กรุงเทพฯ 12 กรกฏาคม 2559 : PSTC รุกครั้งใหญ่ เสนอขายหุ้นกู้และตั๋วแลกเงิน รวมวงเงินมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท เพื่อนำเงินที่ได้จากการ ระดมทุนไปพัฒนาโรงไฟฟ้าจากพลังงานทางเลือก ทั้งโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มสหกรณ์ โรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล โรงไฟฟ้าจากไบโอแก๊ส หวังขยายพอร์ตธุรกิจ รองรับการเติบโตแบบก้าวกระโดดที่ตั้งเป้าหมายภายใน 2561 จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็น 100 MW ดันรายได้จากการขายไฟฟ้าตามสัญญาทะลุ 1,200 ล้านบาท
นายพระนาย กังวาลรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี หรือ PSTC เปิดเผยว่า บริษัทฯ ทำหนังสือแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถึงมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2559 ได้อนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นกู้/ตั๋วแลกเงินทั้งระยะสั้นและระยะยาว รวม 2,000 ล้านบาท เสนอขายแบบเฉพาะเจาะจง (Private Placement: PP) และ/หรือ ผู้ลงทุนสถาบันรายใหญ่ และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ และ/หรือ นักลงทุนรายย่อย
ทั้งนี้ เงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปรุกขยายพอร์ตธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือก ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งภาคพื้นดิน สำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์การเกษตร จำนวน 2 โครงการ รวมเงินลงทุน 425 ล้านบาท แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังการผลิต 5 MW ในพื้นที่สหกรณ์การเกษตรเมืองสระแก้ว จำกัด ในจังหวัดสระแก้ว จำนวน 212.50 ล้านบาท และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ ในพื้นที่สหกรณ์ประมงแม่กลอง จำกัด ในจังหวัดสมุทรสงคราม กำลังการผลิต 5 MW อีก 212.50 ล้านบาท โดยทั้ง 2 โครงการจะเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (SCOD) ภายในสิ้นปีนี้
“เรามีแผนรุกโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือกครั้งใหญ่ จึงต้องการระดมทุนด้วยการออกหุ้นกู้/ตั๋วแลกเงิน รองรับแผนการรุกขยายธุรกิจ ที่ให้ความสนใจลงทุนทั้งธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โรงไฟฟ้าชีวมวล โรงไฟฟ้าไบโอแก๊ส จึงได้จัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 30 สิงหาคม 2559 นี้เพื่อขออนุมัติจากผู้ถือหุ้น” นายพระนาย กล่าว
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ลงทุนเพิ่มเติมในบริษัท เวลล์ โคราช เอ็นเนอร์ยี จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานชีวมวล (Biomass) จำนวน 1 โรง ที่จังหวัดบุรีรัมย์ จากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม จำนวน 12,600,000 หุ้น หรือ คิดเป็นร้อยละ 45 ของทุนจดทะเบียน คิดเป็นเงินจำนวน 85 ล้านบาท ซึ่งการลงทุนครั้งนี้ ส่งผลให้บริษัทฯ มีสัดส่วนการลงทุนใน เวลล์ โคราช เอ็นเนอร์ยี เพิ่มเป็นร้อยละ 100 จากเดิมมีสัดส่วนถือหุ้นร้อยละ 55
โดยโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลแห่งนี้ ใช้เปลือกไม้เศษไม้และพืชพลังงานเป็นวัตถุดิบผลิตกระแสไฟฟ้า ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จำนวน 8 MW ที่ได้ผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้ากับ กฟภ. เชิงพาณิชย์แล้ว (COD) เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2558 ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการขอเปลี่ยนการขายไฟในรูปแบบ Adder ไปเป็น Feed-in Tariff (FiT) ที่กำหนดในอัตราขายไฟอยู่ที่ 4.54 บาท และโครงการนี้ยังได้รับการส่งเสริมจาก BOI อีกด้วย
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังได้เข้าลงทุนซื้อหุ้นในบริษัทโรงไฟฟ้าสระยายโสม จำกัด ผู้มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานชีวภาพจากน้ำเสีย (Biogas) กับ กฟภ. จำนวน 4.6 MW ที่จังหวัดสุพรรณบุรี โดยสัญญาซื้อขายไฟดังกล่าวจะเริ่มขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (SCOD) ในเดือนมิถุนายน 2560 จากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน 10,000 หุ้น คิดเป็นจำนวนเงิน 110 ล้านบาท พร้อมดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าจากพลังงานชีวภาพเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าขายให้แก่ กฟภ. ตามสัญญา ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนอีก 277 ล้านบาท รวมมูลค่าเงินลงทุนทั้งโครงการ 387 ล้านบาท
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PSTC กล่าวว่า จากแผนงานการรุกธุรกิจครั้งใหญ่ในครั้งนี้ บริษัทฯ มีเป้าหมายต้องการขยายธุรกิจไฟฟ้าจากพลังงานทางเลือกทุกรูปแบบ ทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โรงไฟฟ้าจากพลังงานชีวภาพ โรงไฟฟ้าจากพลังงานชีวมวล โดยตั้งเป้า 3 ปี หรือภายในปี 2561 จะมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเพิ่มเป็น 100 MW จากปัจจุบันที่มีอยู่ 45.3 MW และทำรายได้จากการขายไฟฟ้ามากกว่า 1,200 ล้านบาท ขณะที่ขนาดสินทรัพย์ก็มีอัตราเติบโตโดดเด่นเช่นกัน โดยสิ้นปี 2559 จะมีสินทรัพย์รวมประมาณ 3,000 ล้านบาท และเพิ่มเป็น 5,000 ล้านบาทภายในปี 2560