กรุงเทพฯ–3 กรกฎาคม 2562 : ไบรท์โคฟ อิงค์ ( Brightcove Inc. ) (NASDAQ: BCOV) ผู้นำด้านการให้บริการคลาวด์สำหรับวิดีโอ เผยแพร่งานวิจัยหัวข้อ Asia OTT Research Report 2019 ซึ่งเป็นการศึกษาตลาด OTT TV ในภูมิภาคเอเชียประจำปี ที่ทำขึ้นร่วมกับพันธมิตรด้านการวิจัยอย่างยูกอฟ (YouGov) บริษัทด้านการสำรวจข้อมูลและความคิดเห็นสาธารณะระดับโลก
รายงานฉบับนี้นำเสนอผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสำรวจ 9,000 คน ครอบคลุมทั้ง 9 ประเทศในเอเชีย รวมถึงผู้บริโภคจำนวน 1,000 คนจากประเทศไทย โดยแบบสำรวจได้ถูกออกแบบมาให้เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความพึงพอใจของผู้บริโภคที่มีต่อบริการ OTT ตั้งแต่ระดับของการสมัครสมาชิก แรงจูงใจในการสมัครสมาชิก ราคาที่ผู้บริโภคยินดีจ่าย ความอดทนต่อการโฆษณาและการสมัครสมาชิกบริการแบบมีโฆษณา ไปจนถึงการเปิดรับประสบการณ์การใช้งานโทรทัศน์ที่ชวนจับจ่าย
นอกจากนี้ รายงานดังกล่าวยังได้รับการสนับสนุนจาก Evergent ซึ่งเป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านโซลูชั่นการบริหารวงจรการทำธุรกิจผู้ใช้งานบนคลาวด์สำหรับผู้ให้บริการวิดีโอ และ SpotX แพลตฟอร์มวิดีโอโฆษณาและการหารายได้ระดับโลก
การค้นพบสำคัญในประเทศไทย ได้แก่ : ผู้ตอบแบบสำรวจ 40% กล่าวว่า พวกเขาอาจยอมรับแพคเกจสมาชิกรายเดือนที่มีราคาถูกลงโดยมีโฆษณาอยู่ด้วยตามราคา ขณะที่ 38% ระบุว่าพวกเขาจะลงทะเบียนอย่างแน่นอน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงขนาดตลาดที่มีศักยภาพจากผู้ตอบแบบสำรวจถึง 78% ที่ชื่นชอบตัวเลือกนี้
ผู้ตอบแบบสำรวจ 59% ที่อยู่ในสถานะ ‘หมดอายุการใช้งาน’ กำลังวางแผนที่จะสมัครใช้บริการ OTT อีกครั้งในอนาคตเหตุผลหลัก 3 ข้อในการสมัครรับบริการ OTT หลายครั้ง ได้แก่ เพื่อตอบสนองความต้องการด้านเนื้อหาสำหรับครอบครัว (45%) การทดลองใช้งานฟรีและโปรโมชั่น (44%) และราคาถูกกว่า payTV (34%)
เมื่อมองถึงอนาคต ผู้ตอบแบบสำรวจในไทย 26% ไม่ต้องการเสียเงินแต่ยอมดูโฆษณาเพื่อแลกกับการบริโภคเนื้อหา ในขณะที่ 25% เลือกจ่ายค่าธรรมเนียมในราคาลดลงและยอมเห็นโฆษณาในจำนวนจำกัด และ 17% ระบุว่าเต็มใจที่จะจ่ายค่าธรรมเนียมสูงขึ้นเพื่อจะได้ไม่ต้องเห็นโฆษณาเลย
เมื่อถามถึงจำนวนเงินที่ยินดีจะจ่ายสำหรับบริการ OTT ผู้ตอบแบบสำรวจจำนวน 33% ระบุว่าพวกเขายินดีจ่ายเงินในจำนวนที่น้อยกว่า 1 ดอลลาร์/เดือน ขณะที่ 25% ยอมจ่าย 1-4 ดอลลาร์/เดือน และ 38% ระบุว่าพวกเขาสามารถจ่ายค่าบริการได้ตั้งแต่ 5-20 ดอลลาร์/ต่อเดือน
ผู้ตอบแบบสำรวจในไทย 25% ระบุว่ารับได้กับการมีโฆษณา 1 ชิ้นเข้ามาคั่นระหว่างพักรายการ ในขณะที่อีก 18% ยอมให้มีการโฆษณาคั่นรายการได้ 1-2 ชิ้น
ฟีเจอร์ 3 อันดับแรกของบริการ OTT ที่ผู้ตอบแบบสำรวจในไทยต้องการให้มีมากที่สุด ได้แก่ สามารถเข้าถึงได้บนโทรศัพท์มือถือ (42%)สามารถดาวน์โหลดมาดูแบบออฟไลน์ได้ (38%) และสามารถเข้าถึงผ่านแอป Apple TV, Android TV หรือ Smart TV ได้ (37%)
เมื่อถามถึงเสียงตอบรับหากสามารถซื้อสินค้าที่ปรากฎบนหน้าจอทีวีได้ ผู้ตอบแบบสำรวจ 72% ระบุว่ารับได้กับแนวคิดในการซื้อของผ่านจอทีวี
Greg Armshaw หัวหน้าฝ่ายขายประจำทวีปเอเชียของไบรท์โคฟกล่าวว่า “การวิจัยของเราแสดงให้เห็นว่าคนไทยมีทางเลือกในการรับบริการ OTT มากกว่าประเทศอื่นๆ ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ตอบแบบสำรวจอีก 17% ที่มองว่ามีคอนเทนต์ทีวีออนไลน์ไม่เพียงพอ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าผู้ให้บริการ OTT ควรมุ่งไปที่การตอบสนองฐานผู้ใช้ที่มีขนาดใหญ่พอเพื่อจะให้ได้กำไร เพราะความสามารถในการทำกำไรของ OTT นั้นต้องอาศัยการขับเคลื่อนด้วยการจับกลุ่มลูกค้าที่มีมูลค่ามากที่สุด ผ่านการนำเสนอให้คอนเทนต์ที่มีคุณภาพสูงในราคาต่ำและสามารถรับชมได้อย่างไม่สะดุด ไบรท์โคฟจึงเข้าไปร่วมมือกับบรรดาบริษัทสื่อชั้นนำของโลกในการดำเนินธุรกิจด้าน OTT ของพวกเขา และเราก็ช่วยให้ลูกค้าทุกระดับสามารถสร้างธุรกิจด้านวิดีโอ OTT ที่ทำกำไรขึ้นมาได้”