19 มิถุนายน 2562 : บริษัท PwC ประเทศไทย หนึ่งในเครือข่ายบริษัทผู้ให้บริการด้านการตรวจสอบบัญชี บริการให้คำปรึกษาด้านภาษีและกฎหมาย และบริการให้คำปรึกษาทางธุรกิจ เป็นเจ้าภาพจัดงาน PwC’s Global Insurance Leadership Meeting 2019 เผยกุญแจสำคัญของการขับเคลื่อนธุรกิจประกันภัยสู่การเป็นผู้นำธุรกิจดิจิทัล คือ การคาดเดาความคาดหวังของลูกค้า รูปแบบธุรกิจใหม่ๆ การสร้างและพัฒนาทาเลนท์ และการผสานกลยุทธ์เข้ากับการจัดการแบบยืดหยุ่น พร้อมแนะธุรกิจประกันภัยของไทย เร่งปรับตามเทคโนโลยีเกิดใหม่ให้ทัน โดยเน้นความคล่องตัว การจัดการให้มีประสิทธิภาพ รวมถึง การพัฒนาและสร้างทาเลนท์ต่อเนื่อง เพื่อสร้างความได้เปรียบในการทำธุรกิจในยุคดิจิทัล
รายงาน The Insurance trends 2019 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของผลสำรวจซีอีโอทั่วโลกครั้งที่ 22 ของ PwC โดยทำการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริหารในกลุ่มธุรกิจประกันภัยจำนวน 140 ราย ระบุว่า เทคโนโลยีดิจิทัลจะให้คุณประโยชน์และมอบโอกาสทางธุรกิจ มากกว่าเป็นความเสี่ยงที่คุกคามธุรกิจ โดยปัจจุบัน ธุรกิจประกันภัย ถือเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการเข้ามาของเทคโนโลยีมากที่สุด ทั้งนี้ บริษัทประกันภัยจำนวนมากมองว่า เทคโนโลยีเกิดใหม่ได้ส่งผลต่อรูปแบบของการดำเนินธุรกิจประกันภัย รวมถึงพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปด้วย
ผลจากการสำรวจพบว่า ผลกระทบจากการเข้ามาของเทคโนโลยีกลายเป็นความกังวลอันดับต้นๆ ของการดำเนินธุรกิจ โดยผู้บริหารในกลุ่มธุรกิจประกันภัย ยังคงมีการลงทุนด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อรับมือกับความท้าทายดังกล่าว โดยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี จะเน้นไปที่การเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า รวมถึงพัฒนารูปแบบของการทำธุรกิจใหม่ๆ ซึ่งซีอีโอในกลุ่มธุรกิจประกันภัย มากกว่า 80% เผยว่า ได้นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ (Artificial Intelligence: AI) เข้ามาใช้ในการทำธุรกิจ หรือมีแผนจะนำมาใช้ภายใน 3 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง หรือ ไอโอที (The Internet of Things: IoT) ก็เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่นำมาใช้เพื่อลดการเรียกร้องค่าชดเชยเกี่ยวกับทรัพย์สิน และความเสี่ยงจากความเสียหายของพืชผล ตัวอย่าง เช่น การจัดระเบียบข้อมูลแบบเรียลไทม์จากเซ็นเซอร์บนภาคพื้นดิน ทางอากาศ และจากภาพถ่ายดาวเทียม