21 พฤษภาคม 2563 : นายพรชลิต พลอยกระจ่าง รองกรรมการผู้จัดการ Head of Real Estate & Infrastructure Investment บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด หรือ กองทุนบัวหลวง เปิดเผยว่า กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้ากลุ่มน้ำตาลบุรีรัมย์ (BRRGIF) ประกาศจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 9 จากผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 31 มีนาคม 2563 และกำไรสะสม ในอัตราหน่วยละ 0.11529 รวมทั้งจ่ายเงินลดทุนครั้งที่ 4 ในอัตราหน่วยละ 0.20 บาท โดยการลดมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) จากหน่วยละ 9.35 บาท เหลือหน่วยละ 9.15 บาท หรือรวมแล้วจ่ายเงินปันผลพร้อมจ่ายเงินลดทุนเป็นเงินทั้งสิ้น 0.31529 บาทต่อหน่วย
ทั้งนี้ บริษัทจัดการกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน ในวันที่ 1 มิถุนายน 2563 เพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือหน่วยลงทุนในการรับเงินปันผลและรับเงินลดทุน โดยมีกำหนดจ่ายเงินในวันที่ 16 มิถุนายน 2563 ที่จะถึงนี้
เมื่อนับรวมตั้งแต่จัดตั้งกองทุนจนถึงการประกาศจ่ายเงินปันผลและจ่ายเงินลดทุนครั้งนี้ กองทุน BRRGIF จ่ายเงินปันผลรวม 9 ครั้ง เป็นเงิน 1.58609 บาทต่อหน่วย และจ่ายเงินลดทุน 4 ครั้ง เป็นเงิน 1.15 บาทต่อหน่วย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2.73609 บาทต่อหน่วย
สำหรับ ผลการดำเนินงานของกองทุน BRRGIF ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา หรือระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 31 มีนาคม 2563 มีรายได้รวม 57.07 ล้านบาท ปรับลดลง 10.87% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และลดลง 1.47% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยประกอบด้วยรายได้จากเงินลงทุนในสัญญาโอนสิทธิรายได้สุทธิ (NRTA) อยู่ที่ 56.90 ล้านบาท (ลดลง 10.10% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และลดลง 1.35% จากไตรมาสก่อน เพราะมูลค่าเงินลงทุนใน NRTA ลดลงจากการทยอยได้รับคืนเงินลงทุนดังกล่าว) และรายได้ดอกเบี้ยรับอยู่ที่ 0.17 ล้านบาท (ลดลง 77.03% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และลดลดง 29.17% จากไตรมาสก่อน)
รายได้จากการลงทุนสุทธิ ในไตรมาสแรก ปี 2563 อยู่ที่ 45.85 ล้านบาท ลดลง 19.79% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และลดลง 12.14% จากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการออกและเสนอขายหน่วยลงทุนตัดจำหน่ายเพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงมาตรฐานบัญชี
ในไตรมาสแรก กองทุน BRRGIF รับรู้การขาดทุนสุทธิที่ยังไม่เกิดขึ้นจากการวัดมูลค่าเงินลงทุน 5.50 ล้านบาท เนื่องจากการคืนเงินลงทุนจำนวน 71.51 ล้านบาท จึงส่งผลให้มูลค่าเงินลงทุนใน NRTA ลดลง เท่ากับ 71.51 ล้านบาท ในขณะที่การลดลงจากการวัดมูลค่าเงินลงทุนเท่ากับ 77 ล้านบาท (การวัดมูลค่าเงินลงทุนจาก 3,250 ล้านบาท เป็น 3,173 ล้านบาท)
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจ ลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต