2 มีนาคม 2563 : ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณีเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ (หัวลาก) หมายเลขทะเบียน 70-5088 ขอนแก่น (ตัวพ่วง) หมายเลขทะเบียน 70-5567 ขอนแก่น เบรกแตกทำให้พุ่งชนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ได้รับความเสียหาย 18 คัน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 21 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2563 บริเวณถนนมิตรภาพ ตำบลท่าพระ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
เบื้องต้น เลขาธิการ คปภ. ได้รับรายงานเบื้องต้นจาก สำนักงาน คปภ. จังหวัดขอนแก่น ว่า รถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ (หัวลาก) หมายเลขทะเบียน 70-5088 ขอนแก่น ได้ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับ บริษัทไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์เลขที่ 006D/MC00-19-000118 เริ่มคุ้มครองวันที่ 31 มีนาคม 2562 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 31 มีนาคม 2563 และได้ทำประกันภัยรถภาคสมัครใจ (ประเภท 1) ไว้กับ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน)กรมธรรม์เลขที่ 05969-63102/กธ/000424-10 เริ่มคุ้มครองวันที่ 31 ธันวาคม 2562 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 31 ธันวาคม 2563
โดยคุ้มครองความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย อนามัย ของบุคคลภายนอก 500,000 บาท ทรัพย์สินของบุคคลภายนอก 1,000,000 บาท และคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์คันเอาประกันภัย 1,200,000 บาท สำหรับส่วนตัวพ่วงหมายเลขทะเบียน 70-5567 ขอนแก่น ได้ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับ บริษัทไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์เลขที่ 001D/MC00-19-008942 เริ่มคุ้มครองวันที่ 31 มีนาคม 2562 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 31 มีนาคม 2563 ไม่มีการประกันภัยรถภาคสมัครใจไว้แต่อย่างใด
ในส่วนรถยนต์และรถจักรยานยนต์คู่กรณีที่ได้รับความเสียหาย จำนวน 18 คัน พบว่า มีการทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้ จำนวน 15 คัน ซึ่งในจำนวนนี้ จัดทำประกันภัยรถภาคสมัครใจไว้ด้วยจำนวน 8 คัน ส่วนรถจักรยานยานยนต์ที่ได้รับความเสียหายอีก 3 คัน เบื้องต้นตรวจสอบไม่พบข้อมูลการทำประกันภัยไว้
สำหรับการติดตามการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้บาดเจ็บทั้ง 21 รายนั้น สำนักงาน คปภ. จังหวัดขอนแก่น ได้ลงพื้นที่ร่วมกับบริษัทประกันภัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับรองสิทธิค่ารักษาพยาบาลกับโรงพยาบาลโดยตรงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยและเดินทางกลับบ้านแล้ว ส่วนการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ทั้ง 18 คัน
ขณะนี้ได้มีการประเมินราคาความเสียหายของรถยนต์และรถจักรยานยนต์แต่ละคันเพื่อดำเนินการส่งซ่อมต่อไป ทั้งนี้ สำหรับความเสียหายในส่วนอื่นๆ เช่น ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ค่าขาดรายได้ เป็นต้น อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยโดยเร่งด่วนต่อไป
“สำนักงาน คปภ. มีความห่วงใยประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาและทุกสถานที่ จึงควรทำประกันภัยไว้ทั้งภาคบังคับและภาคสมัครใจ หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามได้ที่สายด่วน คปภ. 1186” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย