กรุงเทพฯ 4 สิงหาคม 2563 : บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในขณะนี้ว่า ยังคงไร้ปัจจัยเชิงบวกเข้ามาสนับสนุนด้านการลงทุน ขณะเดียวกันมองว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 2/2563 มีแนวโน้มต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เทียบกับไตรมาส 2/2541 ที่ติดลบ 12.5% ทั้งนี้เป็นผลต่อเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบฉุนให้เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว อีกทั้งในหลายประเทศยังคงพบยอดผู้ติดเชื้อไวรัส ทั่วโลกทะลุ 18 ล้านราย ตายเกือบ 7 แสนราย รวมถึงการแพร่กระจายยังคงระบาดหนักอย่างต่อเนื่อง อาทิ ออสเตรเลียประกาศเป็นสถานการณ์ภัยพิบัติและบังคับใช้มาตรการเคอร์ฟิว
ส่วนที่ฮ่องกง จีน และเวียดนาม พบการระบาดซ้ำ ในขณะที่สถานการณ์ค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าหลังจากเงินดอลลาร์ มีแนวโน้มอ่อนค่ารุนแรง จากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยังไม่คลี่คลาย ประกอบกับเศรษฐกิจสหรัฐส่อแววฟื้นตัวช้ากว่าประเทศอื่น ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวในข้างต้น ส่งผลให้ฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก มองทิศทางตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ แกว่งตัว Sideway Down โดยคาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,300 -1,340 จุด
นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก แนะนำให้นักลงทุนลงทุนอย่างระมัดระวัง โดยให้พิจารณาลงทุนจากปัจจัยพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียน เนื่องจากช่วงนี้ใกล้ประกาศงบผลประกอบการประจำไตรมาส2/2563 อีกทั้งสภาพัฒน์ เตรียมเสนอที่ประชุมครม.อนุมัติโครงการเงินกู้ฟื้นฟูเศรษฐกิจรอบสองวงเงินเกือบ 8.3 พันล้านบาท ซึ่งการผลิตภาคอุตสาหกรรมในประเทศไทยหดตัวน้อยลงหลังจากผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
ส่วนปัจจัยบวกในต่างประเทศ จะเห็นได้จากกรณีที่จีนเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตปรับขึ้นทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2554 ที่ระดับ 52.8 ในเดือนก.ค. จากระดับ 51.2 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับมากกว่า 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนมีการขยายตัว และเป็นการขยายตัวต่อเนื่อง 5 เดือนติดต่อกัน
ด้าน นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินกลยุทธ์การลงทุน โดยแนะนำหุ้นที่คาดผลประกอบการ Q2/63 ออกมาโดดเด่น เช่น WICE มองแนวโน้มธุรกิจใน Q2/63 คาดได้แรงหนุนจากช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ประกอบกับบริษัทเตรียมรับรู้กำไรที่เพิ่มขึ้นตามผลประกอบการของ WICE Logistics (Singapore) เพิ่มอีก 30% หรือประมาณ 18 ล้านบาท หลังจาก WICE เข้าถือหุ้น 100% ใน WICE SG เมื่อ 5 พ.ค.63 เรียบร้อยแล้ว
บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 63 ที่ระดับ 2.7 พันล้านบาท เติบโต 20%YoY TASCO คาดผลประกอบการ Q2/63 จะกลับมาฟื้นตัวขึ้น ตามคำสั่งซื้อจากจีนที่ถูกจาก Q1/63 และคำสั่งซื้อใหม่ที่ทยอยเข้ามาหลังกลับมาเปิดประเทศ ประกอบกับแรงหนุนจากราคายางมะตอยในประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากเกิดภาวะขาดแคลน หลังต้องการยางมะตอยที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วง High Season
อีกทั้งยังแนะนำ CPF คาดกำไร Q2/63 เติบโตโดดเด่น โดยมีแรงหนุนจาก ราคาหมู และราคาไก่ ในประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาหมูในประเทศเวียดนามยังอยู่ในระดับสูง 80,000-100,000 ดอง/กก. ประกอบกับได้ประโยชน์จากต้นทุนกากถั่วเหลืองที่ลดลง PTT- TOP-SPRC-PTTGC กลุ่มโรงกลั่น คาดว่าผลประกอบการจะฟื้นตัวสูงที่สุด PTT-TOP-SPRC และ PTTGC ตามลำดับ เนื่องจากได้รับผลบวกจากกำไร สต๊อกน้ำมันหลังราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นจาก 30$/bbl สู่ 40$/bbl โดยคาดว่ากำไรจะอ่อนตัวลงใน 3Q63 เนื่องจากไม่มีกำไรจากสต๊อกน้ำมันดิบ
ส่วนราคาทองคำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินว่า ในสัปดาห์นี้เราคาดว่าราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นทดสอบ 2,000 $/Oz หรือคิดเป็นราคาทองคำไทยที่ 29,970 บาทต่อบาททองคำ โดยได้แรงหนุนจากความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีนที่ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น นอกจากนี้การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปัจจัยหนุนเพิ่มเติม