29 พ.ค. 62 : นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลงต่อเนื่องรับข่าวสงครามการค้าระหว่างจีน กับสหรัฐฯ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นำประเด็นเรื่อง Huawei มาเป็นหนึ่งในการต่อรอง พร้อมเตรียมขึ้นภาษีสินค้านำเข้าวงเงินที่เหลืออีก 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในอัตรา 25% ขณะที่จีนโต้กลับด้วยการขึ้นอัตราภาษีในสินค้ากว่า 5,000 รายการ รวมเป็นวงเงินกว่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และส่งสัญญาณไม่ส่งออกแร่ “แรร์เอิร์ธ” ให้สหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม บลจ.ทิสโก้ประเมินว่า ตลาดได้รับรู้ข่าวร้ายไปค่อนข้างมากแล้ว และระดับราคา (Valuation) ตลาดหุ้นจีนในปัจจุบันถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำ ขณะที่ผลประกอบการบริษัทในตลาดหุ้นจีนยังคงเติบโต โดยในไตรมาสที่ 1/2562 ที่ผ่านมา ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในจีนโดยเฉพาะบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น H-shares ออกมาดีกว่าที่คาด และเชื่อว่าหลังจากนี้รัฐบาลจีนจะเริ่มมีมาตรการต่างๆ ทั้งมาตรการด้านการเงินและการคลังออกมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสงครามการค้า จึงประเมินว่าตลาดหุ้นจีนจะมีโอกาสปรับขึ้น (Upside) และหากทั้งสองฝ่ายจะมีโอกาสมาเจอกันในระหว่างการประชุม G-20 ช่วงปลายเดือนมิถุนายน และหาจุดลงตัวได้จะทำให้ตลาดมี Upside ค่อนข้างมากด้วย
ดังนั้น เพื่อเป็นการจับจังหวะการลงทุนให้กับลูกค้า บลจ.ทิสโก้ได้เสนอขาย กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า อิควิตี้ ทริกเกอร์ 5M#3 ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) ทริกเกอร์ฟันด์หุ้นจีนกองทุนที่ 3 ตั้งเป้าหมายเลิกโครงการที่ 5% ภายในระยะเวลา 5 เดือน หรือ ณ เวลาใดเวลาหนึ่งหลังจากเปิดให้ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการ ซึ่งการกำหนดเป้าหมาย 5% ไม่ใช่การรับประกันผลตอบแทนของกองทุน และเป็นเป้าหมายก่อนหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง ผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ในช่วงระยะเวลา 5 เดือนแรก อีกทั้ง กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสาร และหมวดอุตสาหกรรมธุรกิจการเงิน ดังนั้น หากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก เปิดเสนอขายครั้งแรกวันที่ 30 พ.ค. – 4 มิ.ย. 2562
“บลจ.ทิสโก้มองว่า ความหวังในการเจรจาด้านการค้าจะเกิดขึ้นอีกครั้งในการประชุม G-20 ซึ่งล่าสุดนายโดนัลด์ทรัมป์ ยืนยันว่าจะเข้าพบประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีน โดยการประชุมปีนี้จะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 28-29 มิ.ย. 2562 ที่ประเทศญี่ปุ่น สำหรับการเจรจาใ นระหว่างการประชุมนั้นคาดว่า กรณีเลวร้ายที่สุดคือ ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้ากันได้ แต่ก็คาดว่าอาจจะมีการประกาศสงบศึกชั่วคราวไม่เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกันอีก ย่อมเป็นข่าวดีให้กับการลงทุนในตลาดหุ้นจีนและตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นอีกครั้ง” นายสาห์รัชกล่าว
ทั้งนี้ กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า อิควิตี้ ทริกเกอร์ 5M#3 จะเน้นลงทุนในหุ้นจีนผ่านกองทุนอีทีเอฟ Hang Seng H-Share Index ETF (กองทุนหลัก) ซึ่งเป็นกองทุนรวมอีทีเอฟที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงและตลาดหลักทรัพย์ไต้หวัน มีมูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท และเนื่องจากกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศจึงมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน กองทุนจึงมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน