30 สิงหาคม 2562 : ฟิตบิท (NYSE: FIT) ผู้นำอุปกรณ์แวร์เอเบิลระดับโลก ประกาศวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ Fitbit Versa 2™ รุ่นใหม่ล่าสุดของสมาร์ทวอทช์ยอดนิยมในตระกูล Fitbit Versa™ โดย Versa 2 นำเสนอดีไซน์ที่ออกแบบมาเพื่อให้สามารถกันน้ำได้อย่างแม่นยำ และยังมีฟีเจอร์ใหม่อย่าง Sleep Score และ Smart Wake ซึ่งเป็นวัตกรรมที่ช่วยยกระดับการมีสุขภาพดี การออกกำลังกาย รวมถึงรูปแบบการใช้ชีวิตที่ง่ายดายยิ่งขึ้น[i] นอกจากนี้ Versa 2 ยังเปิดตัวด้วยไมโครโฟนในตัวเครื่อง เพื่อให้สามารถใช้งานผ่านเสียงกับ Amazon Alexa ได้เป็นครั้งแรก รวมไปถึงแอปพลิเคชันแห่งเสียงเพลงอย่าง Spotify เพื่อให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการเล่นดนตรีผ่านแอปได้จากเครื่อง และยังมาพร้อมกับ Fitbit PayTM ในทุกเครื่อง[ii]
นอกจากนวัตกรรมล้ำสมัยภายในเครื่อง Versa 2 ยังมีประสิทธิภาพการใช้งานที่รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยมีแอปพลิเคชันและรูปแบบหน้าปัดที่ใช้งานได้กว่าพันกว่ารายการ นอกจากนี้ยังมีดิสเพลย์ที่สว่างและสวยงามยิ่งขึ้น รวมถึงสามารถเลือกใช้งานโหมด always-on สู่การเป็นเพื่อนคู่แท้ด้านการมีสุขภาพดีและการออกกำลังกายตลอด 24 ชั่วโมง โดยสามารถใช้งานได้นานกว่า 5 วัน ทั้งหมดนี้อยู่ในราคาที่ใกล้เคียงกับรุ่นก่อนอย่าง Versa[iii]
“ฟิตบิทเชื่อว่าการมีสุขภาพที่ดีควรเป็นของทุกๆ คน และผู้บริโภคไม่ควรต้องถูกกีดกันด้านการเข้าถึงการใช้งานอุปกรณ์สมาร์ทวอทช์ที่ช่วยพัฒนาด้านสุขภาพของพวกเขาด้วยปัจจัยเรื่องราคา และนั่นคือสาเหตุที่เราออกแบบ Versa 2 ให้เป็นสมาร์ทวอทช์ระดับพรีเมียมที่มีฟีเจอร์ครบครัน แต่คงความใช้งานง่ายในราคาที่จับต้องได้” นายเจมส์ ปาร์ค ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของฟิตบิท กล่าว “เราได้มีการต่อยอดความสำเร็จของอุปกรณ์ที่ขายดีที่สุดของเราอย่าง Versa โดย Versa 2 เป็นการเพิ่มฟีเจอร์และนวัตกรรมใหม่ๆ อาทิ Alexa แอปพลิเคชันส่วนขยายของ Spotify และฟีเจอร์ที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพการนอนที่มีความทันสมัย โดยเรามุ่งหวังให้ผู้ใช้สนใจการใช้งานสมาร์ทวอทช์กันมากขึ้น และเพื่อให้พวกเขามีสุขภาพที่ดีขึ้นได้ในที่สุด”
การนอนหลับที่ดีกว่าสู่วันที่แอคทีฟกว่าเดิม
การนอนหลับเป็นรากฐานที่สำคัญของการมีสุขภาพกายและใจที่ดี และจากผลสำรวจล่าสุดของ Fitbit เราพบว่า สองในสาม หรือราว 64% ของผู้ตอบแบบสอบถามให้ความสำคัญกับการนอนเป็นอันดับแรก ทว่าหนึ่งในสาม ของผู้ใหญ่ชาวอเมริกันกลับรู้สึกว่าตนเองพักผ่อนไม่เพียงพออยู่เป็นประจำ[iv] Fitbit ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกด้านนวัตกรรมแวร์เอเบิลด้านการนอนมากว่า 10 ปี สามารถนำข้อมูลที่เคยเข้าถึงได้เฉพาะบุคลากรทางการแพทย์มาไว้บนข้อมือของผู้ใช้งาน ในฐานะที่เป็นผู้นำด้านการติดตามพฤติกรรมการนอน เราจึงพัฒนาสิ่งที่ได้เรียนรู้มากว่า 1.5 แสนล้านคืนเพื่อพัฒนาการดูแลสุขภาพด้านการนอนหลับให้ดียิ่งขึ้น โดยฟีเจอร์ใหม่เหล่านี้ ไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใจพฤติกรรมการนอนของตนเอง แต่ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถแก้ไขหรือพัฒนาการนอนให้ดียิ่งขึ้น:
Sleep Score: ผู้ใช้สามารถดูคะแนนด้านการนอนหลับได้ในแอปพลิเคชัน Fitbit® เพื่อดูข้อมูลด้านคุณภาพการนอนของตนเอง โดยคะแนนเหล่านี้จะมาจากการติดตามอัตราการเต้นของหัวใจ (ระดับการพักผ่อนและนอนหลับ) ความกระสับกระส่ายในช่วงเวลานอน เวลาที่ตื่นและระดับการนอนหลับ หรือ Sleep Stage และหากต้องการดูรายละเอียดเรื่อง Sleep Score ที่มากขึ้น ผู้ใช้ยังสามารถดูได้จากการอัปเกรดสมาชิกเป็น Fitbit Premium. [v]
