13 กุมภาพันธ์ 2563 : แบงก์ทหารไทย เตรียมขายหุ้นธุรกิจกองทุนที่เหลือ 40% ให้กลุ่มพรูเด็นเชียลภายในปี 67 เพื่อเดินหน้าเป็น Open Architecture เต็มตัว ด้านพรูเด็นเชียล พร้อมลงทุนเพิ่มทั้งธุรกิจประกันและกองทุนรวมในไทยเพิ่ม
นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB เปิดเผยว่า ธนาคารรู้สึกยินดีที่ได้ขยายความร่วมมือกับอีสท์สปริง หลังจากทางพรูเด็นเชียล คอร์ปอเรชั่น เอเชีย ได้เข้าซื้อหุ้นบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาตจำกัด (TFUND) จำนวน 50.1% จากธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) (TBANK) และธนาคารออมสิน (GSB)
และนับตั้งแต่ทางพรูเด็นเชียลเข้าลงทุนในกองทุนรวมทหารไทยผ่านอีสท์สปริง เมื่อปี 2561 ซึ่งทำให้สินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) ของ TMBAM Eastspring ได้เติบโตมากกว่า 20% และมีฐานลูกค้าที่เติบโตขึ้นขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ด้วยการเสนอขายกองทุนใหม่ (IPO) ที่มีขนาดกองทุนใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาของบริษัทถึง 2 กองทุน ได้แก่กองทุน TMB Eastspring Global Smart Bond Fund และกองทุน Thanachart Eastspring Global Technology Fund
อย่างไรก็ตาม ธนาคารมีแผนที่จะขายหุ้นธุรกิจกองทุนที่เหลือให้กับทางพรูเด็นเชียลภายในระยะ 5 ปี จากนี้ (ปี 2567) ปัจจุบันธนาคารถือหุ้นในบลจ.ทั้งในส่วนของบลจ.ธนชาตและบลจ.ทหารไทยเฉลี่ยรวมกันอยู่ที่ 40% แบ่งการถือหุ้นในบลจ.ธนชาตประมาณ 49% และบลจ.ทหารไทยประมาณ 30% แม้ว่าธนาคารจะไม่ได้ถือหุ้นบลจ.ดังกล่าว ธนาคารยังเดินหน้าทำ Open Architecture กองทุนรวมอย่างเต็มที่ ซึ่งธนาคารทำเป็นเจ้าแรก และเชื่อว่าจะช่วยให้ประชาชนออมเงินผ่านกองทุนได้ง่ายขึ้น พร้อมกันนี้ลูกค้าสามารถซื้อกองทุนต่างๆผ่านทีเอ็มบีทัช(โมบายแบงก์กิ้ง)ได้เลย รวมถึงกองทุนของธนชาตด้วย
นายนิค นิแคนดรู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พรูเด็นเชียล คอร์ปอเรชั่น เอเชีย กล่าวว่า การเข้าซื้อหุ้นบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาตจำกัด (TFUND) เพื่อสะท้อนการผสานความแข็งแกร่งของทั้งสององค์กร การลงทุนครั้งนี้ถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จของอีสท์สปริงจากการเข้าถือหุ้น 65% ในบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนทหารไทย จำกัด (TMBAM Eastspring) เมื่อเดือนก.ย.2561 ที่ผ่านมา อีกทั้งยังเป็นการข้าซื้อกิจการที่มีศักยภาพสูงในตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศไทยและเป็นการกระชับความสัมพันธ์กับธนาคารทหารไทย (TMB) และธนาคารธนชาต (TCAP) ให้ดีกว่าเดิมด้วยยิ่ง
การที่กลุ่มพรูเด็นเชียล เข้ามาลงทุนในประเทศไทยนั้น ตั้งเป้าหมายลงทุนแบบระยะยาว แม้ว่าในช่วงนี้เศรษฐกิจเติบโตช้า อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ และการระบาดของไวรัสโคโรนาเข้ามากระทบในขณะนี้ก็ตาม ทางพรูเด็นเชียลพร้อมลงมุนเพิ่มทั้งธุรกิจประกันและกองทุนรวม มั่นใจประเทศไทยที่จะสามารถต่อยอดผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้กับประชาชนคนไทยได้เพิ่มขึ้น ด้วยการที่พรูเด็นเชียลมีการดำเนิงานมากว่า 95 ปีในตลาดเอเขีย ทำให้มองเห็นผู้คนในการให้ความสำคัญกับสินค้าประกัน เพื่อช่วยปกป้องสุขภาพ และการที่เศรษฐกิจชะลอตัวทำให้จำเป็นต้องทำงานหนักขึ้น