กรุงเทพฯ 16 มิถุนายน 2563 : นายไบรอัน สมิธ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต เปิดเผยว่า แม้สถานการณ์โควิด-19 จะทำให้สภาพเศรษฐกิจมีความท้าทายยิ่งขึ้น อลิอันซ์ อยุธยา มองว่าเป็นโอกาสในการเร่งเครื่องสู่การทำงานแบบดิจิทัล สำหรับช่องทางตัวแทนนั้น จากการที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ทำให้ในปัจจุบัน ตัวแทนสามารถขายประกันโดยไม่ต้องพบหน้าลูกค้าได้
โดยอลิอันซ์ อยุธยา มีการต่อยอดจาก อลิอันซ์ ดิสคัฟเวอร์ (Allianz Discover – AZD) ซึ่งเป็นเครื่องมือดิจิทัลเพื่อสนับสนุนการขายสำหรับตัวแทน โดยพัฒนาให้มีฟังก์ชั่นในการให้ลูกค้าสามารถเซ็นชื่อในระบบเพื่อพิสูจน์ตัวตนได้ ทำให้ทั้งลูกค้าและตัวแทน ได้รับประสบการณ์การซื้อขายที่ดี และคาดว่าวิธีการขายแบบนี้จะกลายเป็น “วิถีใหม่” หรือ New Normal ของวงการประกันไทยในอนาคต
นอกจากนั้น สืบเนื่องจากการที่ช่วงโควิด ทำให้มีการควบคุมการเดินทางไปมาหากัน ยอดการใช้งาน AZD จึงเพิ่มสูงขึ้นแตะที่ 87% และคาดว่าตัวแทนจะเข้าสู่การใช้ดิจิทัลแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ภายในสิ้นปีนี้
ในส่วนของลูกค้าเองก็หันมาใช้บริการออนไลน์เพิ่มมากขึ้น โดยยอดการใช้งาน My Allianz ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นสำหรับบริหารกรมธรรม์ออนไลน์ด้วยตัวเอง ก็เพิ่มสูงขึ้นถึง 200% ในเดือนเมษายนเดือนเดียว โดยบริการที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่ การสมัครรับผลประโยชน์ผ่านทางธนาคาร การกู้เงินตามกรมธรรม์ และ การชำระเบี้ยประกันออนไลน์ นอกจากนั้น บริการเทเลเมดิซีน ซึ่งให้บริการบนแฟลทฟอร์ม เฮลทตี้ ลีฟวิ่ง ทอล์ค ก็มียอดดาวน์โหลดสูงขึ้นถึง 5,000 คนและมีการใช้งานสูงถึงกว่า 2,100 ครั้งในเดือนเมษายน
สำหรับพนักงาน อลิอันซ์ อยุธยา เอง เรื่องของความปลอดภัยเป็นสิ่งที่บริษัทฯให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ในช่วงที่การระบาดของโรครุนแรงอย่างมากในเดือน มีนาคม – พฤษภาคม ทางบริษัทฯได้บริหารจัดการให้พนักงานกว่า 90% สามารถทำงานจากที่บ้านได้ และจากผลสำรวจความคิดเห็นพนักงาน 46% เห็นว่า การอนุญาตให้พนักงานทำงานจากที่ใดก็ได้ โดยไม่ต้องเข้าสำนักงาน หรือ Work Anywhere จะกลายเป็น New Normal สำหรับทั้งบริษัทและทีมงานของเรา
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาสแรกของปี 2563 จากสถานการณ์โควิด 19 ที่กระทบกับเศรษฐกิจโดยรวมทั้งระบบ ส่งผลให้กำลังการซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง อย่างไรก็ตาม อลิอันซ์ อยุธยา ยังสามารถสร้างผลงานที่ดีสวนกระแส โดยมีเบี้ยประกันภัยรับปีแรก เติบโต 22.8 % อยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท ช่องทางตัวแทนเติบโต 15.6% สร้างเบี้ยได้ 566 ล้านบาท ช่องทางแบงก์แอสชัวรันซ์สร้างเบี้ย 296 ล้านบาท เติบโต 17.4% ช่องทางขายตรงยังคงครองอันดับหนึ่งในตลาดด้วยเบี้ย 464 ล้านบาท เติบโต 4.5% ส่วนช่องทางอื่นๆ ได้แก่ ประกันกลุ่ม และ ดิจิทัล สร้างเบี้ยอยู่ที่ 133 ล้านบาท เติบโตก้าวกระโดดถึง 144.3% ซึ่งเป็นผลมาจากการปิดดีลใหญ่ได้ในช่วงต้นปี”
โดยในไตรมาสแรก ที่ผ่านมา อลิอันซ์ อยุธยามีสัดส่วนเบี้ยประกันสุขภาพต่อเบี้ยรวมทั้งหมดถึง 42.8% ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเมื่อเทียบกับบริษัทประกันอื่นๆในตลาด ทั้งนี้ การเติบโตธุรกิจสุขภาพได้อย่างต่อเนื่องเป็นผลจากการดำเนินกลยุทธ์ที่เน้นไปที่ การบริหารจัดการช่องที่ทางหลากหลาย การเปิดตัวผลิตภัณฑ์สุขภาพใหม่ พันธมิตรร่วมกับกลุ่มบีดีเอ็มเอส และ การมอบบริการสุขภาพเพิ่มเติมให้แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง