ศาลแพ่งพระโขนง 4 พฤศจิกายน 2562 : นายนิยต มาศะวิสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM เปิดเผยว่า “โครงการคลินิกแก้หนี้” ร่วมมือกับ ศูนย์ไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาท ศาลแพ่งพระโขนง ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ร่วมจัด “โครงการเดือนแห่งการประนีประนอมข้อพิพาท” ตลอดระยะเวลา 2 เดือน ระหว่างเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม 2562 งานเริ่มวันนี้ ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 8.30-16.30 น.
โดยคลินิกแก้หนี้ จะเปิดโต๊ะให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าบริเวณชั้น 4 ศาลแพ่งพระโขนง กรุงเทพฯ เพื่อให้คำปรึกษาช่วยเหลือลูกค้าที่เป็นหนี้เสียบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันของสถาบันการเงิน และผู้ประกอบธุรกิจทางการเงิน หรือ Non-Bank ที่เข้าร่วมโครงการ รวม 35 แห่ง ได้มีโอกาสเข้ามาเจรจาเพื่อหาทางออกและได้ข้อยุติปัญหาทางการเงิน ซึ่งโครงการนี้นับเป็นส่วนหนึ่งที่ตอบสนองนโยบายของภาครัฐ ด้านการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
นอกจากนี้ ภายในงานยังได้รับความร่วมมือจาก บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (NCB) ให้บริการตรวจเครดิตบูโรแก่ประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมโครงการฯ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายและรู้ผลทันที ในวันที่ 4 และ 28พฤศจิกายน วันที่ 4 และ 17 ธันวาคมนี้ด้วย ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ Call Center 02-610-2266 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-17.00 น. หรือสมัครเข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้ผ่านเว็บไซต์ได้ที่ www.คลินิกแก้หนี้.com และwww.debtclinicbysam.com แอดไลน์ @debtclinicbysam
นายอดุลย์ ขันธ์ทอง อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่งพระโขนง กล่าวว่า ที่ผ่านมา ศาลแพ่งพระโขนงได้นำโครงการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทของศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทประจำศาลแพ่งพระโขนงมาใช้อย่างเป็นรูปธรรม ควบคู่ไปกับการพิจารณาคดีของศาล เพื่อเปิดโอกาสให้คู่ความได้เจรจาตกลงกัน อันเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้แก่คู่ความและประชาชนในการยุติข้อพิพาทที่เกิดขึ้น โดยมีผู้พิพากษาและผู้ประนีประนอมประจำศาล เป็นคนกลางช่วยเหลือให้คู่ความได้มีโอกาสตกลงยุติข้อพิพาทได้ด้วยตนเอง
สำหรับความร่วมมือกันในครั้งนี้ ระหว่างศาลแพ่งพระโขนง กับ “โครงการคลินิกแก้หนี้” ของบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด เพื่อเร่งดำเนินการช่วยเหลือประชาชนที่ถูกธนาคารพาณิชย์ หรือ Non-Bank ฟ้องคดีและคดียังอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีของศาล ให้สามารถเข้าสู่โครงการดังกล่าวได้ก่อนถูกศาลพิพากษา นับเป็นโครงการที่ดีที่จะช่วยเหลือคู่ความได้อย่างตรงจุด มีการนำคดีที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาเหล่านั้นเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย โดยมีคลินิกแก้หนี้เข้ามาช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้สิน ให้แก่คู่ความให้สามารถตกลงกันได้เพื่อได้ข้อยุติ ซึ่งเป็นโอกาสที่ดียิ่งที่คู่ความจะได้รับประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย