1 มีนาคม 2562 : วิริยะประกันภัยแจงทิศทางการดำเนินงานปี 62 ด้วยกลยุทธ์ “ผู้นำคุณภาพบริการประกันภัย” มุ่งเน้นใน 2 แนวทางหลัก เพิ่มประสิทธิภาพงานด้านสินไหมทดแทน “พัฒนาคน พัฒนางาน พัฒนาเครือข่ายการให้บริการ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยสุขภาพให้หลากหลายเพื่อคนไทยได้เข้าถึงกันถ้วนหน้า” เผยเป้าหมายเติบโตต้องโตไม่น้อยกว่าธุรกิจในภาพรวมหรือประมาณร้อยละ 5
ขณะที่ผลประกอบการปี 61 เป็นไปตามเป้าโต 4.86 % มีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรง 37,920 ล้านบาท โดยมีผลงานด้านรับประกันภัยที่ไม่ใช่รถยนต์โดดเด่นที่สุด โตถึง 11.25% ส่งผลให้สัดส่วนงานรับประกันเพิ่มขึ้นถึง 10% เป็นปีแรก ขณะที่งานด้านรับประกันภัยรถยนต์ยังครองส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับหนึ่งติดต่อกันเป็นปีที่ 32 ด้วยส่วนแบ่งตลาด 24.90% มีเบี้ยประกันภัยรถยนต์รวม 34,093 ล้านบาท
นายอมร ทองธิว กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจในปี 2562 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายที่จะมีอัตราการเติบโตไม่น้อยกว่าการเติบโตของอุตสาหกรรมในภาพรวมคือเติบโตไม่ต่ำกว่า 5% ภายใต้กลยุทธ์ที่กำหนดไว้ “ผู้นำคุณภาพด้านบริการประกันภัย”
ดังนั้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ บริษัทฯ มีแนวทางสำคัญอยู่ 2 ประการ คือ มุ่งเน้นการทำตลาดประกันภัยสุขภาพ ซึ่งในปีที่ผ่านมามีสัญญาณบ่งชี้ว่าบริษัทฯ จะประสบความสำเร็จในการรับประกันภัยทางด้านนี้ ดังเห็นได้จากการตอบรับเป็นอย่างดีของตลาด
ในปี 62 นี้บริษัทฯ จะพัฒนาและเปิดตัวแผนประกันสุขภาพหลากหลายแผน ทั้งเป็นแผนที่ถือเป็นนวัตกรรมความคุ้มครอง และแผนที่จะสนองรับความต้องการของผู้บริโภค ตลอดไปถึงให้เป็นไปตามเป้าวัตถุประสงค์หลักของบริษัทฯ ที่ต้องการให้คนไทยได้เข้าถึงประกันภัยสุขภาพถ้วนหน้าและเข้าถึงมาตรฐานการรักษาที่ได้มาตรฐานสากลในระดับโลก
อีกประการหนึ่งบริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นในการพัฒนาคุณภาพด้านการบริการ โดยเฉพาะคุณภาพการบริการสินไหมรถยนต์ ซึ่งถือเป็นจุดแข็งและจุดขายของบริษัทฯ ที่ได้รับการยอมรับจากลูกค้าจำนวนกว่า 5 ล้านกรมธรรม์ ทั้งนี้ในการพัฒนาบริการนอกจากจะนำนวัตกรรมทางเทคโนโลยีมาเสริมศักยภาพแล้ว บริษัทฯ ยังไม่หยุดยั้งในการพัฒนาทรัพยากรบุคคล เพื่อให้มีความรู้และทักษะสอดรับกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อที่จะได้ส่งมอบการบริการที่ดีให้กับผู้เอาประกันภัย
โดยในปี 2561 บริษัทฯ มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวมทั้งสิ้น 37,920 ล้านบาท เติบโตถึง 4.86% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา และถือว่าบริษัทฯ ยังคงครองส่วนแบ่งการตลาดประกันภัยรับรวมของธุรกิจประกันวินาศภัยเป็นอันดับหนึ่งมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 27 ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 16.27% และเช่นเดียวกันเมื่อแยกตามสัดส่วนงานรับประกันภัย
