22 สิงหาคม 2562 : ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2562 คปภ. พร้อมคณะผู้บริหาร สำนักงาน คปภ. ผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านประกันภัยของ สำนักงาน คปภ. ผู้แทนจากกองทุนประกันชีวิต กองทุนประกันวินาศภัย สมาคมประกันวินาศภัยไทย สมาคมประกันชีวิตไทย สมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาทางการเงิน สมาคมนายหน้าประกันภัยไทย พร้อมด้วยผู้บริหารบริษัทประกันภัยหลายบริษัท ลงพื้นที่ในรูปแบบ Mobile Insurance Unit ในโครงการ คปภ. เพื่อชุมชนปี 3 ซึ่งครั้งนี้เป็นการส่งเสริมความรู้ด้านการประกันภัยให้เหมาะสมกับบริบทของชุมชนบ้านนาทับ-สะกอม อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา
โดยชาวชุมชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำการประมงเป็นอาชีพหลัก มีผู้ประกอบอาชีพประมงเป็นจำนวนมาก ซึ่งจากสถิติที่ผ่านมามีเรือที่ได้รับความเสียหายจากพายุต่างๆ เป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา เกิดภัยธรรมชาติจากพายุโซนร้อน “ปลาบึก” ทำให้บ้านเรือน อาคารเรียน ศาลา แนวเขื่อน ถนนเลียบชายทะเล ตลอดจนเรือ ได้รับความเสียหาย ชาวบ้านตำบลนาทับได้รับผลกระทบและได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง รวมทั้งมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากพายุดังกล่าวอีกด้วย
ดังนั้น การที่สำนักงาน คปภ. พร้อมคณะดังกล่าวได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมวิถีชีวิตของชาวบ้านในชุมชนนาทับ-สะกอม พบปะ พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับชาวบ้าน “แบบนั่งล้อมวง” เป็นการได้สัมผัสกับบริบท และวิถีชีวิตของชุมชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากความเสี่ยง และความเสียหายในหลากหลายรูปแบบ จึงถือเป็นโอกาสที่ชาวชุมชนนาทับ-สะกอม ได้รับความรู้เรื่องการประกันภัยต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องการประกันภัยประมงมากขึ้น
ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ได้จัดเสวนาให้ความรู้ด้านประกันภัยแก่ชุมชน ซึ่งมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากสำนักงาน คปภ. อาทิ นายชัยยุทธ มังศรี ผู้ช่วยเลขาธิการ สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ นางคนึงนิจ สุจิตจร ที่ปรึกษา สำนักงาน คปภ. นายอดิศร พิพัฒน์วรพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการ สายกฎหมายและคดี และ นายกี่เดช อนันต์ศิริประภา ผู้อำนวยการบริหารสมาคมประกันวินาศภัยไทย โดยมีนายสุรินทร์ ตนะศุภผล ผู้ช่วยเลขาธิการ สายส่งเสริมและประกันภัยภูมิภาค เป็นผู้ดำเนินรายการเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านการทำประกันภัยประเภทต่างๆ
โดยเน้นการประกันภัยเพื่อกลุ่มชาวประมงเรือพื้นบ้าน ซึ่งถือเป็นแบบกรมธรรม์ประกันภัยฉบับแรกของประเทศไทยที่มีการนำระบบประกันภัยเข้าไปบริหารความเสี่ยงให้กับ “เรือประมงพื้นบ้าน” ซึ่งจะได้รับความคุ้มครองสำหรับความสูญเสียหรือเสียหายทั้งในขณะออกเรือและจอดฝั่ง อันเนื่องจากอุทกภัย วาตภัย พายุ คลื่นลมแรง คลื่นซัดชายฝั่ง แผ่นดินไหว และ สึนามิ สำหรับรูปแบบการให้ความรู้ด้านประกันภัยในครั้งนี้ ได้นำร่องให้ความรู้จากการถอดบทเรียนกรณีศึกษาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในพื้นที่เพื่อให้ชุมชนเข้าใจถึงบทบาทของระบบประกันภัยที่เข้ามาช่วยในการบริหารความเสี่ยง
พร้อมเปิดเวที ไขข้อข้องใจและแนะนำในประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับการทำประกันภัยประมง เพื่อให้เป็นชุมชนต้นแบบขยายผลไปยังชุมชนอื่นๆ ทั่วประเทศ ในลักษณะการขับเคลื่อนรณรงค์จากฐานรากไปสู่ส่วนบน สำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากนายอำพล พงษ์สุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนายสุรินทร์ สุริยะวงศ์ นายอำเภอจะนะ ให้การต้อนรับและร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้ด้วย โดยมีนายปรีชา แดงหลี ประธานกรรมการชุมชนนาทับ ได้พาเยี่ยมชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ และการประกอบอาชีพของชาวชุมชน พร้อมทั้งเยี่ยมให้กำลังใจ และพบปะพูดคุยครอบครัว ผู้ประสบภัยที่ได้รับความเสียหายจากพายุปลาบึกด้วย
ด้านนายหมัดด๊ะ อำพันนิยม นายกสมาคมเรือประมงคลองนาทับ ตำบลนาทับ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ให้ความรู้ด้านประกันภัยประมง โดยสำนักงาน คปภ. และภาคอุตสาหกรรมประกันภัยครั้งนี้ ทำให้ชาวบ้านในชุมชนนาทับเข้าใจ ตื่นตัวระบบประกันภัยประมงมากขึ้น โดยจะเห็นได้จากชาวบ้านให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรม และมีคำถามเกี่ยวกับการทำประกันภัยประมงหลายประเด็น เช่น ประกันภัยประมงครอบคลุมความเสียหายทุกประเภทหรือไม่ เกิดความเสียหายอย่างไรถึงจะได้รับค่าสินไหมทดแทน และประกันภัยประมงมีต่อเนื่องทุกปีหรือไม่ ซึ่งวิทยากรได้ไขข้อข้องใจจนกระจ่างและทำให้ชาวบ้านมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการทำประกันภัยประมงดีขึ้นมาก
ส่วนนายฝีน ขวัญโต๊ะเร๊ะ ชาวประมง ในพื้นที่หมู่ 13 บ้านคลองข่า ตำบลนาทับ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า การนำองค์ความรู้ด้านประกันภัยสู่ประตูบ้านชุมชนเช่นนี้ นับว่าเป็นประโยชน์ต่อชาวบ้านในชุมชน เป็นอย่างมาก ทำให้เข้าใจถึงระบบการทำประกันภัยประมงดีขึ้น ในขณะเดียวกันชาวบ้านผู้ทำการประมงก็สามารถสะท้อนสภาพปัญหาและความต้องการที่จะให้บริษัทประกันภัยรับประกันภัยประมงได้ตรงตามความต้องการ