ฮ่องกง, 10 พฤษภาคม 2562 : กลุ่มบริษัทเอไอเอ ประกาศอัตราการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) ร้อยละ 18 จากอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ (CER) ประจำไตรมาสที่ 1 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562 อัตราการเติบโตจะรายงานจากอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ โดยที่มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) ขยายตัวร้อยละ 18 เป็น 1,169 ล้านเหรียญสหรัฐ เบี้ยประกันภัยใหม่รับปีแรก (ANP) เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 เป็น 1,827 ล้านเหรียญสหรัฐ อัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB margin) เพิ่มขึ้น 4.1 จุด คิดเป็นร้อยละ 63.6 เบี้ยประกันภัยรับรวม (TWPI) เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 เป็น 8,276 ล้านเหรียญสหรัฐ
นายอึง เค็ง ฮุย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทเอไอเอ กล่าวว่า “เอไอเอ เริ่มต้นปีได้อย่างดีเยี่ยม โดยมีอัตราการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 เป็น 1,169 ล้านเหรียญสหรัฐ ประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2562 ซึ่งเป็นมูลค่าธุรกิจใหม่ประจำไตรมาสที่สูงที่สุดของเรา ส่งผลต่อภาพรวมผลงานการเติบโตระหว่างปี จากตัวเลขผลประกอบการ แสดงให้เห็นถึงการดำเนินกลยุทธ์การเติบโตที่สามารถตอบสนองความต้องการด้านความคุ้มครองทางการเงิน และการออมเงินในระยะยาว ทั่วทั้งตลาดต่างๆ ที่เราดำเนินธุรกิจอยู่ได้เป็นอย่างดี ซึ่งการที่เอไอเอสามารถเป็นที่ปรึกษาทางการเงินที่มีคุณภาพสูง และเป็นพันธมิตรในทุกช่วงชีวิตแก่ลูกค้าของเรา เป็นปัจจัยสำคัญในความสำเร็จนี้
ความได้เปรียบในการแข่งขันของเอไอเอ ในเรื่องช่องทางการขายผ่านตัวแทนและนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการพัฒนามาหลายปีล้วนเป็นตัวขับเคลื่อนโครงสร้างการเติบโตของธุรกิจประกันชีวิตทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก นอกจากนี้ เราได้ใช้โอกาสเหล่านี้อย่างดีเยี่ยม ในการสร้างมูลค่าที่เติบโตและยั่งยืนแก่ผู้ถือหุ้น ตลอดจนสนับสนุนลูกค้าของเราให้มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น (Healthier, Longer, Better Lives)”
สรุปผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 1 มูลค่าธุรกิจใหม่เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 18 เป็น 1,169 ล้านเหรียญสหรัฐ จากการเติบโตที่แข็งแกร่ง จากทั้งช่องทางการขายฝั่งตัวแทนและพันธมิตร เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 1 ปี 2561
เอไอเอในประเทศจีน ยังคงเป็นตลาดที่มีการเติบโตที่รวดเร็วที่สุดในไตรมาสแรก โดยมีอัตราการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ที่ยอดเยี่ยมในไตรมาสที่ 1 ปี 2562 ซึ่งเป็นผลมาจากการดำเนินกลยุทธ์พรีเมียร์ เอเจนซี (Premier Agency) ที่แตกต่างอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลต่ออัตราการเติบโตของจำนวนตัวแทนและผลงานที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นของตัวแทน นอกจากนี้ เรายังได้เริ่มดำเนินการเตรียมความพร้อมของศูนย์ให้บริการการขายในเมืองเทียนจิน และเมืองฉือเจียจวง ในมณฑลเหอเป่ย
“ธุรกิจของเราในฮ่องกงมีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) ในไตรมาสแรกของปี 2562 ซึ่งเป็นผลมาจากช่องทางการขายผ่านตัวแทนและพันธมิตร ซึ่งการเติบโตของตัวแทนเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนตัวแทน ส่งผลให้มูลค่าธุรกิจใหม่มีการเติบโตทั้งตลาดภายในประเทศและในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่”
สำหรับการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ในประเทศไทย เป็นผลมาจากการดำเนินงานร่วมกับพันธมิตรของเรา อย่างธนาคารกรุงเทพ โดยเราได้เห็นแรงผลักดันในการเปิดรับบุคลากรใหม่และเพิ่มประสิทธิภาพของผู้เชี่ยวชาญด้านการประกันชีวิต นอกจากนี้ การพัฒนาอย่างต่อเนื่องในการปรับเปลี่ยนช่องทางตัวแทน ยังส่งผลต่อการเติบโตของจำนวนตัวแทนที่มีคุณภาพ
ประเทศสิงคโปร์ มีอัตราการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ลดลง เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2561 เนื่องจากอัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่ลดลง จากการลดลงของเบี้ยประกันภัยครั้งเดียวของยูนิต ลิงค์ เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว ตามการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2561
มูลค่าธุรกิจใหม่ ในประเทศมาเลเซีย มีอัตราคงที่ จากความท้าทายด้านเงื่อนไขทางการตลาด สำหรับช่องทางการขายผ่านตัวแทน มีจำนวนการรับสมัครและการอบรมเป็นไปตามเป้าหมาย และมีอัตราการเติบโตของตัวแทน ในขณะที่ช่องทางการขายผ่านธนาคาร มีรายงานผลการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่
สำหรับตลาดอื่นๆ ของเรา มีอัตราการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ที่แข็งแกร่งในไตรมาสแรก ประจำปี 2562 ซึ่งเป็นผลมาจากการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยมจากประเทศฟิลิปปินส์ ไต้หวัน เวียดนาม และออสเตรเลีย (ซึ่งรวมประเทศนิวซีแลนด์) อัตราการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ในประเทศออสเตรเลีย เป็นผลมาจากการเข้าถือครองหุ้นในบริษัทโซเวเรน (Sovereign) ในประเทศนิวซีแลนด์ และการต่ออายุเบี้ยประกันของประกันกลุ่มในประเทศออสเตรเลีย
ในภาพรวม เบี้ยประกันภัยใหม่รับปีแรก (ANP) เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2561 คิดเป็น 1,827 ล้านเหรียญสหรัฐ อัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB margin) มีการเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 63.6 จากร้อยละ 59.7 ซึ่งเป็นผลมาจากความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ และการเปลี่ยนแปลงสมมุติฐานของการดำเนินงาน ที่ส่งผลดีอย่างยั่งยืน สำหรับอัตรากำไรของมูลค่าปัจจุบันของเบี้ยประกันภัยธุรกิจใหม่ (PVNBP) มีการเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 11 จากร้อยละ 10 ในไตรมาสแรกของปี 2561
ทั้งนี้ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงของสมมุติฐานเชิงเศรษฐกิจในระยะยาวที่แตกต่างจากที่ปรากฏอยู่ในรายงานประจำปี 2561 ของเรา ในขณะที่เบี้ยประกันภัยรับรวม (TWPI) เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 เป็น 8,276 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเปรียบทียบกับไตรมาสที่ 1 ปี 2561 เนื่องจากเรายังคงมีธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ของเรา
สำหรับภาพรวม เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย ยังคงมีความยืดหยุ่นและมีการกำหนดนโยบายเชิงรุกเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ เพื่อตอบสนองความไม่แน่นอนของสภาพแวดล้อมทั่วโลก อย่างไรก็ตาม การเติบโตที่แข็งแกร่งภายในและจำนวนบุคลากรของเรา ยังคงส่งผลดีแก่โครงสร้างองค์กรในระยะยาวต่อธุรกิจของเอไอเอ เรายังคงมีความมั่นใจในศักยภาพของเรา ในการสร้างมูลค่าที่เติบโตและยั่งยืนแก่ผู้ถือหุ้นของเราต่อไป
ทางด้านความผันผวนด้านอัตราแลกเปลี่ยนนั้น เอไอเอได้รับเบี้ยประกันภัยส่วนใหญ่เป็นเงินสกุลท้องถิ่น ซึ่งทำให้สินทรัพย์และหนี้สินของเรามีมูลค่าใกล้เคียงกัน ช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจจากความเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งนี้ ในรายงานงบการเงินของกลุ่มที่มีการแปลเป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เกิดผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน ดังนั้น เราจึงมีการเปรียบเทียบอัตราการเติบโตจากอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ เว้นแต่ระบุเป็นอย่างอื่น เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนของผลการดำเนินธุรกิจระหว่างปี