19 กันยายน 2562 : นายพรสนอง ตู้จินดา ประธานกลุ่มธุรกิจลูกค้าธุรกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า “ในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 กลุ่มธุรกิจลูกค้าธุรกิจของกรุงศรีมีผลการดำเนินงานแข็งแกร่งและเติบโตตามเป้าหมาย รวมทั้งรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าเป้าหมาย ซึ่งเมื่อพิจารณาจากสภาวะแวดล้อมในประเทศและความไม่แน่นอนของทิศทางเศรษฐกิจการค้าโลก ลูกค้าธุรกิจของกรุงศรีสามารถปรับตัวรับผลกระทบจากภาวะผันผวนต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้กลุ่มธุรกิจลูกค้าธุรกิจของกรุงศรีได้มุ่งเน้นการปรับพอร์ตให้มีความสมดุลเพื่อเพิ่มคุณภาพในการบริหารจัดการและสร้างความแข็งแกร่งและด้วยสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ยังผันผวน กรุงศรียังคงสนับสนุนลูกค้าธุรกิจของธนาคารอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน โดยเน้นความโดดเด่นในการผสานพลังศักยภาพการให้บริการ ความแข็งแกร่งของกรุงศรีกับเครือข่าย MUFG ทำให้สามารถนำเสนอบริการทางการเงินที่แตกต่าง
อีกทั้งแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ช่วยบริหารจัดการความเสี่ยงของค่าเงินและอัตราดอกเบี้ย ตลอดจนการให้คำปรึกษา การให้ความรู้และกิจกรรมที่ช่วยสร้างเครือข่ายและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ผ่านบริการ Krungsri Business Empowerment เพื่อให้ลูกค้าธุรกิจของธนาคาร สามารถนำไปต่อยอดการทำธุรกิจและสร้างความแข็งแกร่งในระยะยาว รวมทั้งยังมีการพัฒนาระบบการทำธุรกรรมผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์มที่หลากหลายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับลูกค้าธุรกิจให้มีความคล่องตัวและต้นทุนที่ถูกลง รวมถึงเตรียมความพร้อมเข้าสู่เศรษฐกิจยุคดิจิทัลอีกด้วย”
ดร.เมธินี จงสฤษดิ์หวัง ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ กล่าวว่า “กรุงศรีให้ความสำคัญกับการยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางและยกระดับบริการให้เป็นเหมือนพันธมิตรคู่คิด (Thought partner) พร้อมทั้งนำเสนอบริการทางการเงินที่แตกต่างผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์ม และครอบคลุมทุกความต้องการด้านการเงินของลูกค้า(Comprehensive financial solutions) ทำให้ผลการดำเนินงานของกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่เติบโตมากกว่าเป้าหมายในช่วงครึ่งแรกของปี
โดยรายได้รวมเพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียม อาทิ ค่าธรรมเนียมตราสารอนุพันธ์ ค่าธรรมเนียมจากวาณิชธนกิจ และค่าธรรมเนียมจากธุรกรรมการเงินในประเทศ ส่งผลให้สัดส่วนของรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจาก 18% เป็น 25% ของรายได้ทั้งหมด นอกจากนี้จากการผสานความร่วมมือกับ MUFG ในการให้บริการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ (Offshore business expansion) การจับคู่เจรจาธุรกิจ(Business matching) และ การทำกิจการร่วมค้า (Joint venture) ยังส่งผลให้ธุรกิจของลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ของกรุงศรี เติบโตอย่างแข็งแกร่ง”
นายสยาม ประสิทธิศิริกุล ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอี กล่าวว่า “กลุ่มลูกค้าธุรกิจ SME ขนาดกลาง (SME-M) และขนาดเล็ก (SME-S) ของกรุงศรี มีการเติบโตแข็งแกร่งและสูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 พอร์ตเงินให้สินเชื่อ SME-M และ SME-S ปรับเพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นปี 2561 ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตเพิ่มขึ้นของสินเชื่อซัพพลายเชน ขณะที่ยอดเงินฝากมีการเติบโตแข็งแกร่งที่ 8% เช่นกัน ส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจการค้าต่างประเทศ (Trade) เติบโตเพิ่มขึ้น 8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการผสานความร่วมมือระหว่างกรุงศรีและ MUFG
ขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมจากการทำธุรกรรมภายในประเทศ (Cash management) เพิ่มขึ้น 26% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ในด้านคุณภาพสินทรัพย์ กรุงศรีสามารถบริหารจัดการสินทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของลูกค้าธุรกิจ SME ของกรุงศรี อยู่ที่ 3.4% เทียบกับระดับ 3.8% ณ สิ้นปี 2561 และเป็นระดับที่ต่ำกว่าอุตสาหกรรมโดยรวม”