WELCOME TO SEQUEL ONLINE (ซีเคว้ล ออนไลน์)
วันพฤหัสบดี ที่ 19 กันยายน 2567 ติดต่อเรา
MSIGปรับพนักงานสำรวจภัยทั้งระบบคาดหวังติดท็อป 5!!!

2 สิงหาคม 2559 : MSIG เร่งปั้นแบรนด์ผ่านพนักงานสำรวจอุบัติเหตุของบริษัท เน้นบริการโดนใจ สุภาพ สะอาด รวดเร็ว ถูกต้อง ตั้งเป้าติดท็อป 5 ด้านพนักงานสำรวจภัย พร้อมเปิดให้บริการทั่วประเทศ 30 แห่งทั่วไป ปลายไตรมาส 3 ศกนี้

9226

นายคงพรรณ คงพินิจ ผู้อำนวยการฝ่ายสินไหม บริษัท เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัย (ประเทศไทย) กล่าวว่าในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาบริษัทไม่มีพนักงานตรวจสอบอุบัติเหตุ หรือเซอร์เวเยอร์ เรืยกสั้นๆ ว่าพนักงานเคลมเป็นของตนเอง ดังนั้น จึงว่าจ้างพนักงานข้างนอก แต่ผลปรากฎว่าการตอบรับไม่ดีเท่าที่ควร ทั้งในด้านการบริการและภาพลักษณ์

ดังนั้น บริษัทฯ จึงมุ่งมั่นที่จะสร้างพนักงานสำรวจอุบัติเหตุเอง โดยขณะนี้เริ่มดำเนินการและมีพนักงานจำนวน 30 คน ให้บริการในกรุงเทพและปริมณฑล โดยตั้งเป้าหมายขยายบริการนี้ทั่วประเทศครบทั้ง 22 สาขา และจังหวัดใหญ่ๆ ที่ยังไม่มีสาขาอีก 7 แห่ง ภายในกลางไตรมาสที่ 3 นี้

ทั้งนี้ ระยะเวลา 1 ปีครึ่ง ที่ผ่านมา บริษัทเริ่มมีพนักงานสำรวจอุบัติเหตุของตัวเอง ผลตอบรับค่อนดีข้างแตกต่างจากว่าจ้างเซอร์เวเยอร์นอก เราตั้งเป้าที่จะมีพนักงานตรวจสอบอุบัติเหตุ ที่มีคุณภาพท็อปติด 5 ของอุตสาหกรรม ปัจจุบันมีพนักงานเคลมในกรุงเทพและปริมณฑลประมาณ 30 คน จะเพิ่มอีก 5 คนโดยสามารถการันตีได้ว่า เวลาที่พนักงานเคลมใช้เดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุประมาณ 26 นาที ซึ่งได้รับคำชมจากลูกค้าอย่างชัดเจน เมื่อไปถึงพนักงานจะสำรวจและลงรายละเอียดเหตุการผ่านเข้าไปในแท็ปเล็ต จากนั้นสามารถปริ๊นใบเคลมออกมาให้ผู้เอาประกันภัยได้ทันที

พนักงานทุกคนต้องเตรียมตัวก่อนการออกไปสำรวจอุบัติเหตุ ทั้งด้้าน การแต่งกายทีกระชับรัดกุมเรียบร้อย เสื้อคลุมของบริษัทมีโลโก้ชัดเจน รวมถึงบริษัทยังอบรมพนักงานในเรื่องพรบ.จราจรทางบก ติดอาวุธทางปัญญา เพื่อพิจารณากรณีเกิดเหตุได้ถูกต้อง ผลสืบเนื่องสามารถขจัดเคลมฉ้อฉลได้

1470130005963 1470129999191

“จากเดิมที่ว่าจ้างเซอร์เวเยอร์ข้างนอกเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 700-800 บาท/เคลม เมื่อเทียบกับพนักงานของบริษัทฯ 650 บาท/เคลม สามารถลดค่าใช้จ่ายตรงจุดนี้ลงไปได้ และเซอร์เวเยอร์ของบริษัททุกคนมีเงินเดือน อีกทั้งยังสามารถมีรายได้พิเศษอีกทางหนึ่ง จากผลสำรวจความพึงพอใจจากลูกค้า หากบริการดี ก็จะมีผลตอบแทนพิเศษให้อีกส่วนหนึ่งด้วย”

ปัจจุบัน บริษัทฯ มีเคลมรถยนต์ทั่วประเทศเดือนละ 9,000 เคลม เฉลี่ย 360 เคลมต่อวัน เคลมที่ส่งเซอเวอย์ออกไป 140 กรุงเทพ 70 เคลม ที่เหลือยังว่าจ้างเซอร์เวเยอร์ข้างนอก หรือ สัดส่วนในกรุงเทพฯ 70:30 พนักงานเคลมของบริษัท 70% และ จ้างเซอร์เวเยอร์นอก 30% แต่ต่างจังหวัดอินเฮ้า 30-35 % เท่านั้น จึงตั้งเป้าหมายที่จะให้มีพนักงานเคลมของบริษัท 100%

