10 กุมภาพันธ์ 2563 : เมื่อสัปดาห์ก่อน ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือธปท. ประกาศเปิดการทดสอบการยืนยันตัวตนทางดิจิทัลข้ามธนาคารเพื่อเปิดบัญชีเงินฝาก ภายใต้ Regulatory Sandbox ตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ.63 ที่ผ่ายมา งานนี้แบงก์ใหญ่แบงก์เล็กไม่มีทางที่จะน้อยหน้ากัน เพราะหากใครเร็วทำก่อนคนนั้นชนะเสมอ ทำให้หลายธนาคารได้มีการพัฒนาระบบดิจิทัลให้มีศักยภาพมากที่สุด รอวันที่ธปท.นับหนึ่งให้แบงก์พาณิชย์ให้สามารถใช้ระบบได้อย่างเต็มทีเพื่อชิงฐานลูกค้าให้ได้ที่สุด
ทำไมเหล่าแบงก์น้อยใหญ่ถึงให้ความสำคัญกับการเปิดบัญชีออนไลน์กันหนัก หากย้อนกลับไป 2-3 ปีที่ผ่านมา ด้วยการแข่งขันที่สูงและมาพร้อมกับการดิสปรัสชั่น ทำให้ต่างปนะกาศยกเลิกการจัดเก็บค่าธรรมเนียมบางบริการ โดยเฉพาะค่าธรรมเนียม การเบิก จ่าย โอน เพื่อที่จะรักษาฐานลูกค้าของต้นเองไว้ ซึ่งการยกเลิกค่าธรรมเนียมดังกล่าว ทำให้รายได้ค่าธรรมเนียมของแบงก์ต่างๆ ลดลงจนติดลบกันเลยทีเดียว
ดังนั้น จึงต้องหาวิธีการเพิ่มรายได้ใหม่ๆเข้ามา แต่ต้องให้ลูกค้าเพิ่มมากขึ้นการ การเปิดบัญชีออนไลน์ จึงตอบโจทย์สำหรับธนาคารต่างๆในขณะนี้ หากมีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น โอกาสการต่อยอดสินค้าอื่นๆ ที่ธนาคารเตรียมไว้สามารถสร้างรายได้ให้กับธนาคารเพิ่มขึ้นได้ และนี่จึงเป็นเหตุสำคัญ ที่หลายธนาคารพร้อมที่จะลุยการเปิดบัญชีออนไลน์ หลังธปท.ไฟเขียว ซึ่งจะต้องติดตามกันต่อว่า ธนาคารจะรับมือการดิสปรัสชั่นของเทคโนโลยีด้านอื่นๆ กันอย่างไร
นางสาวสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เปิดเผยว่า ธปท. ได้อนุญาตให้สถาบันการเงินสามารถทดสอบการยืนยันตัวตนทางดิจิทัลข้ามธนาคารได้ในวงจำกัด โดยใช้กับการเปิดบัญชีเงินฝากเป็นบริการแรก เพื่อรองรับการใช้บริการผ่านช่องทางดิจิทัลที่สะดวกรวดเร็วมากขึ้น โดย ธปท. จะมีการประเมินผลการให้บริการอย่างใกล้ชิด ก่อนเปิดให้ใช้บริการในวงกว้างต่อไป
ระยะแรกของการทดสอบใน Regulatory Sandbox ของ ธปท. สำหรับบริการเปิดบัญชีเงินฝากผ่านช่องทางดิจิทัลโดยการพิสูจน์และยืนยันตัวตนผ่านแพลตฟอร์ม NDID มีธนาคารพาณิชย์ที่ให้บริการจำนวน 6 แห่ง ได้แก่
1. ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
2. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
3. ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
4. ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)
5. ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)
6. ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
ขณะที่ฝั่งธนาคารพาณิชย์ก็พร้อมลุยเต็มที นายฐากร ปิยะพันธ์ ประธานกรรมการกรุงศรี คอนซูมเมอร์ และผู้บริหารสายงานดิจิทัลแบงก์กิ้งและนวัตกรรม ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY กล่าวว่า ธนาคารพร้อมเข้าร่วม Regulatory Sandbox ของธปท.เพื่อทดสอบการให้บริการเปิดบัญชีออมทรัพย์ออนไลน์ ด้วย KMA ผ่านระบบ NDID เริ่มตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ. 2563 เป็นต้นไป
ระบบดังกล่าวจะทำให้ลูกค้าสามารถเปิดบัญชีได้สะดวกและง่ายขึ้น โดยเฉพาะลูกค้าที่ไม่เคยมีบัญชีกรุงศรีมาก่อนก็สามารถเปิดบัญชีได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องเดินทางไปที่สาขา เพียงลูกค้ายินยอมให้นำข้อมูลที่เคยระบุตัวตนไว้กับธนาคารพาณิชย์อื่น มาเป็นข้อมูลการแสดงตนเพื่อเปิดบัญชีที่กรุงศรี ทำให้สามารถลดระยะเวลาในการเปิดบัญชีได้ถึง 83% เมื่อเทียบกับการเปิดบัญชีที่สาขา
ด้านนางปรัศนี อุยยามะพันธุ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ระบุว่า ธนาคารได้เข้าร่วมทดสอบการให้บริการยืนยันตัวตนรูปแบบดิจิทัล (NDID) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Regulatory Sandbox ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยได้นำมาทดลองใช้กับบริการเปิดบัญชีเงินฝาก e-Savings ผ่านช่องทางดิจิทัล ซึ่งเป็นบัญชีเงินฝากแบบรูปแบบใหม่ที่ไม่มีสมุดบัญชี ไม่กำหนดยอดฝากขั้นต่ำ และฟรีค่าธรรมเนียมโอน เติม จ่าย และค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมข้ามเขตผ่านช่องทางบัวหลวง เอ็มแบงก์กิ้ง โดยสามารถเปิดบัญชีได้ง่ายด้วยตนเอง ผ่านแอปพลิเคชัน Bualuang mBanking หลังจากที่ ธปท. อนุญาตให้ออกจาก Regulatory Sandbox
ส่วนนายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (KTB) เปิดเผยว่า ธนาคารพร้อมเปิดบัญชีเงินฝากออนไลน์และยืนยันตัวตนรูปแบบดิจิทัล (NDID) ผ่านระบบ Krungthai NEXT ในวันที่ 14 ก.พ.2563 เพื่อยกระดับกระบวนการพิสูจน์ยืนยันตัวตนให้มีความน่าเชื่อถือ และมีมาตรฐานตามหลักสากลมากยิ่งขึ้น เป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการเข้าถึงบริการของหน่วยงานต่างๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ ลดขั้นตอน และต้นทุนในการทำธุรกรรม รวมถึงเป็นการป้องกันมิจฉาชีพในการสวมสิทธิหรือปลอมแปลงเอกสารในการทำธุรกรรม