Smart wake: จะสามารถใช้งานได้บนสมาร์ทวอทช์ทุกรุ่นเร็วๆ นี้
โดยฟีเจอร์ Smart Wake นี้ จะใช้ระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยในการปลุกคุณให้ตื่นเมื่อถึงเวลาตื่นที่เหมาะสม เมื่ออยู่ในช่วง Light หรือ REM ของการนอนหลับ โดยจะปลุกจากการตั้งค่าและจะเว้นช่วงครั้งละ 30 นาที เพื่อให้ผู้ใช้สามารถตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่นได้[vi]
Sleep Mode: เมื่อตั้งการใช้งานในโหมดนี้ เครื่องจะหยุดการทำงานของการแสดงค่าบนหน้าจอและปรับการตั้งค่าเตือนให้อยู่ในโหมดเงียบ เพื่อให้ผู้ใช้ไม่ถูกรบกวนตลอดคืน Sleep Mode ยังสามารถใช้งานได้ ทุกๆ ครั้งที่ผู้ใช้ไม่ต้องการการรบกวน เช่นเมื่อกำลังประชุมหรือออกกำลังกาย[vii]
Estimated Oxygen Variation Graph: อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่จะสามารถให้บริการได้ในเร็วๆ นี้ เป็นกราฟแสดงผลที่ช่วยให้ผู้ใช้เห็นระดับอ็อกซิเจนในเลือดของตนเอง ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะถูกวัดด้วยเซ็นเซอร์เรดและอินฟราเรดที่อยู่ด้านหลังของเครื่อง การรู้ค่าอ็อกซิเจนในเลือดในระยะสั้นจะช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจเรื่องการหายใจขณะนอนหลับได้มากขึ้น
นอกจากนวัตกรรมด้านสุขภาพที่เสริมเข้ามาแล้ว Versa 2 ยังมีฟีเจอร์การใช้งานอื่นๆ ที่มีอยู่ใน Fitbit รุ่นก่อนที่ผู้ใช้งานชื่นชอบ อาทิ การแทร็กกิจกรรมระหว่างวัน PurePulse® 24/7 การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ การตั้งค่าการทำกิจกรรมตามเป้าหมายทั้ง 15+ โหมด การเชื่อมต่อกับ GPS และระบบกันน้ำได้ถึง 50 เมตร เป็นต้น
การทำงานที่ดีขึ้น มาพร้อมกับการออกแบบที่สวยงาม
เพื่อประสิทธิภาพการทำงานของฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ดียิ่งขึ้น Versa 2 จึงมาพร้อมกับระบบโปรเซสเซอร์ที่เร็วมากยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน นอกจากนี้ Versa 2 ยังมีจอ AMOLED ที่ใหญ่ขึ้นเพื่อประสบการณ์และการแสดงสีที่ดีกว่า รวมไปภึงความสามารถในการเลือกใช้งานระบบ always-on ซึ่งจะช่วยเพิ่มความยาวนานในการใช้งานผ่านแบตเตอรี่ได้อีกสองวัน ทำให้ผู้ใช้สามารถดูข้อมูลและสถิติต่างๆ จากข้อมือได้อย่างไม่มีสะดุด[xvi]
Versa 2 เป็นสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ที่สุดและมีความพรีเมียมที่สุดของ Fitbit โดยได้รับการออกแบบอย่างประณีตและแม่นยำยิ่งขึ้นเพื่อให้มีดีไซน์ที่สวยงามและเหมาะสมกับผู้ใช้งานทั่วโลก Versa 2 มีความทนทานและสามารถกันน้ำได้ในความลึกถึง 50 เมตร มีน้ำหนักเบาและให้ความรู้สึกสบายต่อผู้สวมใส่ตลอดทั้งวันและคืน นอกจากนี้ยังมีดีไซน์โค้งมนสวยงาม ตัวเรือนใช้อลูมิเนียมแบบชุบผิวด้วยเฉดสีธรรมชาติ เพื่อให้มีความสวยงามและทันสมัย และง่ายต่อการใช้งานด้วยปุ่มกดเพียงปุ่มเดียว Versa 2 ยังมาพร้อมกับหน้าปัดมันเงาให้กลิ่นอายของนาฬิกาแนวคลาสสิคอีกด้วย
ราคาและการวางจำหน่าย
Versa 2 มาใน สี Black กรอบคาร์บอน สี petalพร้อมกรอบอลูมิเนียมสี copper rose และ สี stone พร้อมกรอบสี mist grey โดยราคาจำหน่ายอยู่ที่ 7,990 บาท ตัวอุปกรณ์มีราคาตั้งแต่ 960 บาท ถึง 3,200 บาท และ Versa 2 Special Edition สี Navy และ Pink พร้อม กรอบอลูมิเนียมสี copper rose และ สี Smoke พร้อมกรอบสี mist grey ราคา 8,990 บาท
Versa 2 รุ่น Exclusive edition สี emerald และ plum พร้อมกรอบสี copper rose วางจำหน่าย ช่วงปลายเดือนกันยายน 2562 ในตัวแทนจำหน่ายและร้านค้าชั้นนำ อาทิ B2S, Dotlife, King Power, Power Buy, Jaymart, Lazada ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ศูนย์การค้าโรบินสัน และ ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ ทุกสาขา