20 สิงหาคม 2562 : นายไบรอัน สมิธ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต เปิดเผยว่า “ครึ่งปีแรกของปี 2562 อลิอันซ์ อยุธยา สามารถสร้างผลงานได้ดี โดยสามารถสร้างเบี้ยประกันภัยรับรวมที่ 1.6 หมื่นล้านบาท โดยช่องทางตัวแทนยังคงเป็นช่องทางสำคัญที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยมียอดเบี้ยประกันภัยรับรวมจากช่องทางนี้ถึง 6.7 พันล้านบาท
ช่องทางแบงก์แอสชัวรันซ์ 4.8 พันล้านบาท และช่องทางขายตรง ยังคงครองอันดับหนึ่งในตลาด 9 ปีติดต่อกัน ด้วยเบี้ยประกันภัยรับรวมที่ 2.4 พันล้านบาท ส่วนเบี้ยประกันภัยรับปีแรกรายปี เติบโต 15 % อยู่ที่ 2.8 พันล้านบาท มาจากช่องทางตัวแทน 1.1 พันล้านบาท ช่องทางแบงก์แอสชัวรันซ์ 590 ล้านบาท และ ช่องทางขายตรง 964 ล้านบาท
ในช่วงต้นปี 2562 นี้ ถือเป็นช่วงที่ตลาดประกันยังมีภาวะชะลอตัวจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยและกำลังการซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง แต่ทุกช่องทางเรายังคงเดินหน้าโชว์ศักยภาพที่แข็งแกร่ง สร้างการเติบโตของเบี้ยประกันภัยจากธุรกิจได้อย่างน่าพอใจ ความสำเร็จที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องนี้ มีผลมาจาก การดำเนินกลยุทธ์ที่ถูกต้องเหมาะสมกับสภาวะตลาดที่เน้นขายผลิตภัณฑ์คุ้มครองมาหลายปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของสินค้าสุขภาพ ที่มีความโดดเด่น หลากหลาย และตรงกับต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน เราเชื่ออย่างยิ่งว่า ผลงานที่ดีที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง จะทำให้ อลิอันซ์ อยุธยา สามารถพิชิตเป้าเบี้ยประกันภัยรับรวมที่ 3.3 หมื่นล้านบาทได้ภายในสิ้นปีนี้อย่างแน่นอน
นอกจากนั้น เราได้มีการขยายความเป็นพันธมิตรร่วมกับกลุ่ม AYUD หรือ บมจ. ศรีอยุธยา แคปปิตอล (ปัจจุบัน เปลี่ยนชื่อเป็น บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา แคปปิตอล) เพื่อเติบโตธุรกิจตลาดในประเทศไทยอย่างแข็งแกร่ง โดยเชื่อมั่นว่า การดำเนินงานเป็นหนึ่งเดียวกันของธุรกิจทั้งประกันชีวิตและประกันภัยภายใต้ One Allianz Ayudhya จะทำให้เราสามารถมอบบริการที่เหนือกว่าให้กับลูกค้าในประเทศไทย
กลุ่มอลิอันซ์ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ประกาศผลประกอบการในภูมิภาคเอเชียสำหรับครึ่งปีแรก สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2562 โดยผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกที่โดดเด่น (เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว) มีดังนี้:
· กำไรจากการดำเนินงานโดยรวมทั้งภูมิภาคเพิ่มขึ้น 28% เป็น 260 ล้านยูโร (ประมาณ 9.2 พันล้านบาท) ขณะที่รายรับรวมลดลง 6% อยู่ที่ 3.2 พันล้านยูโร (ประมาณ 1.13 แสนล้านบาท)
· กำไรจากการดำเนินในธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพเพิ่มขึ้น 42% เป็น 205 ล้านยูโร(ประมาณ 7.2 พันล้านบาท) ยอดเบี้ยประกันภัยใหม่รับปีแรก (ANP) ลดลง 5% สู่ระดับ 484 ล้านยูโร(ประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท)
· มูลค่าธุรกิจใหม่ (NBV) สำหรับธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพเพิ่มขึ้น 18% แตะ 166 ล้านยูโร(ประมาณ 5.9 พันล้านบาท)
· รายได้จากธุรกิจประกันวินาศภัยเพิ่มขึ้น 23% เป็น 543 ล้านยูโร(ประมาณ 1.9 หมื่นล้านบาท) โดยมีกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 3% เป็น 40 ล้านยูโร(ประมาณ 1.4 พันล้านบาท)
โซลมาส อัลทิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำภูมิภาคของ อลิอันซ์ เอเชีย เปิดเผยว่า “ผลการดำเนินงานของเราในภูมิภาคสำหรับครึ่งปีแรกถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีในปีนี้ โดยนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของ อลิอันซ์ เอเชีย เป็นต้นมา ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เรามีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องในตลาดที่มีการแข่งขันสูงเช่นนี้ ซึ่งผลประกอบการที่แข็งแกร่งของเราได้รับแรงผลักดันจากผลการดำเนินงานที่เติบโต ทั้งในภาคธุรกิจและการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องของทีมงานที่มุ่งสนับสนุนกลยุทธ์ที่ใช้ร่วมกันในภูมิภาค
ในช่วงครึ่งปีแรก ธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพของเรามีผลประกอบการที่แข็งแกร่งโดยได้รับแรงหนุนจากการเติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญของธุรกิจและวินัยในการบริหารค่าใช้จ่ายในไต้หวัน จีนและไทย ซึ่งช่วยให้ผลกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 42% เป็น 205 ล้านยูโร (ประมาณ 7.2 พันล้านบาท) การเติบโตของอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมสะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์ส่วนผสมผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการปรับปรุงโดยมีส่วนในการเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจใหม่ (NBV) ถึง 18 ล้านยูโร(ประมาณ 636 ล้านบาท) เป็น 166 ล้านยูโร (ประมาณ 5.86 พันล้านบาท)
รายได้รวมในธุรกิจประกันวินาศภัย ของเราเพิ่มขึ้น 23% เป็น 543 ล้านยูโร (ประมาณ 1.9 หมื่นล้านบาท) โดยมีอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่งและผลกระทบเชิงบวกจากธุรกรรมในประเทศจีน ศรีลังกาและไทย กำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 3% เป็น 40 ล้านยูโร(ประมาณ 1.4 พันล้านบาท) โดยมีการเติบโตของปริมาณเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก เนื่องจากการเติบโตในตลาดที่มีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายสูงขึ้น ส่งผลให้ Combined Ratio (CoR) เพิ่มขึ้น 1.4bps เป็น 97.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน
เรายังคงเดินหน้าขยายธุรกิจประกันวินาศภัยในภูมิภาคเอเชีย โดยการเป็นหุ้นส่วนทางกลยุทธ์กับ บริษัท ศรีอยุธยา แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ในประเทศไทย ถือเป็นก้าวย่างที่สำคัญในการเติบโตของอลิอันซ์ในประเทศและภูมิภาคที่กว้างยิ่งขึ้น ธุรกรรมนี้จะทำให้มั่นใจได้ว่าแฟรนไชส์ประกันภัยที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นจะมุ่งเน้นที่การตอบสนองความต้องการด้านการคุ้มครองที่หลากหลายและเพิ่มขึ้นของลูกค้าในประเทศไทย
เรายังคงให้ความสำคัญต่อประเทศจีนและยังคงมุ่งมั่นให้บริการแก่ฐานลูกค้าดิจิทัลที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นเป้าหมายหลักของกลยุทธ์การเติบโตในภูมิภาคของเรา ด้วยการให้ความสำคัญในประเด็นนี้ Allianz JD ซึ่งเป็นหุ้นส่วนประกันภัยใหม่ของเราจึงได้ให้บริการแก่ฐานลูกค้าออนไลน์ที่กำลังเติบโตนี้ด้วยผลิตภัณฑ์ประกันภัยดิจิทัลในประเทศ ซึ่งเรายินดีที่ธุรกิจมีความก้าวหน้าอย่างมาก นอกจากนี้ ในประเทศจีน อลิอันซ์ ยังคงดำเนินการเตรียมจัดตั้ง บริษัทโฮลดิ้งที่ถือหุ้นทั้งหมด ซึ่งถือเป็นบริษัทประกันภัยต่างประเทศรายแรกในธุรกิจที่มีพัฒนาการที่ดี
ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ เรายังคงเสริมความแข็งแกร่งของทีมผู้นำทั่วทั้งภูมิภาคเพื่อสนับสนุนการเติบโตของเราในภูมิภาคเอเชีย และทำให้เราประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้มีส่วนร่วมในกลยุทธ์การเติบโตของเราต่อไปในช่วงที่เหลือของปี และส่งเสริมการขยายธุรกิจของอลิอันซ์ในภูมิภาคให้เติบโตยิ่งขึ้น
อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2562 1 ยูโร = 35.31 บาท