กรุงเทพฯ 28 มิถุนายน 2559 : รัฐบาลมีการจัดเก็บรายได้ช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 สูงกว่าประมาณการร้อยละ 4.1 และสูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 13.4 สืบเนื่องจากการนำส่งรายได้จากการประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 900 และ 1800 MHz (4G) จำนวน 48,242 ล้านบาท
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 (ตุลาคม 2558 – พฤษภาคม 2559) จัดเก็บได้ 1,556,421 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 61,093 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.1 และสูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 13.4
โดยสาเหตุหลักมาจากการนำส่งรายได้จากการประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 900 และ 1800 MHz (4G) จำนวน 48,242 ล้านบาท นอกจากนี้ การนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจสูงกว่าประมาณการ 12,202 ล้านบาท หรือร้อยละ 14.4 และการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเบียร์ และภาษีสรรพสามิตรถยนต์สูงกว่าประมาณการ 7,351 6,947 และ 4,444 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.4 12.6 และ 7.1 ตามลำดับ
ในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สูงกว่าเป้าหมาย 60,000 ล้านบาท ในขณะที่การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการบริโภคภายในประเทศยังคงสูงกว่าปีก่อนอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ยังขยายตัวได้ดีจากมาตรการต่างๆ ของรัฐบาล ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้ติดตามและเร่งรัดการจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานภายใต้สังกัดเพื่อให้การจัดเก็บรายได้รัฐบาลในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณเป็นไปตามเป้าหมาย
ผลการจัดเก็บรายได้ตามหน่วยงานจัดเก็บสรุปได้ ดังนี้
1. กรมสรรพากร จัดเก็บรายได้รวม 1,064,462 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 94,900 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.2 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 4.2) โดยภาษีที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีเงินได้ปิโตรเลียมจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 40,401 ล้านบาท หรือร้อยละ 47.9 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 12.7) เนื่องจากราคาน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ (เหลว) ลดลง ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีกำไรเพื่อชำระภาษีลดลง
ภาษีมูลค่าเพิ่มจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 37,077 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.2 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 0.4) โดยภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 29,808 ล้านบาท หรือร้อยละ 14.3 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 4.7) เนื่องจากมูลค่าการนำเข้าที่หดตัวอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลง ขณะที่ภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บจากการบริโภคภายในประเทศจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 7,269 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.4 (แต่สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 3.7)
อย่างไรก็ดี ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 7,351 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.4 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 5.8) โดยภาษีหัก ณ ที่จ่ายภาคเอกชนจากเงินเดือน (ภ.ง.ด. 1) และอสังหาริมทรัพย์จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ เนื่องจากการขยายตัวของฐานเงินเดือนที่สูงกว่าประมาณการและผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา
2. กรมสรรพสามิต จัดเก็บรายได้รวม 349,681 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 16,970 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.1 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 18.4) โดยภาษีเบียร์จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 6,947 ล้านบาท หรือร้อยละ 12.6 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 10.6) ภาษีสรรพสามิตรถยนต์จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 4,444 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.1 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 21.1) เนื่องจากการเร่งซื้อรถยนต์ก่อนที่จะมีการปรับโครงสร้างอัตราภาษีสรรพสามิตรถยนต์ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 เป็นต้นไป และภาษีน้ำมันจัดเก็บได้ สูงกว่าประมาณการ 4,075 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.7 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 45.5)
3. กรมศุลกากร จัดเก็บรายได้รวม 75,239 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 4,661 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.8 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 2.3) เนื่องจากได้รับผลกระทบของการปรับโครงสร้างอัตราภาษีศุลกากร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและมูลค่าการนำเข้าที่ยังคงหดตัว โดยมูลค่าการนำเข้าในรูปดอลลาร์สหรัฐ และเงินบาทในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 หดตัวร้อยละ 12.7 และร้อยละ 4.3 ตามลำดับ
ทั้งนี้ สินค้าที่จัดเก็บอากรขาเข้าได้สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ยานบกและส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ประกอบ เครื่องจักรและเครื่องใช้กล ของทำด้วยเหล็กหรือเหล็กกล้า และพลาสติก
4. รัฐวิสาหกิจ นำส่งรายได้รวม 96,999 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 12,202 ล้านบาท หรือร้อยละ 14.4 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 6.1) ทั้งนี้ รัฐวิสาหกิจที่นำส่งรายได้สูงกว่าประมาณการที่สำคัญ ได้แก่ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารออมสิน การประปานครหลวง และกองทุนรวมวายุภักษ์
5. หน่วยงานอื่น จัดเก็บรายได้รวม 225,439 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 118,039 ล้านบาท หรือร้อยละ 109.9 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 80.0) เนื่องจากการนำส่งรายได้จากการประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 900 และ 1800 MHz (4G) จำนวนประมาณ 48,242 ล้านบาท การรับรู้เงินส่วนเกินจากการจำหน่ายพันธบัตรเป็นรายได้ และการนำส่งเงินสภาพคล่องส่วนเกินของกองทุนหมุนเวียนจำนวน 35,856 และ 10,634 ล้านบาท ตามลำดับ
สำหรับกรมธนารักษ์จัดเก็บรายได้รวม 5,125 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 386 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.1 (สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ 9.3)
6. การคืนภาษีของกรมสรรพากร จำนวน 186,103 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 10,773 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.5 ประกอบด้วยการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 136,341 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 19,459 ล้านบาท หรือร้อยละ 12.5 และการคืนภาษีอื่น ๆ (ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์) จำนวน 49,762 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 8,686 ล้านบาท หรือร้อยละ 21.1
7. อากรถอนคืนกรมศุลกากร จำนวน 7,342 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 1,177 ล้านบาท หรือร้อยละ 19.1
8. การจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับองค์การบริหารส่วนจังหวัด จำนวน 9,492 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 1,875 ล้านบาท หรือร้อยละ 16.5
9. เงินกันชดเชยภาษีสำหรับสินค้าส่งออก จำนวน 9,837 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 757 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.1
10. การจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตาม พ.ร.บ. กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจฯ จำนวน 5 งวด เป็นเงิน 42,625 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 1,215 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.8