26 กุมภาพันธ์ 2563 : นายจิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ Private Banking Group Head ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ด้วยการทำงานอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตร Lombard Odier ผู้ให้บริการไพรเวทแบงค์ระดับสากล KBank Private Banking เตรียมขับเคลื่อนธุรกิจและความมั่งคั่งของลูกค้าผ่านกลยุทธ์ ‘3S’ ได้แก่
1) Sustainable investment approach
2) New dimension of wealth sharing
3) S-Curve re-innovation
Sustainable investment approach : ผลักดันให้เกิดการลงทุนที่สนับสนุนระบบเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืน
นางสาวศิริพร สุวรรณการ Private Banking Financial Advisory Head ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า “องค์กรชั้นนำทั่วโลกเริ่มให้ความสำคัญกับการสนับสนุนธุรกิจที่คำนึงถึงความยั่งยืนของโลกมากขึ้น เพราะบริษัทเหล่านี้ไม่ได้เพียงมีส่วนช่วยโลกและสังคม แต่ยังมีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว ซึ่งจะส่งผลให้มีมูลค่าสูงกว่าบริษัททั่วไป KBank Private Banking จึงได้นำแนวคิดความยั่งยืนมาผนวกอยู่ในทุกคำแนะนำการลงทุน เพื่อลดความเสี่ยงและสร้างผลตอบแทนที่มั่นคง พร้อมนำเสนอกลยุทธ์การลงทุนที่สร้างการเปลี่ยนแปลงและผลกระทบเชิงบวก (Impact Investing) รวมถึงกองทุนเพื่อความยั่งยืน (Sustainability Fund) อย่างต่อเนื่อง”
“ในปี 2562 เราได้นำเสนอกองทุน K-HIT ซึ่งเปิดให้ลูกค้าได้ลงทุนในธีมธุรกิจเมกะเทรนด์เด่น ๆ เช่น พลังงานแห่งอนาคต (Next Generation Energy) การจัดการคุณภาพดินและน้ำ (Clean Water and Land) และ นวัตกรรมการแพทย์และดูแลสุขภาพ (Health Tech) เป็นต้น ซึ่งถือเป็นหนึ่งกองทุนที่เติบโตได้ดีแม้ในสภาพตลาดขาลง เช่น ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2563 ที่ตลาดหุ้นทั่วโลกได้รับผลกระทบหนักจากการแพร่ระบาดของ “ไวรัสโควิด-19” กองทุน K-HIT ยังสามารถสร้างผลตอบแทนได้ถึง 13.75%*” นางสาวศิริพร กล่าวเสริม
New dimension of wealth sharing : สร้างมิติใหม่ของการจัดสรรและแบ่งปันความมั่งคั่งเพื่อผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม
ดร. ตรีพล ภูมิวสนะ Private Banking Business Head ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า “สภาวะการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นในปัจจุบันไม่ได้ส่งผลต่อเพียงการดำเนินธุรกิจเท่านั้น แต่ยังส่งผลถึงกิจกรรมเพื่อสังคมด้วย เนื่องจากองค์กรสาธารณกุศลขนาดใหญ่ในประเทศไทย ที่มีสินทรัพย์รวมมูลค่าหลายแสนล้านบาท ยังคงเลือกบริหารจัดการกองทุนโดยรับความเสี่ยงต่ำเป็นหลัก ซึ่งไม่เอื้อให้เกิดผลตอบแทนต่อเนื่อง และสร้างประโยชน์ให้แก่สังคมต่อได้อย่างเต็มศักยภาพ”
“ในปีนี้ KBank Private Banking จึงเตรียมเดินหน้าเปิดมิติใหม่ในการบริหารจัดการสินทรัพย์เพื่อสาธารณกุศล เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกโดยตรงต่อสังคม ผ่านการเพิ่มศักยภาพให้กับมูลนิธิในการบริหารจัดการความเสี่ยงและการเงินอย่างเหมาะสม พร้อมร่วมกับ Lombard Odier ในการให้คำปรึกษาในการจัดการกองทุน ระดมทุน และวางโครงสร้างองค์กร รวมถึงจัดงานสัมมนาร่วมกับกองทุนระดับโลก เพื่อถ่ายทอดความรู้เรื่องการบริหารจัดการกองทุนมูลนิธิแก่องค์กรของไทย” ดร. ตรีพล กล่าวเพิ่มเติม
S-Curve re-innovation : เปิดประตูสู่องค์ความรู้ด้านนวัตกรรมระดับโลก เพื่อสร้างศักยภาพใหม่ให้ธุรกิจไทย
นายนนท์ บุรณศิริ Private Banking Family Wealth Management Advisory Head ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า “ความเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีเป็นอีกปัจจัยที่สร้างความกังวลให้กับลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูง ซึ่งล้วนเป็นเจ้าของกิจการขนาดใหญ่ที่กำลังมองหารูปแบบธุรกิจใหม่ๆ KBank Private Banking ต้องการที่จะเป็นตัวเชื่อมระหว่างบริษัทเทคโนโลยีรุ่นใหม่ของโลกซึ่งต้องการเงินลงทุน กับลูกค้าของเราที่แสวงหาโอกาสใน S-Curve ใหม่”
“ที่ผ่านมาเราได้จัดกิจกรรมเพื่อแบ่งปันองค์ความรู้ด้านโมเดลธุรกิจใหม่ๆ ให้แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เช่น KPB Academy และเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้เข้าถึงเครือข่าย Disruptor ระดับโลก โดยเราพร้อมสนับสนุนให้ลูกค้าในการลงทุนในธุรกิจเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนให้เกิดการจ้างงานรูปแบบใหม่ และการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ” นายนนท์ กล่าวเสริม
“KBank Private Banking เชื่อมั่นว่ากลยุทธ์ทั้ง 3 ด้านจะทำให้เรารักษาตำแหน่งผู้นำธุรกิจการบริหารความมั่งคั่งครบวงจรของไทยไว้ได้” นายจิรวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย