9 สิงหาคม 2559 : บมจ. กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ประกาศพัฒนาธุรกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลเต็มรูปแบบ ทั้งด้านผลิตภัณฑ์ การตลาด เผยยอดเบี้ยประกันรับครึ่งปีแรก สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2559 แตะ 7.2 พันล้านบาท และจะย้ายสำนักงานใหญ่ไปตึก G-Tower ติดกับเซ็นทรัลพลาซ่า พระราม 9 คาดว่าอีกประมาณ 1 เดือนแล้วเสร็จ
มร. เดวิด โครูนิช ประธานกรรมการบริหาร บมจ. กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต เปิดเผยว่า บริษัทฯจับมือกับพันธมิตร ไลน์ คอร์ปอเรชั่น เสริมสร้างความเข้มแข็งในงานการตลาดดิจิทัลของบริษัทฯ ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่ให้ความสนใจการติดต่อสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดยกรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต เป็นบริษัทประกันรายแรกในเอเชียที่นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการผ่านช่องทางไลน์เพย์
นอกจากนี้ บริษัทฯยังได้ปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายใต้แนวคิด “จากลูกค้า มาเป็นคู่คิด” หรือ From Payer to Partner ซึ่งหมายถึงการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในโลกดิจิทัลได้มากขึ้น และพัฒนาผลิตภัฑ์ ไม่ว่าจะด้านการคุ้มครองสุขภาพ การออม รวมถึงด้านการลงทุน
นางภฤตยา สัจจศิลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด อธิบายเพิ่มเติมว่า ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ บริษัทยังเน้นการสร้างความยั่งยืนของแบรนด์ ด้วยการลงทุนผ่านกิจกรรมสื่อการตลาดทั้งสื่อ Above the line และออนไลน์ต่างๆ ได้แก่ สร้างการรับรู้แบรนด์ผ่านแคมเปญโฆษณาผลิตภัณฑ์ใหม่ และผลิตภัณฑ์ที่กำลังวางจำหน่าย รวมถึงการเป็นผู้สนับสนุน ไลน์วิลเลจ
สร้างโอกาสในการทำธุรกิจแนวใหม่และสร้างแบรนด์ด้วยกิจกรรมออนไลน์ และสื่อดิจิทัล ผ่านคู่ค้าทางธุรกิจ ไลน์ คอร์ปอเรชั่น ซึ่งก่อนหน้านี้เราได้แนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ผ่านช่องทางดิจิทัล คือ iFine แพคเกจ การประกันที่คุ้มครองสุขภาพและอุบัติเหตุสำหรับลูกค้าอายุระหว่าง 20-59 ปี ด้วยระยะเวลาการจ่ายเบี้ยเพียง 10 ปี และนอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่รอการจำหน่ายผ่านช่องทางสื่อดิจิทัลตามแผนงานของเรา
“การขายประกันผ่านทางไลน์ ลูกค้าคนแรกที่เข้ามาซื้ออายุประมาณ 20 ต้นๆ เราดีใจมาก ซึ่งกรมธรรม์เราออกมาเฉพาะคนวัยเริ่มต้นทำงาน คนรุ่นใหม่ ซื้อง่าย เข้าใจง่าย มีสินค้าให้เลือก 4 แบบ ซึ่งสมาชิกไลน์ในประเทศไทยทั้งหมดมี 35 ล้านคน เป็นสมาชิกของกรุงไทย-แอกซ่า 15 ล้านคน โดยสติ๊กเกอร์ไลน์ที่บริษัทฯ ออกมามี 4 รุ่นแล้ว”
ทั้งนี้ ระบบไลน์บริษัทบนสติ๊กเกอร์ จะลิงค์เข้าไปยังคอลเซ็นเตอร์ทุกตัว ถือว่าเป็นการสื่อสารแบบ 2 ทาง เช่น กรณีกดเข้าไปในตัวสติ๊กเกอร์ที่เขียนว่า “อยู่ไหน” ก็จะเข้าใน Google Maps สามารถแชร์สถานที่ตั้งของตัวคุณได้ทันที หรือคำว่า “จัดให้” คอลเซ็นเตอร์ จะลิงค์แบบประกันมาให้ดูทันที ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งถือว่าเป็นความพยายามของทีมที่พัฒนาระบบไลน์นี้ให้ออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ
ทั้งนี้ ทีมพัฒนาระบบนี้มาจากประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเรียกการพัฒนาแบบนี้ว่า “อาจาย : adjustabiliy” เป็นวิธีที่เน้นฟังความต้องการลูกค้าเป็นหลัก โดยเราให้เด็กรุ่นใหม่เข้ามานั่งเขียนแผนแล้วทดลองทำ โดยทดสอบกับลูกค้า หากล้มเหลวก็เริ่มใหม่ จนเจอโมเดลที่ลูกค้าต้องการถูกต้องที่สุด
