10 สิงหาคม 2563 : นายสุขวัฒน์ ประเสริฐยิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอไอเอ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ AIAIMT เปิดเผยว่า ล่าสุดทางเอไอเอ(ประเทศไทย) ได้จัดตั้ง บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอไอเอ (ประเทศไทย) จำกัด ขึ้นมาเพื่อดูแลเงินลูกค้าประกันชีวิต ปัจจุบันบริษัทมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) ที่ 847,000 ล้านบาท ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ เงินลงทุนดังกล่าวถูกโยกมาจากบริษัทเอไอเอ (ประเทศไทย) จำกัด ทั้งหมด คาดว่า สิ้นปีนี้จะมีเม็ดเงินลงทุนใหม่เข้ามาจากการเปิดขายกองทุนใหม่ในปีนี้อีก 5 กองทุนเฉลี่ยที่ 5,000-6,000 ล้านบาท
ส่งผลให้ AUM ของบลจ.เอไอเอเติบโตต่อเนื่อง แต่ AUM จะขยับขึ้นเป็น 1 ล้านล้านบาทอาจจะต้องระยะเวลาเช่นกัน เนื่องจากบริษัทเน้นบริหารเงินลงทุนให้กับลูกค้าประกันเอไอเอเป็นหลัก สำหรับพอร์ตยูนิตลิ้งซึ่งยังไม่ได้รวมกับเงินลงทุนที่บลจ.เอไอเอนำมาบริหารมีประมาณ 23,000 ล้านบาท พร้อมกันนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายเงินลงทุนใหม่ผ่านกองทุนรวมที่เสนอขายเฉลี่ยต่อปีที่ 5,000-6,000 ล้านบาท
โดยในปี 2564 บริษัทมีแผนออกกองทุนเพิ่มเติมอีก 7 กองทุน โดยจะเป็นกองทุนต่างประเทศทั้งหมด โดยจะเปิดขายในช่วงต้นปี 2564 ก่อน 4 กองทุนด้วยกัน ทั้งนี้ จะเน้นขายให้กับลูกค้าประกันเอไอเอเป็นหลัก แต่ในส่วนของลูกค่ารายย่อยทั่วไปสนใจบริษัทก็เสนอขายได้เช่นกัน
สำหรับ AUM 847,000 ล้านบาท แบ่งการลงทุนเป็นพันธบัตรภาครัฐ 500,000 ล้านบาท พันธบัตรในประเทศ 100,000 ล้านบาท Offshore หรือ การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศที่ 130,000 ล้านบาทและส่วนที่เหลืออีก 100,000 ล้านบาทลงทุนในหลักทรัพย์ในประเทศไทย
"บลจ.เอไอเอ ก่อตั้งขึ้นด้วยทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท มีวัตถุประสงค์เพื่อบริหารจัดการสินทรัพย์ของประเทศไทย และเงินลงทุนในกองทุนรวมจากกรมธรรม์ประกันชีวิตควบการลงทุนยูนิตลิงค์ของเอไอเอ(ประเทศไทย) เพื่อบริการด้านการลงทุนและผลประโยชน์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า ปัจจุบันบลจ.เอไอเอ(ประเทศไทย)มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ โดยมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารรวมมูลค่า 8.7 แสนล้านบาท
พร้อมมีทีมผู้บริหารการจัดการลงทุนที่มีประสบการณ์ด้านการลงทุนกว่า 30 ปี ทั้งในตลาดไทยและตลาดสากล ซึ่งบลจ.เอไอเอ (ประเทศไทย) จะประสานความร่วมมือกับเครือข่ายการลงทุนของกลุ่มบริษัทเอไอเอทั่วโลกตลอดจนพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อบริหารการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับสมการได้อย่างเหมาะสม
“การก่อตั้ง บลจ.เอไอเอ (ประเทศไทย) จึงเป็นโอกาสอันดีที่ลูกค้าผู้ถือกรมธรรม์ของเราจะได้เปิดประตูสู่เครือข่าย โดยจะเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีขึ้น ด้วยการขยายช่องทางในการลงทุนระดับสากล ผ่านเครือข่ายการลงทุนทั่วโลกและพันธมิตรทางธุรกิจที่มีชื่อเสียงยาวนานร่วมร้อยปี อาทิ BlackRock, Wellington Management และ Baillie Gifford เป็นต้น ซึ่ง บลจ.เอไอเอ (ประเทศไทย) จะนำเงินลงทุนของลูกค้าไปลงทุนด้วยความใส่ใจ เสมือนเป็นเงินลงทุนของเราเอง” นายสุขวัฒน์ กล่าว