11 มีนาคม 2562 : นายนพพร บุญลาโภ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทิพยประกันชีวิต (TIPLIFE) เปิดเผยว่า ในปี 2562 นี้บริษัทยังคงมุ่งมั่นสู่การเป็นบริษัทที่มีการพัฒนาด้านการรับประกันและบริการอย่างไม่หยุดยั่ง มีแผนในการเดินหน้าสร้างแบรนด์เพื่อสร้างการรับรู้อย่างต่อเนื่อง โดยการผนึกกำลังพันธมิตรเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัท พร้อมตั้งเป้าหมายเบี้ยประกันรับรวมไว้ 10,000 ล้านบาท หรือเติบโตกว่า 30% โดยผ่านช่องทาง สินเชื่อธนาคาร, Bancassurance , ตัวแทน และประกันกลุ่ม รวมถึงเตรียมเปิดช่องทาง Digital เพื่อขยายช่องทางการบริการตามความต้องการของผู้บริโภค
นอกจากนี้ MYMO ในช่องทางของธนาคารออมสิน และเว็บไซต์ TIPlife.com สำหรับลูกค้าทั่วไป พร้อมทั้งยังมีการปรับโครงสร้าง เพิ่มฟังก์ชั่นงานเพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจ อีกทั้งการพัฒนาระบบดูแลลูกค้า Contact Center ตลอดจนช่องทางการให้บริการผ่าน Mobile Application และ Line Official โดยให้ความสำคัญต่อการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายได้อย่างแม่นยำ และยังมีการเปลี่ยนแปลงระบบสารสนเทศหลักของบริษัท (New Core Insurance System) พร้อมทั้งพัฒนา E-Application การใช้ใบคำขอผ่านอิเล็กทรอนิกส์
สำหรับการดำเนินงานในปี 2561 ที่ผ่านมา บริษัทสามารถทำเบี้ยรับรวมได้ 7,615 ล้านบาท เติบโต 14.8% ในขณะที่อุตสาหกรรมเติบโต 4.3% โดยผ่านช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ จากผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตประเภทคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA) 5,364 ล้านบาท ประเภทสามัญ 1,216 ล้านบาท ช่องทางตัวแทน 862 ล้านบาท และ ประกันชีวิตประเภทกลุ่ม 173 ล้านบาท ทำให้บริษัทฯ มีกำไรได้ที่กว่า 1,022 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 29.4%
ในขณะที่การลงทุนทำรายได้ 859 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 19.7% โดยแผนการลงทุนส่วนใหญ่จะเป็นตราสารหนี้ประมาณ 74% และ ที่เหลือเป็นกองทุนรวมหรือทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน หุ้นสามัญ สลากออมสิน และ เงิรฝากธนาคาร สลากออมสิน และ เงินฝากธนาคาร
ส่วนทางด้าน นายอิสระ วงศ์รุ่ง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ธนาคารเข้ามาถือหุ้นของทิพยประกันชีวิตจำนวน 25% ก็มีการเพิ่มเติมชื่อภายใต้แบรนด์เล็กน้อย กล่าวคือ “ทิพยประกันชีวิต หนึ่งในพันธมิตรของธนาคารออมสิน” เพราะฉะนั้นช่องทางการขยายเบี้ยประกันสำหรับแบบประกันประเภทคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA)ที่ตั้งเป้าไว้ 7,000 ล้านบาท ประเภทสามัญ 2,000 ล้านบาท และช่องทางตัวแทนรวมถึงอื่นๆอีก 1,000 ล้านบาท โดยรวมแล้วเบี้ย 10,000 ล้านบาท คาดว่าจะเป็นไปได้หรืออาจจะเติบโตมากกว่า