WELCOME TO SEQUEL ONLINE (ซีเคว้ล ออนไลน์)
วันจันทร์ ที่ 25 พฤศจิกายน 2567 ติดต่อเรา
แข่งกันล้ำ!!!!

22 กรกฎาคม 2562 : เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา18-19ก.ค.2562 ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) จัดงานแบงค็อก ฟินเทค แฟร์ 2019 ที่ศูนย์การเรียนรู้ ธปท.

โดยมีสถาบันการเงินทั้งธนาคาร นอนแบงก์ และบริษัทเทคโนโลยีต่างเข้าร่วมงาน 69 ราย งานนี้คึกคักกว่าทุกปี เพราะหลายบริษัทต่างก็พาเหรดกันโชว์นวัตกรรมดิจิทัลทางการเงินได้แบบว๊าวมากๆ โดยเฉพาะธนาคารที่มีของเล่นทางการเงินรูปแบบใหม่ๆทั้งที่ผ่านช่วงทดสอบ Sandbox แล้วและยังอยู่ระหว่างทดสอบก็มี

แต่ละโปรเจ็กฟินเทคของสถาบันการเงิน จากงานนี้ถือว่าสุดยอดมาก และเชื่อว่าในปีต่อๆไปจะมีฟินเทคทางการเงินใหม่ๆมาให้เราๆทั้งหลายสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น และงานนี้เล่นเอา นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดูปลื้มปริ่มไม่น้อย พร้อมกับได้ประกาศให้การสนับสนุนนวัตกรรมการเงิน(ฟินเทค)ในปีนี้เป็นวาระที่สำคัญของการดำเนินนโยบาย เพื่อเชื่อมโยงโลกการเงินไปสู่นอกประเทศ และให้เกิดการแข่งขัน ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้รับความสะดวกสบายและต้นทุนการเงินที่ถูกลง รวมทั้งยังให้ทำให้ระบบเป็นมาตรฐานมีคุณภาพ โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงาน 2 วันที่ผ่านมามีผู้เข้ารวมงานไม่น้อยกว่า 2,000 ราย

นอกจากนี้ ภายในงาน ธปท.ยังได้เปิดตัวการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลผ่านระบบเนชั่นแนลดิจิทัลไอดี(เอ็นดีไอดี) โดยจะเข้ามาช่วยกระบวนการทำความรู้จักลูกค้าผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์(e-KYC) จะเริ่มใช้จริงต้นไตรมาส4 ปีนี้ ให้ลูกค้าได้เปิดบัญชีเงินฝากที่ทำอี-เควายซีข้ามธนาคาร และมีแผนขยายจากบุคคลธรรมดาไปสู่นิติบุคคลและชาวต่างชาติในระยะต่อไป รวมทั้งจะมีการเปิดตัวบริการมายพร้อมคิวอาร์ในวันที่ 19 ก.ค.นี้ ซึ่งเป็นคิวอาร์เพย์เมนท์ หรือการชำระเงินรูปแบบใหม่ที่ขยายสู่ภาคธุรกิจ เชื่อว่าจะเป็นแรงขับเคลื่อนการใช้บริการทางการเงินและการชำระเงินทางดิจิทัลที่สำคัญของประเทศต่อไป

แล้วฝั่งธนาคารไทยละ มีอะไรเด็ดๆมาโชว์บ้าง และจากเดินสำรวจรอบงาน ต้องยกให้เขาเลย ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ได้นำเทคโนโลยีการยืนยันตัวตนด้วยการสแกนเส้นเลือดในฝ่ามือ (Palm Vein) ภายใต้เครื่องหมายการค้า Fujitsu Palm Secure™ ล่ำไปได้อีก มาแสดงในงานดังกล่าว เนื่องจากต้องการนำเสนอความแตกต่างของวิธีการยืนยันตัวตนด้วยการใช้ Palm Vein เมื่อเปรียบเทียบกับการยืนยันตัวตนด้วยวิธีอื่นๆ อาทิ การจดจำใบหน้า (Facial Recognition) หรือ การสแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint) เป็นต้น ทั้งนี้ Palm Vein นับเป็นเทคโนโลยีการยืนยันตัวตนที่มีการใช้อย่างแพร่หลายในประเทศต่างๆ อาทิ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ที่ใช้รูปแบบของการชำระเงินอัตโนมัติด้วยตัวเอง (self-checkout) ในห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ หลังการเลือกซื้อสินค้าสิ้นสุด เพียงลูกค้าสแกนฝ่ามือเหนือ Palm Vein Sensor นั่นคืออีกทางเลือกของการชำระเงิน สามารถทดแทนการใช้บัตรเครดิต หรือ การสแกนด้วยคิวอาร์โค้ด ได้เช่นกัน

