23 มีนาคม 2563 : นายธนากร มนูญผล ผู้บริหารที่ปรึกษาการลงทุนและผลิตภัณฑ์ธนบดีธนกิจ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ให้ความเห็นว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ที่ยังคงส่งผลกระทบต่อภาพรวมการลงทุนทั่วโลก ซึ่งนับเป็นวิกฤตการณ์ครั้งประวัติศาสตร์เลยทีเดียว หากเทียบกลับไปเมื่อปี วิกฤตทางการเงินในประเทศสหรัฐฯ (Subprime Mortgage Crisis) ทำให้ช่วงจุดต่ำสุด 6 เดือนของตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีวันที่ตลาดปรับตัวลดลงมากกว่า 9% เพียง 1 วันเท่านั้น
ในขณะที่วิกฤตการณ์ไวรัส COVID-19 เพียงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวแต่ละวันมากกว่า 9% ถึง 3 ครั้ง และนับตั้งแต่ต้นปีปรับตัวลดลงมากกว่า 30% จนต้องใช้มาตรการหยุดซื้อขายหุ้นชั่วคราว (Circuit Breaker) ถึง 4 ครั้ง เช่นเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก รวมไปถึง ตลาดตราสารหนี้ น้ำมัน ทองคำ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน นักลงทุนเทขายสินทรัพย์ออกมามาก เพื่อถือครองเงินสด ซึ่งความผันผวนที่เราเจออยู่นี้ สูงที่สุดอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
สำหรับความร้ายแรงของวิกฤตครั้งนี้ ส่งผลให้ธนาคารกลางหลายประเทศ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบ เพื่อประคองเศรษฐกิจอย่างหนัก รวมถึงประเทศไทยด้วย แต่วิกฤตครั้งนี้ไม่ได้เหมือน Financial Crisis หลายๆ ครั้งที่ผ่านมาที่เกิดจาก Financial Sector เป็นหลัก แต่ครั้งนี้ปัญหาหลักจะเริ่มที่ Business Activity ที่ได้รับผลกระกล่าวคือ ประชาชนไม่ออกมาจับจ่ายใช้สอย การดำเนินธุรกิจของภาคธุรกิจหยุดชะงักลง ตัวเลขการบริโภค การลงทุนตกต่ำลง ซึ่งสุดท้ายจะส่งผลต่อผลประกอบการของธุรกิจแน่นอน
โดยก่อนเกิดวิกฤต Covid 19 นี้ SET Index Earning Forecast ก็ได้ปรับลดลงไปแล้วกว่า 7% จากปัจจัยค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่แล้ว และภาคการบริโภคที่ยังไม่แข็งแรง อีกทั้งราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงที่ระดับ 24 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ต่ำสุดเมื่อเทียบกับปี 2016 ซึ่งจะกระทบต่อ Sector ใหญ่ที่สุดของ SET Index อย่าง Energy Sector ดังนั้นผลกระทบจริงๆ เรายังคงประเมินได้ยาก หากสถานการณ์การระบาดยังไม่สิ้นสุด