหราชอาณาจักรในราคาเริ่มต้น £209 ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2563 สามารถดูรายละเอียดเฉพาะและข้อมูลเพิ่มเติมของผลิตภัณฑ์ได้ที่ https://www.zepp.com/us/zepp-e

ผู้สนใจในสหราชอาณาจักรสามารถพรีออเดอร์ได้แล้ววันนี้โดยมีราคาตั้งแต่ £209.00 ที่ https://uk.zepp.com/

ส่วนในสหรัฐอเมริกาจะเปิดให้พรีออเดอร์เร็ว ๆ นี้ โดยมีราคาตั้งแต่ $249.99 ที่ https://us.zepp.com/

หมายเหตุ : [1] จากการทดสอบตามมาตรฐาน GB/T 30106-2013 / ISO 22810:2010 อุปกรณ์ซีรีส์ Zepp E มีคุณสมบัติการกันน้ำที่ระดับ 5 ATM และได้ผ่านการทดสอบโดย National Watch Quality Supervision and Inspection Center ในเอกสารหมายเลข SHES200601029501(รุ่นหน้าปัดกลม) และ XRX-ESH-P200407367 (รุ่นหน้าปัดเหลี่ยม) ทั้งนี้ รุ่นที่เป็นสายหนังและสายโลหะไม่สามารถสวมใส่ในขณะว่ายน้ำได้ แต่คุณสามารถเลือกรุ่นที่เป็นสายฟลูออโรอิลาสโตเมอร์หรือซื้อสายสำรองที่ผลิตจากวัสดุฟลูออโรอิลาสโตเมอร์หลากหลายสีสันได้จากร้านขายอุปกรณ์เสริม Zepp

[2] ผลิตภัณฑ์นี้ไม่ใช่อุปกรณ์ทางการแพทย์ ข้อมูลและผลการตรวจวัดทั้งหมดไม่สามารถนำมาใช้อ้างอิงเพื่อการวินิจฉัยหรือเฝ้าติดตามอากาารเพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์ได้

[3] ในการตรวจวัดวงจรการนอนหลับ (REM cycle) ด้วย Sleep Assistant ต้องเปิดใช้งานโหมดติดตามอัตราการเต้นของหัวใจไว้ตลอด โดยเมื่อเข้าสู่วงจร REM Sleep ดวงตาของคุณจะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วในทิศทางที่ต่างกันไป ซึ่งปกติแล้วความฝันจะเกิดขึ้นในช่วงวงจรนี้

[4] การงีบหลับในเวลาที่น้อยกว่า 20 นาทีในระหว่างวันจะไม่ถูกบันทึกไว้

[5] ฟังก์ชั่นตรวจวัดความเครียดจะสามารถใช้งานได้เมื่อมีการอัปเกรด OTA

[6] หน้าปัดนาฬิกามีมาพร้อมเครื่อง 5 รูปแบบ และสามารถดาวน์โหลดได้เพิ่มเติมผ่านแอปพลิเคชั่น Zepp โดยในจำนวนหน้าปัดที่มาพร้อมเครื่อง มี 4 รูปแบบที่สามารถปรับเปลี่ยนหน้าตาได้ตามต้องการ

[7] สายนาฬิกาเป็นอุปกรณ์เสริมที่มีวางจำหน่ายแยกต่างหาก

[8] สถานะการทดสอบ – การอายุการใช้งานแบตเตอรี่ 7 วัน อ้างอิงจากการทดสอบตามสถานการณ์การใช้งานทั่วไปดังต่อไปนี้ เปิดโหมดติดตามอัตราการเต้นของหัวใจอย่างต่อเนื่อง, เปิดใช้งานฟังก์ชั่นติดตามการนอนหลับ, วัดค่าออกซิเจนในเลือดวันละ 2 ครั้ง, มีการแจ้งเตือนปรากฏขึ้นบนหน้าจอ 150 ครั้ง, เปิดใช้งานหน้าจอด้วยการพลิกข้อมือเพื่อดูเวลา 30 ครั้งต่อวัน, ใช้เวลา 5 นาทีสำหรับการดำเนินการอื่น ๆ และเปิดโหมดติดตามการวิ่งเป็นเวลา 30 นาที 3 วันต่อสัปดาห์ ทั้งนี้ อายุการใช้งานแบตเตอรี่อาจแตกต่างกันไปตามการตั้งค่า และเงื่อนไขการใช้งาน รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ ผลลัพธ์จากการใช้งานจริงจึงอาจแตกต่างไปจากผลการทดสอบในห้องปฏิบัติ สำหรับโหมดการทำงานพื้นฐานของนาฬิกา บลูทูธ, ฟังก์ชั่นการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ และฟีเจอร์อื่นๆ จะถูกปิด และมีการประมาณการพลิกข้อมือเพื่อดูเวลาไว้ที่ 100 ครั้งต่อวัน

[9] Personal Activity Intelligence เป็นฟังก์ชั่นวัดกิจกรรมทางกายภาพส่วนบุคคล โดยอิงจากข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจ ความเข้มข้นของการออกกำลังกาย และการประเมินข้อมูลทางสรีรวิทยาส่วนบุคคลที่ครอบคลุมในหลายมิติ แล้วนำข้อมูลที่ได้มาแปลงเป็นค่า PAI โดยใช้อัลกอริทึมเพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าใจสภาพร่างกายของตัวเองได้โดยไม่ต้องยึดติดกับข้อมูลใดข้อมูลหนึ่งเพียงอย่างเดียว ซึ่งจากการวิจัยของ HUNT Fitness Study พบว่า การรักษาระดับค่า PAI ให้สูงกว่า 100 จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงช่วยเพิ่มอายุขัยได้ด้วย

โดย HUNT Fitness Study เป็นโครงการวิจัยโครงการย่อยในโครงการ HUNT Study ซึ่งดำเนินการโดยศาสตราจารย์ Ulrik Wisloff จาก Medical School of Norwegian University of Science and Technology ทั้งนี้ ในการเปิดใช้งานฟังก์ชั่นดังกล่าว ผู้ใช้จำเป็นต้องเปิดใช้ฟังก์ชั่นตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจตลอดทั้งวัน