21 ตุลาคม 2562 : นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการสานต่อเจตนารมณ์การสร้างสังคมยั่งยืนอย่าง จึงได้ออกกองทุน จำนวน 2 กองทุน คือ กองทุนเปิดกรุงไทย ก่อการดี (KT-ESG) และ กองทุนเปิดกรุงไทย ก่อการดี เพื่อการเลี้ยงชีพ (KT-ESGRMF) ซึ่งนับได้ว่าเป็นอีกขั้นหนึ่งของการพัฒนากองทุนโดยเป็นการต่อยอดและเสนอทางเลือกให้นักลงทุนเพิ่มมากขึ้น
จากแนวทางการลงทุนของบริษัทที่มีมาโดยตลอด ที่ไม่ได้มองเพียงการลงทุนในหลักทรัพย์หรือบริษัทที่มีผลประกอบการดีเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นการลงทุนในบริษัทที่มีนโยบายการประกอบธุรกิจแบบยั่งยืนและธรรมาภิบาลที่ดีแล้ว กองทุนที่นำมาเสนอใหม่ในวันนี้ยังเพิ่มความเข้มข้นเพิ่มขึ้นทั้งในเรื่อง สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG: Environmental, Social and Governance) อีกด้วย โดยกองทุนนี้ จะใช้กลยุทธ์แบบ Passive เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีผลตอบแทนรวม อีเอสจี ไทยพัฒน์ (Thaipat ESG Index (TR))
สำหรับดัชนี อีเอสจี ไทยพัฒน์นั้นจะใช้วิธีการพิจารณาคัดเลือกหลักทรัพย์ จากปัจจัยผลการดำเนินงานของบริษัทที่ต้องมีกำไรติดต่อกันสองรอบปีบัญชีล่าสุด รวมถึงผ่านการคัดกรองเรื่อง คุณสมบัติ ESG จาก สถาบันไทยพัฒน์ ที่จะต้องปลอดจากการกระทำความผิด โดยที่บริษัทหรือคณะกรรมการหรือผู้บริหารระดับสูงของบริษัทต้องไม่ถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษหรือเปรียบเทียบปรับในรอบปีประเมิน
รวมถึงมีการกระจายการถือหุ้นโดยผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free Float) ที่เป็นธรรมและเหมาะสมเป็นไปตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกำหนดอีกด้วย จากทั้งหมดนี้จะได้ กลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 หลังจากนั้นดัชนีจะทำการคัดกรองสภาพคล่องและจัดทำกลยุทธ์แบบ equal weighted index อีกครั้งและให้ทางS&P Dow Jones indices เป็นผู้คำนวนและเผยแพร่ให้นักลงทุนทราบ
กองทุนเปิดกรุงไทย ก่อการดี (KT-ESG) จะทำการเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) ในวันที่ 21-29 ตุลาคม 2562 ที่จะถึงนี้ เป็นกองทุนรวมตราสารทุนแบบ Passive มีความเสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูงที่ระดับ 6 โดยมีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารแห่งทุนเพื่อให้สามารถสร้างผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับดัชนีผลตอบแทนรวม อีเอสจี ไทยพัฒน์ (Thaipat ESG Index (TR))
รวมถึง กองทุนเปิดกรุงไทย ก่อการดี เพื่อการเลี้ยงชีพ(KT-ESGRMF) เป็นกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพแบบ Passive ที่มีนโยบายเช่นเดียวกันกับกองทุนเปิดกรุงไทย ก่อการดี (KT-ESG) มีความเสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูงที่ระดับ 6 เช่นเดียวกัน แต่จะเริ่มเปิดเสนอขายครั้งแรกในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2562 เป็นต้นไป
นางชวินดา กล่าวต่อว่า การเปิดตัวกองทุน ESG ทั้ง 2 กองทุนนี้ เป็นการตอบโจทย์ให้แก่นักลงทุนที่ต้องการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะยาวพร้อมกับการมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบต่อสังคมอย่างยั่งยืนได้ ซึ่ง ESG นับได้ว่าเป็นกระแสที่มาแรงในธุรกิจปัจจุบันเพราะหลากหลายองค์กรทั่วโลกได้หันมาตื่นตัวและให้ความสนใจในการลงทุนแบบ Sustainable Success มากขึ้น นี่จึงถือเป็นโอกาสอันดีที่จะแสดงเจตจำนงค์ว่า บลจ. กรุงไทย หันมาให้ความสำคัญกับการลงทุนแบบ ESG อย่างเต็มตัว และอาจถือได้ว่าเป็นหัวใจหลักในกลยุทธ์การลงทุนในอนาคตด้วยเช่นกัน
จึงอยากเชิญชวนนักลงทุน มาร่วมกันลงทุนในสิ่งที่ “ดีงาม” พร้อมกับเปิดโอกาสสร้างผลตอบแทนให้ ‘งอกเงย’ ไปพร้อมกัน โดยเริ่มต้นเพียง 1,000 บาทเท่านั้น มาร่วมยืนหยัดเพื่อสิ่งที่ยั่งยืนไปพร้อมกัน
E – Environment (สิ่งแวดล้อม) คือ การที่บริษัทมีนโยบายในการประกอบธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างชัดเจน มีหลักเกณฑ์ในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ มีแนวทางในการฟื้นฟูทรัพยากรที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของบริษัทอย่างเป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง
S – Social (สังคม) คือ การที่บริษัทมีนโยบายในการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม ทั้งในองค์กรและสาธารณะ มุ่งเน้นการคืนกำไรสู่สังคมอย่างย่งยืนและใส่ใจต่อการส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตของทั้งภายในองค์กรและในชุมชนที่บริษัทมีความเกี่ยวข้องด้วย
G – Governance (ธรรมาภิบาล) คือ การที่บริษัทมีนโยบายการกำกับดูแลกิจการที่ดี มีแนวทางในการดำเนินงานของบริษัทที่โปร่งใส มีนโยบายการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นและการบริหารความเสี่ยง