27 พฤษภาคม 2563 : ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน กรรมการและประธานคณะผู้บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI เปิดเผยว่า กรุงเทพประกันภัย มีผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปี 2563 ด้วยเบี้ยประกันภัยรับรวม เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 25.3 หรือเท่ากับ 6,136.1 ล้านบาท มีกำไรสุทธิจากการรับประกันภัยหลังหักค่าใช้จ่ายดำเนินงาน 328.5 ล้านบาท และรายได้สุทธิจากการลงทุน 459.7 ล้านบาท กำไรก่อนภาษีเงินได้ 788.2 ล้านบาท และเมื่อหักภาษีเงินได้แล้ว บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 668.8 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐานเท่ากับ 6.28 บาท
ดังนั้น ในไตรมาสสองคาดว่าจะมีแนวโน้มเป็นไปตามเป้าหมาย แต่การเติบโตอาจจะแผ่วลงจากการได้รับผลกระทบของสถานการณ์การแพร่เชื้อไวรัส COVID-19 อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ก็ยังคาดว่าจะบรรลุเป้าหมายเบี้ยประกันภัยรับตลอดทั้งปี 22,800 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 8
สำหรับแนวโน้มธุรกิจประกันวินาศภัยไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 เล็งเห็นว่า ยังมีปัจจัยบวกหลายประการที่จะส่งผลดีต่อธุรกิจ แม้ปัจจุบันธุรกิจประสบกับความท้าทายทั้งจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างชัดเจน การส่งออกหดตัว ยอดขายรถยนต์ใหม่ที่ชะลอตัวอย่างมาก และผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่สร้างความเสียหายต่อชีวิตมนุษย์และการดำเนินธุรกิจทั่วโลก ซึ่งปัจจัยบวกที่จะสร้างโอกาสให้กับธุรกิจประกันวินาศภัย ได้แก่ โปรเจคพิเศษกล่าวคือ ประกันภัยโควิด-19 ที่มีเบี้ยประกันรับเพิ่มเข้ามาถึง 300 ล้านบาท อีกทั้งเบี้ยรับจากประกันภัยสหกรณ์ออมทรัพย์อีก 220 ล้านบาท และประกันภัยทรัพย์สินส่วนต่อขยาย ซึ่งก็จะต่อเนื่องไปยังไตรมาสที่ 2 ด้วย
นอกจากนี้ ยังมีการรับประกันภัยโครงการขนาดใหญ่ ของภาครัฐ ที่คาดว่าจะมีเบี้ยประกันรับไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท รวมไปถึงการประกันภัยข้าวนาปีและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ที่มีเบี้ยประกันรับโดยรวมเพิ่มขึ้นเป็น 400 ล้านบาท การท่องเที่ยวที่คาดว่าจะกลับมาเริ่มดำเนินการในไตรมาสที่ 3 และจะเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศได้ภายในเดือนตุลาคม (ที่มา: ททท.) การรักษาอัตราการต่ออายุและขยายฐานลูกค้ารายย่อย ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ มีอัตราการต่ออายุกรมธรรม์มากกว่า 90%
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังพัฒนาผลิตภัณฑ์กรมธรรม์ประกันสุขภาพให้ความคุ้มครองครอบคลุมถึงประกันภัย COVID-19 คือ ประกันภัย 3 โรคกวนใจเพิ่มภัยโควิด ซึ่งโรคที่มักจะระบาดในช่วงเวลาดังกล่าว ได้แก่ โรคไข้หวัดใหญ่ และโรคที่มียุงเป็นพาหะ เช่น ไข้เลือดออก ชิคุนกุนยา เป็นต้น และโรคมือ เท้า ปากเปื่อย และอุ่นใจเพิ่มขึ้นด้วยความคุ้มครองโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19)