ฝั่งพระราม3ก็ไม่เบา ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY ได้นำนวัตกรรมและความก้าวหน้าของเทคโนโลยี รวมถึงโครงการต่างๆ ที่ได้พัฒนาขึ้นเพื่อตอบรับกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้ามากยิ่งขึ้น มานำเสนอเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการให้เข้าถึงลูกค้าในทุกกลุ่ม ทั้ง e-KYC: เทคโนโลยีเปรียบเทียบใบหน้า หรือ Facial Recognition e-KYC มาใช้ในการให้บริการเปิดบัญชีเงินฝากที่สาขาของธนาคารกว่า 600 สาขาทั่วประเทศ e-Savings: ธนาคารได้พัฒนาและต่อยอดนวัตกรรม e-KYC โดยให้ลูกค้าเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถ
เปิดบัญชีผ่านช่องทางออนไลน์ (e-Saving) และThai QR Cross-border: ความก้าวหน้าของแพลตฟอร์มการชำระเงินด้วย QR Code โดยใช้ประโยชน์จากการเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ของ MUFG นำ Thai QR Code ไปใช้ครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น

ขณะที่ธนาคารรุ่นเก๋าอย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ได้นำเสนอนวัตกรรมและโครงการพัฒนาเทคโนโยลีทางการเงิน ที่ธนาคารได้พัฒนาขึ้นเพื่อยกระดับบริการทางการเงินให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ได้ดียิ่งขึ้น ประกอบด้วย
Bangkok Bank InnoHub – FinTech Accelerator ต่อยอดพัฒนา นวัตกรรม โครงการบ่มเพาะเพื่อพัฒนาศักยภาพสตาร์ทอัพในกลุ่มฟินเทคระดับโลก ทั้งยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจบริการทางการเงินของไทย และสนับสนุนให้เกิดเครือข่ายและพันธมิตรการพัฒนาระบบนิเวศน์ทางการเงินในประเทศไทย

ภายในงาน ยังมีบริษัทสตาร์ทอัพในกลุ่มฟินเทคที่ร่วมกับธนาคารในโครงการ Bangkok Bank InnoHub มาร่วมออกบูธในโซน IT & FinTech ได้แก่ AntWorks บริษัทผู้ให้บริการด้านปัญญาประดิษฐ์และระบบอัจฉริยะระดับโลก ที่สามารถแปลงข้อมูลต่างๆ ได้หลายภาษารวมถึงภาษาไทย เข้าสู่ระบบดิจิทัลเพื่อนำไปสู่การวิเคราะห์และค้นหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มขึ้น และ Pand.ai ผู้พัฒนาระบบแชทบอตสำหรับสถาบันการเงิน ซึ่งปัจจุบันให้บริการธุรกิจข้ามชาติเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศมาเลเซีย สิงคโปร ไต้หวัน และไทย ในครั้งนี้จะนำความอัจฉริยะของระบบแชทบอตรูปแบบต่างๆ ที่สามารถนำมาสนับสนุนการบริการทางการเงินได้ด้วย

มาฝั่งถนนสุขุมวิมท ธนาคารพาณิชย์แห่งรัฐ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ได้นำเสนอเทคโนโลยีทางการเงินที่ล้ำสมัย มาพัฒนาบริการที่สนับสนุน 5 Ecosystems หลักของธนาคาร ซึ่งประกอบด้วย กลุ่มหน่วยงานภาครัฐ กลุ่มการชำระเงิน กลุ่มสุขภาพและการรักษาพยาบาล กลุ่มมหาวิทยาลัยและการศึกษา และกลุ่มระบบขนส่งมวลชน อันเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนานวัตกรรมทางการเงิน เพื่อยกระดับการให้บริการแบบครบวงจร ตามยุทธศาสตร์ดิจิทัล ที่มุ่งสู่การเป็น Invisible Banking หรือธุรกรรมในอากาศที่ติดตัวและเคลื่อนที่ไปกับลูกค้าทุกที่ทุกเวลา

นี่เป็นเพียงแค่น้ำจิ้มเท่านั้น ยังมีอีกหลายธนาคารทั้งเล็กและใหญ่ ขนของมาโชว์อีกเพียบ งานนี้ผลที่ได้แน่ๆคือ ประชาชนอย่างเราๆนี่แหละ หลายคนยังคุ้นเคยทำธุรกรนมผ่านสาขาและต้องจ่ายค่าธรรมเนียมต่างจากการใช้บริการผ่านธนาคาร เดี๋ยวนี้สาขามาอยู่บนมือถือแทน ค่าธรรมเนียมที่เคยเสียก็ไม่ต้องเสีย เชื่อว่า หลังจากนี้จะมีอะไรเด็ดมาให้เราได้เล่นกันอีกมากทีเดียว

การเงิน ดูทั้งหมด



COPYRIGHT © 2016 SEQUEL ONLINE. ALL RIGHTS RESERVED.
FOLLOW UP