3 กุมภาพันธ์ 2563 : นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ MTL เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินงานในปี 2563 เมืองไทยประกันชีวิตยังคงมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำที่นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุด ผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุก Journey ในรูปแบบที่มีความเฉพาะตัวของบุคคลมากยิ่งขึ้น พร้อมสร้างความมั่งคั่งและมั่นคงอย่างยั่งยืน ในทุกช่วงของชีวิตและทุกไลฟ์สไตล์แบบ End to End ได้อย่างเหมาะสม ตอกย้ำนโยบาย “MTL Everyday Life Partner” พร้อมยกระดับองค์กรสู่ความเป็นสากล ทันสมัย และสามารถรับมือกับโลกยุคดิจิทัลได้อย่างเต็มตัว
“บริษัทฯ ตั้งเป้าขยายการเติบโตทางด้านประกันสุขภาพและโรคร้ายแรง 99% เจาะตลาดบุคคล โดยจะมีการวิเคราะห์แบบประกันของแต่ละบุคคลออกมาได้ ภายใต้ตัวแทนที่ถูกฝึกอบรมทางด้านข้อมูลและเครื่องมือที่มีระบบดิจิทัลเข้ามารองรับ เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ลูกค้าในแต่ละบุคคลได้ รวมถึงตอบโจทย์ทางด้านการบริการทั้งระบบ อีกทั้ง ขยายการเติบโตทางด้านแบบประกันควบการลงทุนเพิ่มอีก 28% รวมถึงแบบประกันคุ้มครองและสินทรัพย์อื่นๆ เพิ่มอีก 73%”
พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่หลากหลาย ดูแลครบถ้วนทั้งเรื่องความคุ้มครอง สุขภาพ และการลงทุน โดยตั้งเป้าหมายในการเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า ล่าสุดได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เมืองไทย สมาร์ท ลิงค์ 10/1 (Global) ซึ่งเป็นแบบประกันประเภท Index Linked ที่จะมาช่วยตอบโจทย์และเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าในยุคปัจจุบันที่อัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับต่ำ ด้วยการเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุน
โดยอ้างอิงการลงทุนจากดัชนี Citi Global Multi Asset Index ซึ่งบริหารจัดการโดยผู้เชี่ยวชาญของ Citi ที่มีกลยุทธ์การลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ทั่วโลก เพื่อเพิ่มผลตอบแทนในระยะยาวอย่างมั่นคง พร้อมให้ความคุ้มครองชีวิต 110% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย เป็นระยะเวลา 10 ปี การันตีเบี้ยประกันที่จ่ายยังอยู่ครบเมื่อจบสัญญา และสามารถนำเบี้ยประกันที่จ่ายไปลดหย่อนภาษีได้
นอกจากนี้ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ สัญญาเพิ่มเติมการรักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก (OPD) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่ต้องการความอุ่นใจเรี่องการรักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยนอก (OPD) สบายใจไม่ต้องนอนโรงพยาบาลก็จ่ายให้ โดยคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก สูงสุด 3,000 บาทต่อครั้ง รับความคุ้มครองปีละ 60,000 บาท(1) โดยสามารถแยกซื้อความคุ้มครองผู้ป่วยนอกได้ โดยไม่ต้องซื้อร่วมกับความคุ้มครองผู้ป่วยใน (IPD) ซึ่งปกติ แบบประกันส่วนใหญ่ในตลาดจะต้องซื้อความคุ้มครองผู้ป่วยในก่อนจึงจะมีสิทธิ์ซื้อความคุ้มครองผู้ป่วยนอกได้
ขณะที่ผลิตภัณฑ์ไฮไลท์อย่าง สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ อีลิท เฮลท์ ที่มอบความคุ้มครองดูแลแบบเหนือระดับที่มากกว่า สามารถเลือกความคุ้มครองได้ตั้งแต่ 20-100 ล้านบาทต่อปีกรมธรรม์ ล่าสุดได้มีการขยายอายุความคุ้มครองถึงอายุ 99 ปี สร้างความอุ่นใจและหมดกังวลเพราะความคุ้มครองสุขภาพจะอยู่ดูแลคุณไปจนแก่เฒ่า
นายสาระ ได้กล่าวถึงกลยุทธ์ช่องทางการขายของบริษัทฯ ในปี 2563 ว่า บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าทำการตลาดแบบหลากหลายช่องทาง (Multi Distribution Channel) เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างครอบคลุมและเหมาะสมกับคนทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าจะเป็นช่องทางตัวแทนประกันชีวิตที่มุ่งสู่การเป็นผู้ออกแบบการเงิน ที่สามารถออกแบบ ให้คำปรึกษา และวางแผนการสร้างความมั่งคั่งทางการเงินที่เหมาะสมแก่ลูกค้าแต่ละราย การขายผ่านช่องทางธนาคาร โบรกเกอร์ รวมไปถึงการขายแบบประกันออนไลน์ ที่มุ่งขยายช่องทางการเข้าถึงลูกค้าผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น K Plus และ Shopee ตอกย้ำความเป็นผู้นำในการให้บริการด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยและทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่
โดยบริษัทฯ ได้พัฒนาเทคโนโลยี ในชื่อ “BizBox” เพื่อสนับสนุนกระบวนการงานขายตั้งแต่กระบวนการก่อนการนำเสนอขาย ระหว่างการเสนอขาย และหลังการเสนอขาย เพื่อส่งมอบบริการด้านการวางแผนการเงินที่ดีและเหมาะสมกับลูกค้ามากที่สุด นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญกับการขยายตลาดไปสู่ประเทศที่มีศักยภาพการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ร่วมลงทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่งในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน CLMV ทั้งนี้บริษัทฯ ยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะหาโอกาสในการขยายการลงทุนผ่านกลุ่มประเทศอื่นๆ โดยตอนนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในทางธุรกิจ
นายสาระ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ ยังได้เปิดประสบการณ์ครบเครื่องการบริการที่เหนือระดับด้วยที่สุดของการบริการ ’MTL Smile Service ให้คุณคุ้มค่ามากกว่าแค่คุ้มครอง’ ด้วยรูปแบบการบริการที่หลากหลาย ตอบโจทย์ในทุก Lifestyle ที่คุณเลือก ทั้งนวัตกรรมการบริการและเทคโนโลยี พร้อมทีมงานที่คอยดูแลใส่ใจ รวมถึงสิทธิพิเศษมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ช่องทางการติดต่อที่สะดวกยิ่งขึ้น อาทิ โทร.1766 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ Online Chat ผ่าน Muangthai.co.th รวมถึงบริการเลขาส่วนตัว บริการติดต่อประสานงานและจัดหาข้อมูลต่างๆ
ล่าสุดบริษัทฯ ได้เปิดตัวแอปพลิเคชันใหม่ในชื่อ “MTL Click” โดยเป็นแอปพลิเคชันที่รวบรวมทุกบริการของเมืองไทยประกันชีวิต ที่สะดวก ครบ จบในแอปเดียว ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ โดย MTL Click ได้ถูกออกแบบมาให้อำนวยความสะดวกและตอบสนองความต้องการหลังการขายที่แตกต่างกันไปตามบุคคล ไม่ว่าจะเป็นการเข้าระบบแบบ Biometric Login ที่สามารถเข้าได้ทั้งแบบ Face ID สแกนลายนิ้วมือ หรือการใส่ Pin Code การรวมบัตรประกันกลุ่มและประกันรายเดี่ยวไว้ในแอปเดียวในรูปแบบ Digicard
รวมไปถึงการสรุปและรวมผลประโยชน์ตามประเภทกรมธรรม์ การค้นหาตำแหน่งโรงพยาบาลคู่สัญญา การติดตามและแจ้งเตือนสถานะการเคลม การขอเปลี่ยนแปลงข้อมูลกรมธรรม์ การส่งคำขอเข้าถึงกรมธรรม์ของคนในครอบครัวและชำระเบี้ยประกันให้กันได้ ในขณะที่ช่องทางการชำระเบี้ย ลูกค้าสามารถเลือกชำระได้ผ่านบัตรเครดิต เคาน์เตอร์เซอร์วิส หรือผ่าน K Plus
นอกจากนี้ได้มีบริการพบแพทย์ออนไลน์ (TeleMedicine) สำหรับผู้มีประกันสุขภาพกลุ่มกับเมืองไทยประกันชีวิต และสามารถรับยาตามสิทธ์ได้เสมือนการพบแพทย์ผ่านโรงพยาบาล รวมถึงบริการขอหนังสือรับรองการชำระเบี้ยประกันภัยเพื่อนำไปใช้เป็นหลักฐานประกอบการยื่นขอหักลดหย่อนภาษีฯ พิเศษสุดสำหรับสมาชิกเมืองไทย Smile Club สามารถรับสิทธิพิเศษได้ทั้งปี ภายใต้แคมเปญ “โหลด แรก รับ เลย” เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน MTL Click ครั้งแรก สามารถกดรับฟรี สิทธิพิเศษต่างๆ มากมาย
โดยตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 31 มีนาคม 2563 มีสิทธิ์กดรับฟรีรหัสส่วนลดแทนเงินสดเติมน้ำมัน PT มูลค่า 100 บาท ที่สถานีน้ำมัน PT ทุกสาขาทั่วประเทศ
สำหรับผลงานในปี 2562 ที่ผ่านมา ด้านผลการดำเนินงาน มีผลงานเบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 83,840 ล้านบาท แบ่งเป็นเบี้ยประกันภัยรับใหม่ 25,956 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยปีต่อไป 57,885 ล้านบาท มีสัดส่วนเบี้ยประกันภัยรับใหม่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เป็น Protection & Investment เมื่อเทียบกับผลงานเบี้ยประกันภัยรับใหม่ทั้งหมด สูงถึง 67%
มีอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับใหม่สำหรับผลิตภัณฑ์ Investment Linked อยู่ที่ 163% และมีอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับรวมสำหรับผลิตภัณฑ์ในประเภทสัญญาเพิ่มเติมการประกันสุขภาพและโรคร้ายแรงอยู่ที่ 11% เมื่อเทียบกับปี 2561 ในขณะที่ฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทฯ มีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ประมาณ 531,000 ล้านบาท
ส่วนการผลงานของการประกันภัยในประเทศแถบอาเซียน ได้แก่ ประเทศลาว เบี้ยประกันมีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้น 127% ผ่านช่องทางตัวแทน 330% ประเทศเวียดนามเติบโต 78% ประเทศเขมร เติบโต 194%
นอกจากนี้ ล่าสุด เมืองไทยประกันชีวิต ได้ทำการเปิด ศูนย์การเรียนรู้ “สรรค์สาระ” จังหวัดราชบุรี ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 48 ไร่ รายล้อมด้วยธรรมชาติและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ด้วยรูปแบบของอาคารและการจัดสรรพื้นที่ให้มีความโปร่งโล่งสบาย ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมอาคารที่พักและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน
โดยศูนย์การเรียนรู้ สรรค์สาระ จะเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาบุคลากรทั้งพนักงาน ตัวแทน รวมไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะนำไปสู่การคิดค้นและสร้างสรรค์สิ่งที่ดี ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างรอบด้าน พร้อมนำพาองค์กรให้สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน มั่นคง และแข็งแกร่ง