โดยโรคระบาดเหล่านี้ ถึงแม้ว่าจะไม่รุนแรงมากแต่ก็ค่อนข้างมีความเสี่ยงและอาจจะทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้สำหรับคนบางกลุ่มโดยเฉพาะเด็กและผู้ที่มีโรคประจำตัว โดยเฉพาะคนไข้ที่เป็นโรคเหล่านี้อาจจะต้องใช้เวลารักษาตัวในโรงพยาบาลอย่างน้อย 2-7 วัน หรืออาจจะนานกว่า 1 สัปดาห์ก็ได้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น การแสดงอาการ ความรุนแรงของอาการ เป็นต้น โดยเบี้ยประกันภัยเริ่มตั้งแต่ 490-980 บาท ความคุ้มครอง 30,000-50,000 บาท พร้อมกับคาดว่าจะมีผลงานในทุกช่องทางอยู่ที่ 100 ล้านบาท
ดร.อภิสิทธิ์ กล่าวต่อไปว่า บริษัทฯ ยังเพิ่มการลงทุนทางด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องในการยกระดับคุณภาพการให้บริการ พร้อมรองรับ New Normal Lifestyle ด้วยการปรับเปลี่ยน Core Business System (CBS) ขยายการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ (Robotic Process Automation: RPA) มาปรับปรุงกระบวนการทำงานทั้งด้านรับประกันภัยและสินไหมทดแทนเพื่อให้ลูกค้าและคู่ค้าได้รับความสะดวกรวดเร็วขึ้นแล้ว โดยตั้งเป้าเป็น Data Driven Organization ปรับปรุงระบบ Enterprise Data Warehouse ของบริษัทฯ เพื่อใช้ข้อมูลในการวิเคราะห์อย่างถูกต้องและรวดเร็ว ทันต่อสถานการณ์ สนับสนุนการทำงานและการตัดสินใจอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
นอกเหนือจากนี้ สำหรับกรณี “การบินไทย” บริษัทฯ ได้รับประกันภัยไว้ส่วนหนึ่งโดยเบี้ยประกันภัยต่ออายุทำไปแล้วตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562 โดยการบินไทยจ่ายเบี้ยประกันเต็มจำนวนภายใต้เงื่อนไขว่า… ไม่ว่าระหว่างปีกรมธรรม์จะมีความเสี่ยงที่ผันแปรไปอย่างไรก็ตาม ก็จะไม่มีการปรับเพิ่มหรือลดเบี้ยประกันภัย แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ อยู่เหนือการคาดเดาของคนทั้งโลก เพราะฉะนั้น เครื่องบินต้องหยุดบิน 3 เดือน ซึ่งจอดไว้เฉยๆ ก็มีความเสี่ยง
“แต่อย่างไรก็ตาม แนวโน้มขณะนี้ต้องพิจารณากันถึงเบี้ยประกันปีต่ออายุที่จะเกิดขึ้นในเดือนธันวาคมปี 2563 ที่จะถึงนี้ แต่ผู้ที่จะกำหนดเบี้ยประกันภัยคือ บริษัทรับประกันภัยต่อต่างประเทศ เราอาจจะสมมุติว่าได้ส่วนลดเบี้ย 20% แต่ถ้าเบี้ยประกันภัยในตลาดการบินปี 2564 ปรับขึ้นมา 30-40% เพราะมีค่าสินไหมทดแทนที่จ่ายออกไปมากจากการลงจอดที่เสียหาย หรือเครื่องบินตก ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในอนาคตอีกว่าจะเป็นไปในทิศทางใดโดยไม่ถือเป็นคำตอบสุดท้ายในเวลานี้” ดร.อภิสิทธิ์ กล่าว
ส่วนอีก 2 สายการบินที่บริษัทฯ ก็รับประกันภัยไว้ด้วยได้แก่ ไทยแอร์เอเชีย และบางกอกแอร์เวย์ จะมีการต่ออายุในเดือนพฤษภาคม ซึ่งก็พอดีกับช่วงสถานการณ์โควิด-19 เกิดขึ้น แต่ก็คงต้องพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
นอกจากนี้ สำหรับการขยายตลาดประกันภัยต่างประเทศ บริษัทฯ มีผลงานโดยรวมในปี 2562 ประมาณ 500 ล้านบาท จากประเทศเวียดนาม, พม่า, ลาว และ เขมร ซึ่งจากแผนงานเดิมนั้นจะเปิดสำนักงานตัวแทนที่ประเทศพม่า ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2563 นี้ แต่ต้องเลื่อนออกไปเนื่องจากติดสถานการณ์โควิด-19