ขณะเดียวกัน ทางด้าน มร.ซาโตชิ นากาโน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน เปิดเผยว่า ช่วงครึ่งแรกของปี (มกราคม – มิถุนายน 2559) บริษัทฯ มียอดเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่ จำนวน 7,172.5 ล้านบาท และเบี้ยประกันชีวิตรับรวม 28,725 ล้านบาท
ด้านการลงทุน มียอดการลงทุนรวมที่ 192 พันล้านบาท เติบโตขึ้นร้อยละ 17.6 เมื่อเทียบกับสิ้นปีที่ผ่านมา และยังคงเน้นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ โดยมีอัตราส่วนการลงทุนในหุ้นทุนร้อยละ 6 พันธบัตรร้อยละ 86 กองทุนกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ร้อยละ 4 ตราสารการเงินระยะสั้นร้อยละ 1 และการลงทุนด้านอื่นๆ อีกร้อยละ 3
ซึ่งการลงทุนเหล่านี้ได้ผลตอบแทนที่สอดคล้องกับการประมาณการของบริษัทฯ แม้ในสถานการณ์ที่มีดอกเบี้ยต่ำ และอยู่ในระดับความเสี่ยงที่ควบคุมได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายการบริหารจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ
ด้าน ปรมาศิริ มโนลม้าย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายขาย เน้นว่า ด้วยช่องทางการจัดจำหน่าย ด้วยระบบดิจิทัล อาทิ iProและ iConnect ซึ่งแอพพลิเคชั่นทั้งสองนี้ สร้างความสำเร็จอย่างสูงและช่วยเพิ่มความเป็นมืออาชีพให้แก่ฝ่ายขาย โดยปัจจุบันมีฝ่ายขายกว่า 12,000 คนใช้แอพพลิเคชั่น iPro ในการดำเนินกิจกรรมการขาย รวมถึงสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้าของกรุงไทย-แอกซ่าอีกด้วย
ใน 6 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทฯ มีเบี้ยประกันผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านธนาคารจำนวน 3,916.3 ล้านบาท ผ่านช่องทางตัวแทน 3,147.7ล้านบาท และช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านธุรกิจองค์กร 108.5 ล้านบาท
“บริษัทฯ เน้นการสร้างฝ่ายขายให้มีความเป็นมืออาชีพ โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากร การรักษาไว้ และการสร้างความยึดมั่นต่อบุคลากรที่มีคุณภาพผ่านสถาบันฝึกอบรมและพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่าย หรือกรุงไทย-แอกซ่า อะคาเดมี่ ปัจจุบันมีสถาบันฯทั้งหมด 5 แห่งทั่วประเทศ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายฝึกอบรมมากกว่า 80 คน ที่ถ่ายทอดหลักสูตรอย่างมืออาชีพ และเรายังมีแผนงานที่จะเพิ่มสถาบันฯ อีกหนึ่งแห่งที่จังหวัดพิษณุโลก ภายในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ เพื่อรองรับจำนวนตัวแทนที่เพิ่มขึ้น”
มร.เดวิด โครูนิช กล่าวเพิ่มเติมว่า จะย้ายไปยังที่ทำการใหม่ ตึก G-Tower ติดกับเซ็นทรัลพลาซ่า พระราม 9 โดยการย้ายที่ตั้งสำนักงานใหญ่ครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของความตั้งใจที่จะร่วมรักษาสิ่งแวดล้อม เนื่องจากทั้งตัวอาคารและสถาปัตยกรรมภายใน ได้รับใบประกาศรับรอง Leadership in Energy and Environment Design หรือ LEED ระดับเหรียญทอง จากหน่วยงานที่จัดอันดับอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกา
ท้ายสุดนี้ กรุงไทย-แอกซ่า เป็นองค์กรแรกในเอเชีย ที่ได้นำ Knack (แนค) หรือแอพพลิเคชั่นออนไลน์ ในรูปแบบเกมซึ่งสามารถใช้วัดระดับความสามารถของผู้เล่น มาร่วมใช้ในการพิจารณาคนเข้าทำงาน จากการศึกษาที่อเมริกาพบว่าแอพพลิเคชั่น Knack นี้ สามารถวัดและระบุความถนัด ทักษะ และอัจฉริยภาพของบุคคลได้แม่นยำถึงร้อยละ 75 ซึ่งช่วยในการคัดเลือกพนักงานที่มีคุณภาพ ได้ชัดเจนกว่าการสัมภาษณ์งานแบบทั่วไป