18 ธันวาคม 2562 : ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เป็นประธานเปิดการสัมมนาพนักงาน คปภ. ประจำปี 2562 ภายใต้แนวคิด “SMART OIC สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ก้าวไกล สู่อนาคต” เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2562 ณ โรงแรมรีเจนท์ ชะอำ บีช รีสอร์ท จังหวัดเพชรบุรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสรุปผลการดำเนินงานปีที่ผ่านมา และแนวทางการดำเนินงานในปี 2563 พร้อมมอบนโยบายให้กับพนักงานและลูกจ้าง สำนักงาน คปภ. จำนวน 764 คน
สำหรับทิศทางและนโยบายการดำเนินงานในปี 2563 สำนักงาน คปภ. ต้องเผชิญกับปัจจัยความท้าทายมากขึ้น อาทิเช่น การสร้างความเข้าใจในกฎกติกาต่างๆ ที่ได้ประกาศใช้ในปี 2562 การกำหนดบทลงโทษผู้กระทำผิดและ ป้องปรามผู้ที่จะกระทำความผิดฉ้อฉลประกันภัย การเตรียมพร้อมรับมือการบังคับใช้ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งความผันผวนทางเศรษฐกิจ การเงินของไทยและต่างประเทศ ความเสียหายที่เกิดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ และการรุกคืบของ Digital Insurance ตลอดจนมาตรฐานสากลต่าง ๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจประกันภัย
ในปีที่ผ่านมา สำนักงาน คปภ. ได้ดำเนินภารกิจที่สำคัญต่างๆ ที่ช่วยเสริมสร้างศักยภาพและภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสำนักงาน คปภ. อาทิ การผลักดันการปรับปรุงกฎหมายแม่บทด้านการประกันภัยทั้ง 3 กลุ่ม โดยกลุ่มที่ 1 มุ่งเน้นการให้ความคุ้มครองประชาชนโดยตรง ซึ่งได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2562 มีผลใช้บังคับแล้วตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2562 กลุ่มที่ 2 เกี่ยวกับการเสริมเสถียรภาพและความมั่นคงของบริษัท และกลุ่มที่ 3 เกี่ยวกับการส่งเสริมการควบโอนกิจการและความรับผิดของกรรมการและผู้มีอำนาจในการจัดการ ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว และอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การได้รับรางวัลเลิศรัฐ สาขาบริการภาครัฐ ประจำปี พ.ศ. 2562 ประเภทพัฒนาการบริการ เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2562 การเข้าร่วมการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity & Transparency Assessment : ITA) ประจำปี 2562 โดยได้รับผลการประเมินอยู่ในระดับ A หรือคิดเป็นผลการประเมินเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 87.95 ตลอดจน การเข้ารับการประเมินภาคการเงินสาขาประกันภัย FSAP ซึ่งสามารถผ่านการประเมินตามเกณฑ์ ICP ทั้ง 26 ข้อ ตามผลการประเมินเต็มรูปแบบของสาขาประกันภัยของประเทศไทย โดยได้คะแนนในระดับที่ดีมาก ในลำดับที่ 4 ของโลก และเป็นลำดับที่ 2 ของภูมิภาคอาเซียน
เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า การขับเคลื่อนแผนการดำเนินงานนอกจากจะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาทางเทคโนโลยีแล้วยังให้ความสำคัญเรื่องทรัพยากรบุคคล ซึ่งผลักดันให้ภารกิจของสำนักงาน คปภ. ลุล่วงอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีแผนโครงการและแผนงานที่สำคัญหลายโครงการ อาทิ โครงการการบริหารจัดการและพัฒนาทรัพยากรบุคคลให้เป็นระบบและเป็นมาตรฐาน โดยจะพัฒนาเส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพ (Career Path) พัฒนาศักยภาพระบบการบริหารผลการปฏิบัติงานและปรับปรุงสมรรถนะ การทบทวนโครงสร้างค่าตอบแทน (Pay Structure) และการทบทวนโครงสร้างการจ่ายค่าตอบแทนวิชาชีพให้ความเหมาะสม สามารถแข่งขันกับตลาดแรงงาน และสอดคล้องกับการผลักดันภารกิจตามแผนยุทธศาสตร์ของสำนักงาน คปภ. และ โครงการ OIC Organization Transformation
โดยจะปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรสู่การทำงานในยุคดิจิทัล (Culture Change : Creating Agile Digital Culture) ใช้หลัก People การเปลี่ยนแปลงทัศนคติ (Mindset) และทักษะของพนักงาน (Reskill & Upskill) Policy & Process การเปลี่ยนแปลงวิธีคิด (Thinking Process) และวิธีการทำงาน (Work Process) ผ่านกระบวนการทำ Design Thinking Process และTools & Technology การสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่เอื้อต่อการสร้างสรรค์ผลงานที่รวดเร็วผ่านการใช้ Digital Platform และสามารถนำมาใช้ในการปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ได้ฝากข้อคิดการทำงานร่วมกัน (Collaborative) เพื่อส่งเสริมให้ทุกหน่วยงานเข้าใจการดำเนินการตั้งแต่ต้นจนจบ (End-to-End Process) โดยใช้หลัก 4T คือ Talk ต้องมีการพูดคุยกันเพื่อหาความรู้ และดูว่าสิ่งที่จะเข้ามา Disrupt มีอะไรบ้าง และเป็นอย่างไร Trust เชื่อในสัญชาตญาณ ถ้าเห็นว่าอะไรที่จะเข้ามามีผลกระทบต่อการทำงาน ก็ต้องศึกษาหาแนวทางในการปรับเปลี่ยนการทำงานเพื่อปรับปรุงให้ดีขึ้น
Try ลงมือทำ เมื่อมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาต้องเรียนรู้ทดลองปฏิบัติจริง เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ และ Teamwork เนื่องจากสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดจะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือจากพนักงานทุกคน ซึ่งจะต้องทำงานกันเป็นทีมไม่ใช่ต่างคนต่างทำเพื่อช่วยกันพัฒนา ริเริ่มสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ในการทำงานและต่อยอดจนสำเร็จออกมาเป็นรูปธรรม พร้อมสู่การเป็น SMART OIC เพื่อให้ได้ผลงานที่เป็นที่ประจักษ์และเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนระบบประกันภัยไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนและได้รับความเชื่อถือไว้วางใจจากประชาชน สร้างสรรค์คุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติและประชาชนต่อไป
ในโอกาสนี้ยังได้เชิญคุณกมลชนก ปานใจ วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอก มาบรรยายพิเศษหัวข้อ “Be the better you” เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ โดยได้ให้ข้อคิดว่าไม่ควรกลัวการเปลี่ยนแปลง และให้คิดบวกเสมอ เห็นคุณค่าของตัวเอง เลือกที่จะพาตัวเราไปอยู่ในที่ที่เรามีคุณค่า ซึ่งได้รับความสนใจจากบุคลากรของสำนักงาน คปภ. อย่างมาก นอกจากนี้ ในช่วงบ่ายได้จัดให้มีกิจกรรม CSR โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ร่วมกิจกรรมทำประโยชน์เพื่อสังคม อาทิ กิจกรรมปลูกป่าชายเลน และกิจกรรมปล่อยพันธุ์ปลากะพงขาว ณ อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร
กิจกรรมปรับภูมิทัศน์และทาสีคอกพักให้สุนัขพิการ ณ มูลนิธิศูนย์รักษ์สุนัขหัวหิน กิจกรรมมอบของใช้ที่จำเป็นให้แก่เด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา ณ โรงเรียนเพชรบุรีปัญญานุกูล ส่วนกิจกรรมในช่วงเย็น เป็นการแสดงมุทิตาจิตให้กับผู้ที่เกษียณอายุประจำปี 2562 ซึ่งปีนี้มี ผู้เกษียณอายุจำนวน 15 คน โดยเลขาธิการ คปภ. ได้มอบโล่เกียรติคุณ ของที่ระลึก และกล่าวขอบคุณแก่พนักงานเกษียณที่ได้ทุ่มเททำงานให้กับสำนักงาน คปภ. อย่างเต็มความสามารถมาโดยตลอด จากนั้นได้จัดกิจกรรมสันทนาการร่วมกัน เพื่อเสริมสร้างความรักความสามัคคีระหว่างพี่น้องชาว คปภ.
“ปี 2563 ถือเป็นปีแห่งความท้าทายที่สำนักงาน คปภ. ต้องรักษามาตรฐานการดำเนินงาน และยังต้องทำให้ดียิ่งขึ้น อีกทั้ง ยังเป็นปีสุดท้ายของการดำเนินงานตามแผนพัฒนาการประกันภัย ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2559 – 2563) จึงต้องเตรียมการสำหรับแผนพัฒนาการประกันภัย ฉบับที่ 4 ควบคู่กัน โดยมุ่งเน้นทิศทางการกำกับและส่งเสริมอุตสาหกรรมประกันภัยไทยให้มีศักยภาพและมีความเข้มแข็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องพัฒนากฎเกณฑ์การกำกับดูแลให้มีความยืดหยุ่น เอื้อต่อการแข่งขันและก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี รองรับการเป็นองค์กรดิจิทัล ในปี 2563 อย่างเต็มรูปแบบ” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย