24 สิงหาคม 2559: บริษัท ไทยศรีประกันภัย จำกัด (มหาชน) และ ERGO GROUP (แอโก้ กรุ๊ป) บริษัทประกันภัยชั้นนำจากยุโรปร่วมลงนามความร่วมมือในการพัฒนาศักยภาพการดำเนินธุรกิจประกันภัย ด้วยแนวทางการผสมผสานเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำสมัยแห่งยุคดิจิตอลสู่การยกระดับธุรกิจประกันภัยที่เหนือชั้นเพื่อก้าวสู่ความเป็นเลิศในระดับสากล
บริษัท ไทยศรีประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในบริษัทประกันภัยของประเทศไทย ซึ่งมีฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพสูงในการบริหารงานด้วยแนวโน้มทางธุรกิจที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันบริษัทฯ มีพนักงานมากกว่า 450 คน มีสาขา สำนักงานตัวแทน และศูนย์บริการมากกว่า 133 แห่งทั่วประเทศและความเชี่ยวชาญในการรับประกันวินาศภัย โดยมีการมุ่งเน้นที่การประกันภัยรถยนต์ และการประกันภัยทรัพย์สิน ซึ่งไทยศรีประกันภัยมีเบี้ยประกันภัยรับรวมในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 2,554 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 452 ล้านบาท และคาดไว้ว่าจะมีเบี้ยประกันภัยเพิ่มขึ้นในแต่ละปี อย่างน้อย 7% ตั้งแต่ปี 2559 – 2563
สำหรับการร่วมทุนดังกล่าว กลุ่มบริษัท ไพลักษณ์ จำกัด (ตระกูลพานิชชีวะ) ผู้ถือหุ้นหลักใน บริษัท ไทยศรีประกันภัย จำกัด(มหาชน) ธุรกิจประกันภัยมานานกว่า 63 ปี ได้แบ่งสัดส่วนร้อยละ 40.26 ให้กับ ERGO Group และ ผู้ถือหุ้นเดิม คือ ตระกูลพานิชชีวะ และ ตระกูลศรีเฟื่องฟุ้ง รวมกันในสัดส่วนร้อยละ 59.74 โดยมีคุณชาติชาย พานิชชีวะ เป็นประธานคณะกรรมการบริษัท และยังคงมีความคืบหน้าเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจที่จะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ก้าวหน้าให้ได้ร่วมติดตามในโอกาสต่อไป
นายนที พานิชชีวะ ประธานที่ปรึกษา บมจ.ไทยศรีประกันภัย กล่าวว่า ภายหลังจากการร่วมทุนในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ต้องรอให้มีกระบวนการร่วมทุนเรียบร้อยก่อน หลังจากนั้นจะมีการปรับรูปแบบบริษัทภายในเพื่อมุ่งเน้นการขยายตัวในอนาคต ซึ่งยอมรับว่าปีนี้ 2559 ด้านเบี้ยประกันภัยคงไม่เติบโตมากน้กหรือเติบโตเท่ากับปีที่ผ่านมาประมาณ 3,000 ล้านบาท แต่คาดว่าภายใน 3 ปีจะมีเบี้ยประกันที่ 4,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ข้อดีของการร่วมทุนนั้นส่งผลให้บริษัทฯ มีศักยภาพการรับงานได้ขนาดใหญ่มากยิ่งขึ้น ซึ่งไทยศรีฯ มีความถนัดด้านรับประกันภัยรถยนต์ฺ ส่วน ERGO Group มีจุดแข็งที่การประกันสุขภาพและประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (Non Motor) อีกทั้งภายในปีนี้บริษัทฯ มีเป้าหมายเพิ่มช่องทางการบริการชำระเบี้ยผ่านช่องทางออนไลน์ สมาร์ทโฟน หรือ เพย์เม้นท์ payment รวมถึงมีการจำหน่ายสินค้าที่เป็นแบบอิเล็คทรอนิกส์ แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาจากทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ.
ทางด้าน การัน โชปรา (Mr. Karan Chopra) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยศรีประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การลงนามครั้งนี้นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวสู่การเป็นบริษัทชั้นนำของประเทศไทยและทวีปเอเชียตลอดจนก้าวไปสู่ความเป็นเลิศในระดับสากล อีกทั้งยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในด้านการลงทุนระหว่างประเทศด้วยแม้ว่าธุรกิจประกันภัยจะมีการแข่งขันสูงแต่ปรากฏการณ์ครั้งนี้ คือแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้บริษัทได้พัฒนารูปแบบธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
โดยมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินธุรกิจระหว่างกลุ่มบริษัทที่มีศักยภาพสูงด้วยการเชื่อมโยงจุดแข็งระหว่างองค์กรเราเชื่อมั่นว่าการทำให้คู่แข่งและลูกค้าจดจำได้เป็นสิ่งจำเป็น ยิ่งไปกว่านั้นการเพิ่มยอดขาย การสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าการให้บริการอย่างมืออาชีพและความมั่นคงทางด้านการเงินยังเป็นปัจจัยสำคัญเพื่อดำรงไว้ซึ่งความก้าวหน้าของบริษัทของเราอย่างยั่งยืน”
ทั้งนี้ ERGO Group บริษัทประกันภัยชั้นนำในยุโรปที่รู้จักอย่างแพร่หลายทั่วโลกในฐานะหนึ่งในผู้นำของธุรกิจประกันภัยที่มีความมั่นคงและประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนาน ERGO Group ดำเนินธุรกิจภายใต้บริษัทประกันภัยต่อมิวนิครี (Munich Re) ซึ่งเป็นบริษัทผู้บริหารจัดการความเสี่ยงชั้นนำในด้านธุรกิจประกันภัยที่มีสาขามากกว่า 30 ประเทศทั่วโลก และกำลังขยายธุรกิจอย่างรวดเร็วโดยมีทวีปเอเชียรวมถึงประเทศไทย
ขณะเดียวกัน มร.เยอร์เกน ชมิทซ์ (Mr. Juergen Schmitz) ผู้ร่วมลงนามจาก ERGO Group กล่าวว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นจากการเข้าร่วมทุนกับไทยศรีประกันภัยในความร่วมมือครั้งนี้ จะทำให้เกิดการเชื่อมโยงศักยภาพทางธุรกิจ อันได้แก่ การถ่ายทอดและแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี ความรู้ในธุรกิจประกันภัย รวมทั้งกระบวนการบริหารและจัดการงานใหม่ ๆ ที่เป็นที่ยอมรับในสากล
โดยไทยศรีประกันภัยจะออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่สามารถขายได้ในตลาดนานาชาติ และจะดำเนินกลยุทธ์ทางธุรกิจในเชิงรุกยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันในกระแสโลกาภิวัฒน์เพื่อต่อสู่กับการแข่งขันในโลกที่ไร้พรมแดนในปัจจุบัน และพร้อมก้าวเข้าสู่ยุคดิจิตอลที่มีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งอย่างเต็มตัว โดยทั้งสององค์กรจะยืนหยัดความมั่นคงและคุณภาพที่โดดเด่นเพื่อความสำเร็จร่วมกันในภายภาคหน้า 