ขณะเดียวกัน นายสุรชัย รัถยาวิศษฏ์ ผู้จัดการใหญ่รับประกันภัยและสินไหมทดแทน บริษัทเอ็มเอสไอจีประกันภัย (ประเทศไทย)
กล่าวว่า ข้อดีของอินเฮ้าท์เซอร์เวเยอร์ คือ ลดค่าใช้จ่ายลดลง ภาพลักษณ์ดีขึ้น บริการดีขึ้น อีกทั้งในรอบ 4-5 ปีที่ผ่านมามีจำนวนกรมธรรม์มากขึ้น บริษัทฯ ก็มีกลยุทธ์ในการขยายการเติบโตตลาดต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้น ทั้งในด้านการประกันรถยนต์ ประกันอุบัติเหตุทางทะเล ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลและการประกันภัยเดินทาง

สำหรับการประกันภัยเดินทางนั้นเริ่มมีลูกค้ารู้จักแบรนด์ MSIG เพิ่มมากขึ้น ซึ่งในเวลา 2 ปีที่ผ่านมาเบี้ยประกันขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า และคาดว่าจะปีนี้จะเติบโตเป็นเท่าตัวจากปีที่แล้ว โดยหลักๆ จะเติบโตผ่านช่องทางเว็ปไซด์ รวมถึงการซื้อผ่านแอพพริเคชั่น เนื่องจากเป็นสินค้าที่ง่ายต่อการทำความเข้าใจ ตัดสินใจซื้อไม่ยาก เบี้ยประกันภัยราคาไม่สูงมากนัก สามารถซื้อก่อนที่จะเดินก็ได้

9234

ส่วนการประกันรถยนต์จะหันไปรับประกันทางด้านต่างจังหวัด เน้นทางภาคอีสานเพิ่มมากขึ้น รวมถึงข้ามไปให้บริการยังประเทศลาว ซึ่ง MSIG มีจุดให้บริการอยู่แล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่มีเซอร์เวเยอร์ ต้องให้ทางฝั่งไทยเข้าไปให้บริการ อีกทั้ง ปัจจุบันมีบริษัทฯ มีอู่ในเครือ 16 อู่ มีเป้าหมายที่จะให้มีครบทุกจังหวัด รวมถึงปรับการจ่ายสินไหมให้อู่เป็น 4 ครั้งต่อเดือน จากเดิม 2 ครั้งต่อเดือน

โดยสัดส่วนการรับประกันภัยรถยนต์ 70% เป็นประกันภัยประเภท 1 ประกันภัยประเภท 3 คิดเป็น 20% และอีก 10% จะให้ความสำคัญของการประกันเซฟการ์ด 2+ 3+ เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากค่าใช้จ่ายทางด้านค่าซ่อมและอะไหล่เพิ่มขึ้น 9-10% ขณะที่อัตราเบี้ยประกันไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก ดังนั้น บริษัทฯ ต้องหาวิธีการลดค่าใช้จ่ายในทุกๆ ด้าน พร้อมขจัดปัญหารั่วไหล เพื่อให้บริษัทฯ ยังมีกำไรถึงแม้ไม่มากนักก็ตาม

อย่างไรก็ดี การแข่งขันด้านราคาปฏเสธไม่ได้ว่าคงยังมีอยู่ เพราะเป็นปัจจัยสำคัญหนึ่งที่ผู้บริโภคเลือกบริษัทประกัน แต่ระยะเวลาเป็นสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นว่าสิ่งที่เขาจ่ายเงินซื้อบริการมันคุ้มกันหรือเปล่า ซึ่งการแข่งขันด้านราคาเราก็สามารถแข่งได้ในระดับหนึ่งแต่ก็ไม่ได้คาดว่าจะโค้ดให้ตำที่สุด

สำหรับผลการดำเนินงานช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา มีเบี้ยรับรวม 2,000 ล้านบาท เติบโต 5.8% ต่ำกว่าเป้าหมาย 1% แบ่งเป็นเบี้ยรถยนต์ 1,250 ล้านบาท ขยายตัว 9% ส่วนที่เหลือมาจากเบี้ยที่ไม่ใช่รถยนต์ ได้แก่ประกันทางทะเล 13% ประกันทรัพย์สิน 11% และ เบี้ยประกันเบ็ดเตล็ด 14% คาดว่าปีนี้จะมีเบี้ยรับรวมได้ 4,000 ล้านบาท เติบโต 5-6% และพยายามรักษากำไรไว้ใกล้เคียงปีที่ผ่านมาประมาณ 170 ล้านบาท logo เล็ก (ปิดท้ายข่าว)

ประกันภัย ดูทั้งหมด



COPYRIGHT © 2016 SEQUEL ONLINE. ALL RIGHTS RESERVED.
FOLLOW UP