22 มิถุนายน 2563 : นายเสนธิป ศรีไพพรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าธุรกิจ ทีเอ็มบี กล่าวว่า การตั้งรับเชิงรุกในสถานการณ์โควิด-19 ธนาคารเข้าใจปัญหาและพร้อมช่วยเหลือลูกค้าให้สามารถปรับตัวและเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ธุรกิจเดินต่อไปได้ จึงได้ผนึกกำลังกับพันธมิตรลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ผ่านโปรแกรมซัพพลายเชน เพื่อสนับสนุนและช่วยเหลือพยุงอุตสาหกรรมหลักของไทยก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน โดยจับมือกับ กลุ่มบุญรอดบริวเวอรี่ พันธมิตรทางธุรกิจรายใหญ่ในอุตสาหกรรมอุปโภคบริโภคที่สำคัญในระบบเศรษฐกิจไทย และเป็นพันธมิตรลูกค้าหลักของโปรแกรมซัพพลายเชนมายาวนาน มาร่วมให้ความช่วยเหลือคู่ค้า SME เพราะมีความตั้งใจตรงกัน มองว่า SME เป็นกำลังสำคัญในการเติบโตของเศรษฐกิจไทย
มาตรการช่วยเหลือจากทีเอ็มบีให้แก่คู่ค้า SME ของกลุ่มบุญรอดบริวเวอรี่ในครั้งนี้ ได้แก่
1) มาตรการพักชำระหนี้ ให้แก่ตัวแทนจำหน่ายของกลุ่มบุญรอดฯ กว่า 250 ราย โดยได้เริ่มพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2563 เป็นระยะเวลานาน 6 เดือน ซึ่งช่วยลดภาระทางการเงิน ทำให้คู่ค้าที่เป็น SME มีสภาพคล่องสามารถนำเงินทุนที่มีอยู่ไปใช้ในกิจกรรมจำเป็นด้านอื่น ๆ เพื่อไม่ให้ธุรกิจต้องหยุดชะงัก
2) มาตรการช่วยเหลือให้เงินทุนหมุนเวียน (Soft loan) แก่ดีลเลอร์ของกลุ่มบุญรอดฯ ที่อยู่ในโปรแกรมซัพพลายเชน คิดเป็นวงเงินสินเชื่อกว่า 10 ล้านบาท เพื่อให้ SME มีเงินทุนไปใช้ต่อยอดธุรกิจและรักษาการจ้างงานไว้ได้
นายณัยณพ ภิรมย์ภักดี DVP – Head of CFO Office และ DVP – Head of Financial Strategy & Policy บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของบริษัทฯ ทั้งซัพพลายเชน ตั้งแต่ซัพพลายเออร์จนถึงตัวแทนจำหน่าย ถือเป็นสถานการณ์ที่ท้าทายต่อการดำเนินธุรกิจอย่างยิ่ง บริษัทฯ จึงได้มีการให้ความช่วยเหลือแก่ตัวแทนจำหน่ายที่ทำธุรกิจกับกลุ่มบุญรอดฯ และต้องการความช่วยเหลือ โดยพิจารณาให้วงเงินเครดิตเพิ่มเติมเป็นพิเศษ รวมทั้งขยายระยะเวลาเครดิตเทอม เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ตัวแทนจำหน่ายทำให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้
“โดยเริ่มโครงการซัพพลายเชน ไฟแนนซิ่ง โซลูชัน ( Supply Chain Financing Solution ) สามารถใช้วงเงินได้ตรงตามวัตถุประสงค์ มีต้นทุนทางการเงินที่เหมาะสมและคู่ค้าของกลุ่มบุญรอดฯ เข้าถึงได้ ทำให้การบริหารจัดการกระแสเงินสดในการดำเนินธุรกิจมีความคล่องตัว ช่วยให้คู่ค้ามีสภาพคล่องมาสนับสนุนการค้าขายและการผลิตได้มากขึ้น ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจทั้งระบบ ซึ่งความร่วมมือในช่วงที่ผ่านมาสามารถช่วยเหลือคู่ค้าของกลุ่มบุญรอดฯ มาตลอด เช่นเดียวกับในครั้งนี้ การจับมือกันจะทำให้คู่ค้ารายเล็กสามารถก้าวข้ามวิกฤตไปได้และฟื้นตัวเร็วขึ้น” นายณัยณพ กล่าว 
