15 พฤศจิกายน 2562 : นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) เปิดเผยว่า อุบัติเหตุทางถนนเป็นปัญหาสำคัญที่สร้างความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจและส่งผลกระทบ ต่อการพัฒนาประเทศเป็นจำนวนมาก โดยแต่ละปีมีคนไทยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนกว่า 20,000 คน ส่งผลให้ประเทศต้องสูญเสียทรัพยากรมนุษย์ที่มีค่าในการเป็นพลังที่จะร่วมกันพัฒนาและขับเคลื่อนประเทศชาติให้เจริญรุดหน้า ขณะที่สถาบันวิจัยทีดีอาร์ไอได้คำนวณมูลค่าความสูญเสียจากการเสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุจราจร เกิดความสูญเสียที่คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจต่อประเทศราว 5 แสนล้านบาทต่อปี
ที่ผ่านมาการป้องกันและรณรงค์ลดอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นนโยบายสำคัญที่รัฐบาลให้ความสำคัญเสมอมา โดยกำหนดให้เป็นวาระสำคัญแห่งชาติที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมกันแก้ไข ซึ่งได้ให้นโยบายในการสร้างความเข้มแข็งการจัดการอุบัติเหตุทางถนนระดับพื้นที่ เพื่อช่วยผลักดันนโยบายไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมโดยจะมุ่งเน้นการพัฒนาประสิทธิภาพของ “ศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนนท้องถิ่น” ให้เป็นกลไกหลักในการสร้างการมีส่วนร่วมและขับเคลื่อนการลดอุบัติเหตุทางถนนในชุมชนให้เกิดผลเป็นรูปธรรม เชื่อมโยงกลไกการทำงานของศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนน ทุกระดับอย่างเป็นระบบและครอบคลุมทุกมิติ ทั้งการพัฒนาระบบกฎหมายและกระบวนการในการบังคับใช้กฎหมาย การ เฝ้าระวังและลดปัจจัยเสี่ยงทางกายภาพ การบริหารจัดการด้านความปลอดภัยทางถนน เพื่อเพิ่มศักยภาพการจัดการความปลอดภัยทางถนนในระดับพื้นที่
นอกจากภาครัฐจะให้ความสำคัญแล้ว ยังได้รับความร่วมมือจากหลายๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่มาร่วมป้องกันและ ลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนชาวไทย ซึ่ง โครงการ “พลังชุมชนสร้างถนนปลอดภัย” นี้ ถือเป็น 1 ในโครงการที่ภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชน และท้องถิ่นได้ร่วมมือกันดำเนินการสร้างความปลอดภัยทางถนนในระดับพื้นที่ ผ่านกลไกของกระทรวงมหาดไทย โดยมีนายอำเภอเป็นแกนนำในการขับเคลื่อนให้โครงการประสบผลสำเร็จ
“การป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างยั่งยืนนั้น ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม เพื่อขับเคลื่อนนโยบายไปสู่การปฏิบัติอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยมุ่งหวังให้พื้นที่ ในระดับตำบลสามารถลดผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนลงได้อย่างน้อย 1 ราย จะทำให้ภาพรวมของประเทศมีสถิติการเสียชีวิตจากการใช้รถใช้ถนนลดลงได้อย่างเป็นรูปธรรม” นายนิพนธ์ กล่าว
นายพีระพัฒน์ เมฆสิงห์วี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ ในฐานะผู้ประกอบการด้านการประกันภัย ตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และเชื่อมั่นว่าความปลอดภัยทุกคนมีส่วนสร้างได้ จึงมุ่งมั่นสร้างแต้มต่อให้กับสังคม ภายใต้โครงการ “แต้มต่อสู่ความปลอดภัย Yes, We Safe” ที่มุ่งหวังให้เกิดประโยชน์เพื่อสังคม และเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนร่วมลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น โดยโครงการ “พลังชุมชนสร้างถนนปลอดภัย” ต่อยอดมาจากโครงการ “Safer on the Road” ของบริษัท ที่มุ่งสร้างความปลอดภัยในพื้นที่จุดเสี่ยงภัยอันตรายและเกิดอุบัติเหตุบนถนนสายรองในพื้นที่ชุมชน เพื่อสร้างแต้มต่อให้ชุมชนก้าวสู่ถนนปลอดภัย
โดยในปีนี้ ธนชาตประกันภัย ร่วมมือกับ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) วางเป้าหมายให้ชุมชนตื่นตัวและตระหนักถึงปัญหาเพื่อนำไปสู่การร่วมกันสำรวจหาสาเหตุและแนวทางแก้ไขจุดเสี่ยงบนถนนในพื้นที่ของตัวเอง เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ ลดการสูญเสียของคนในชุมชนและผู้ใช้เส้นทางดังกล่าว ด้วยการเปิดให้ชุมชนทั่วประเทศมีส่วนร่วมสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนนำเสนอโครงการวิเคราะห์แก้ไขจุดเสี่ยงในชุมชนของตน โดยใช้หลักการประเมินจากปัจจัยที่ทำให้เกิดความเสี่ยงอุบัติเหตุ ทั้งด้านกายภาพและพฤติกรรมทางสังคม เน้นให้ชุมชนสามารถดำเนินการได้ง่ายๆ
โดย ธนชาตประกันภัย เชื่อมั่นว่าโครงการนี้จะสัมฤทธิ์ผลตามเป้าหมายและมีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะการขับเคลื่อนโครงการจะดำเนินงานผ่านเครือข่ายชุมชนตั้งแต่ ระดับ “นายอำเภอ” ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนนอำเภอ (ศปถ.อำเภอ) ทำหน้าที่ผลัดดันให้ชุมชนระดับ “ตำบล” มีบทบาทร่วมแก้ปัญหาในพื้นที่ของตน โดยศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัด (ศปถ.จังหวัด) จะให้การสนับสนุน ตลอดจนให้คำปรึกษาและกำกับติดตามการดำเนินโครงการฯ ให้เป็นไปตามขั้นตอน และเมื่อชุมชนนำเสนอผลงานของตนเองเข้ามาแล้ว จะเข้าสู่ขั้นตอนการคัดเลือกผลงาน ซึ่งหากชุมชนใดผ่านเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือก ธนชาตประกันภัยจะประสานกับภาคีเครือข่ายและชุมชนเพื่อเข้าพื้นที่และร่วมกันแก้ไขปัญหาลดจุดเสี่ยงในพื้นที่ชุมชนต่อไป
สำหรับ โครงการ “พลังชุมชนสร้างถนนปลอดภัย” ธนชาตประกันภัย ตั้งเป้าหมายว่าภายใน 3 ปี จะต้องแก้ไขจุดเสี่ยงอุบัติเหตุบนถนนอันตรายให้ได้ 30 จุดทั่วประเทศ ภายใต้งบประมาณสนับสนุนจากบริษัทฯ 10 ล้านบาท
ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดและสมัครเข้าร่วมโครงการได้จนถึงวันที่ 10 มกราคม 2563 ที่เว็บไซต์ www.พลังชุมชนสร้างถนนปลอดภัย.com และติดตามข่าวสารของโครงการได้ที่ เฟซบุ๊กแฟนเพจ : พลังชุมชนสร้างถนนปลอดภัย