กรุงเทพฯ 18 สิงหาคม 2559 : เทเวศประกันภัยเผยเดือนสิงหาคมนี้ เตรียมเปิดตัว 2 Feature ใหม่ “Knock for Knock” ชนเล็ก เชคแล้วแยกไม่เสียเวลา และ “I Lert you” กดส่งพิกัด GPS ภายในโทรศัพท์มือถือ เพิ่มความแม่นยำให้เจ้าหน้าที่ออกตรวจเมื่อเกิดอุบัติเหตุ บนแอพพลิเคชั่น “Claim di” ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2 ประจำปี 2559 มีกำไรสุทธิกว่า 110 ล้านบาท
นายชาติชาย ชินเวชกิจวานิชย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทเวศประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภายในเดือนสิงหาคนี้ บริษัทฯ จะเปิดตัว 2 Feature ใหม่ บน Application “Claim di” โดยบริษัทฯได้ร่วมมือกับบริษัท เอนนี่แวร์ ทู โก จำกัด พัฒนา 2 Feature ใหม่ คือ Knock for Knock – ชนเล็ก เชคแล้วแยก เมื่อรถเกิดอุบัติเหตุ สามารถแลกข้อมูลประกันกับคู่กรณีและแยกย้ายได้ทันทีไม่ต้องรอเซอร์เวย์เยอร์ และ Feature “I Lert you” แจ้งอุบัติเหตุโดยกดส่งพิกัด GPS ของรถ มาที่ศูนย์รับแจ้งฯ เพิ่มความแม่นยำในการส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบ
และเมื่อต้นปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ออกผลิตภัณฑ์ประกันภัยรถยนต์ใหม่ “เทเวศ One Plus หยุดขับรับเพิ่ม” เป็นประกันภัยรถยนต์ชั้น 1+ ที่สามารถแจ้งหยุดขับ สะสมได้สูงสุด 30 วัน ต่อ 1 กรมธรรม์ เพื่อรับคืนเป็นส่วนลดในปีต่ออายุประกันภัยตามจำนวนวันที่แจ้งหยุดขับไว้ โดยเพิ่มความคุ้มครองทรัพย์สินบุคคลภายนอก อุบัติเหตุส่วนบุคคล และประกันตัวผู้ขับขี่ รวมถึงคุ้มครองทรัพย์สินในรถคันเอาประกันสูงสุด 5,000 บาท และมีบริการช่วยเหลือรถเสียฉุกเฉิน ฟรี 1 ครั้งต่อปี โดยได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าเป็นจำนวนมาก
สำหรับงผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2 ประจำปี 2559 ว่า บริษัทฯมีเบี้ยประกันภัยรับรวม (Gross Premium) 2,562 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาร้อยละ 4 โดยมีเบี้ยประกันภัยรับสุทธิ (Net Premium) 1,532 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาร้อยละ 2 เมื่อหักค่าใช้จ่ายในการรับประกันภัยและค่าใช้จ่ายดำเนินงานแล้ว บริษัทฯ มีเบี้ยประกันภัยที่ถือเป็นรายได้สุทธิจากการประกันภัยต่อ รวมกับรายได้ค่าจ้างและ ค่าบำเหน็จ 1,644 ล้านบาท
ส่วนผลการดำเนินงานด้านลงทุน บริษัทฯ มีรายได้จากการลงทุนสุทธิ 71 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 6.8 ล้านบาท หรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 9 ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ เท่ากับ 110.7 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้นเท่ากับ 2.21 บาท ทั้งนี้ เมื่อสรุปฐานะทางการเงิน ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2559 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 16,310 ล้านบาท มีหนี้สินรวมทั้งสิ้น 13,782 ล้านบาท และมีส่วนของผู้ถือหุ้นรวมทั้งสิ้น 2,528 ล้านบาท 
