3 มีนาคม 2563 : นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดการแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จึงได้จัดทำมาตรการเพิ่มเติม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ลูกค้าปัจจุบันของธนาคารที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวให้มีความสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันยิ่งขึ้น และครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทั้งในกรณีที่ยังมีสถานะผ่อนชำระปกติ และกรณีมีสถานะค้างชำระเงินงวดตั้งแต่เดือนมกราคม 2563 โดยเตรียมกรอบวงเงิน 10,000 ล้านบาท จัดทำ “มาตรการช่วยเหลือลูกค้าผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)”
โดยการ ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินงวดผ่อนชำระไม่เกิน 4 เดือน คิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลดลงเหลือ 1.00% ต่อปี เพื่อลดภาระหนี้ที่ผ่อนชำระกับ ธอส. ทุกวัตถุประสงค์การกู้ ซึ่งผู้ขอรับมาตรการช่วยเหลือต้องมีคุณสมบัติ คือ เป็นลูกค้าปัจจุบันของ ธอส. ที่รายได้ต่อเดือนได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้แก่ ไกด์นำเที่ยว พนักงานโรงแรม ผู้ประกอบการรายย่อยที่ขายสินค้าในแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยว ในประเทศกลุ่มเสี่ยง หรืออาชีพอื่นที่แสดงหลักฐานให้ธนาคารตรวจสอบได้ว่าเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจริง อาทิ หนังสือรับรองจากหน่วยงานว่าถูกลดวันทำงาน ลดเงินเดือนหรือค่าจ้าง หรือถูกเลิกจ้าง หรือทะเบียนการค้า หรือสัญญาเช่าร้าน เป็นต้น
ธนาคารจะยกเว้นค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบยื่นเอกสารเพื่อเข้าร่วมมาตรการได้ที่สาขาของธนาคารอาคารสงเคราะห์ทุกแห่ง ทั่วประเทศ ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 และธนาคารสงวนสิทธิ์ในการกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดโครงการก่อนกำหนด หากธนาคารให้สินเชื่อเต็มวงเงินของโครงการแล้ว เนื่องจากวงเงินมีจำกัด กำหนดเงื่อนไข การใช้วงเงินลูกค้าที่ยื่นคำขอก่อนได้สิทธิก่อน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center) โทร 0-2645-9000 และ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ส่วนมาตรการทางด้านสถานที่ ธอส. ยังได้จัดทำจุดคัดกรองโดยนำเครื่องวัดอุณหภูมิทางร่างกายแบบดิจิตอล มาใช้ในการตรวจลูกค้าและพนักงาน พร้อมทั้งจัดแอลกอฮอล์เจลล้างมือ บริเวณทางเข้าอาคารทั้งที่สำนักงานใหญ่ และสาขาต่าง ๆ โดยเฉพาะสาขาที่ตั้งอยูใน 8 จังหวัดเฝ้าระวัง ประกอบด้วย กรุงเทพฯ เชียงใหม่ เชียงราย กระบี่ ภูเก็ต ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรปราการ และชลบุรี หากพบว่าลูกค้ามีอุณหภูมิร่างกายเกิน 37.5 องศาเซลเซียส จะแจกหน้ากากอนามัย และแยกการให้บริการออกมาในพื้นที่เฉพาะเพื่อป้องกันความเสี่ยง
ขณะที่พนักงาน ที่เดินทางไปประเทศในกลุ่มเสี่ยง เมื่อกลับมาธนาคารให้พนักงานทำงานแบบ Work from home เป็นเวลา 7 วัน ถ้าไม่มีอาการป่วยหลังจากนั้นจะต้องติดตามอาการและรายงานผู้บังคับบัญชาจนกว่าจะครบ 14 วัน และธนาคารได้ออกประกาศคำสั่งภายในธนาคาร เรื่องแนวทางปฏิบัติตนของพนักงานกรณีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ 2019 (COVID-19) อาทิ งดจัดงานสัมมนา ดูงาน หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก และกำหนดแนวทางปฏิบัติตนในกรณีต่าง ๆ ที่อาจมีความเสี่ยงจากการเดินทาง