ในด้านการประกันภัยรถยนต์บริษัทฯ ยังคงครองส่วนแบ่งตลาดประกันภัยรถยนต์เป็นอันดับหนึ่งติดต่อกันเป็นปีที่ 32 ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 24.90% มีเบี้ยประกันภัยรถยนต์ 34,093 ล้านบาท เติบโต 4.19 % ด้านการประกันภัยที่ไม่ใช่รถยนต์ มีเบี้ยประกันภัย 3,826 ล้านบาทเติบโต 11.25%
“ส่วนผลประกอบการทางด้านการลงทุน ในปี 2561 บริษัทฯ มีพอร์ทการลงทุนทั้งสิ้น 62,715 ล้านบาท โดยสัดส่วนการลงทุนที่บริษัทฯ ต้องปฎิบัติกฎระเบียบของสำนักงานคปภ. จึงต้องเน้นการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยและมีสภาพคล่องสูง ซึ่งสัดส่วนการลงทุนส่วนใหญ่จะเป็น เงินฝากในสถาบันการเงิน ตราสารหนี้ภาครัฐ”
พร้อมกันนี้ นายสยม โรหิตเสถียร รองกรรมการผู้จัดการบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด(มหาชน) กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินงานในด้านการรับประกันภัยรถยนต์ บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นนำเทคโนโลยีและสร้างสรรค์วัตกรรมมาใช้ในการพัฒนา ปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการประกันภัย โดยเฉพาะการบริการด้านสินไหมทดแทน เพื่อตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำในธุรกิจประกันภัย
และเพื่อให้สอดรับกับกลยุทธ์ที่บริษัทวางไว้ในปีนี้ “ผู้นำคุณภาพบริการประกันภัย” ซึ่งเป็นคุณภาพที่เกิดจากประสบการณ์ในการจัดการเคลมกว่า 9 แสนเคสต่อปี โดยบริษัทฯ ได้วางเป้าหมายการพัฒนาไว้ 3 ด้านด้วยกันคือ พัฒนาคน พัฒนางาน พัฒนาเครือข่ายการให้บริการ
โดย การพัฒนาคน บริษัทฯ จะมุ่งเน้นพัฒนาพนักงานที่เกี่ยวข้องกับงานด้านสินไหมทดแทน เนื่องจากพนักงานในกลุ่มนี้ถือเป็นตัวแทนของบริษัทในการส่งมอบการบริการที่ดีมีคุณภาพให้กับลูกค้า ดังเห็นได้จากการสรรหาพนักงานสำรวจอุบัติเหตุ มีการกำหนดคุณสมบัติเบื้องต้นไว้ว่าต้องจบการศึกษาระดับปริญญาตรี นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มเติมความรู้และพัฒนาทักษะอยู่ตลอดเวลา
โดยมีหลักสูตรรองรับถึง 22 หลักสูตร ซึ่งเป็นหลักสูตรที่บริษัทฯ ได้พัฒนาขึ้นมาเองจากประสบการณ์ในการเคลมสินไหมมากกว่า 9 แสนเคสต่อปี และที่สำคัญใช่แต่เพิ่มเติมความรู้ และพัฒนาทักษะเท่านั้นยังมีกระบวนการพัฒนาทางด้านจิตใจและบุคลิกภาพ เพื่อให้พนักงานสินไหมวิริยะประกันภัยมีจิตใจการเป็นผู้ให้ มีบุคคลิกยิ้มแย้มแจ่มใส ดูแลเอาใจใส่ให้ความช่วยเหลือลูกค้าอย่างเต็มที่รวมไปถึงคู่กรณีอีกด้วย
ส่วนทางด้านพัฒนางาน บริษัทฯ ได้มีการกำหนดมาตรฐานงานสินไหมแต่ละด้านอย่างชัดเจน (Service Level Agreement : SLA) เช่นงานรับแจ้ง งานตรวจสอบอุบัติเหตุ งานประเมินและสรุปความเสียหาย งานจัดซ่อม งานทำจ่ายค่าสินไหม อีกทั้งงานแต่ละด้านแต่ละส่วนงาน บริษัทฯ ได้นำเอาระบบเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมต่างๆ มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า
และสุดท้าย พัฒนาเครือข่ายการให้บริการ ซึ่งบริษัทฯมีนโยบายที่จะเพิ่มจุดบริการสินไหมต่อเนื่องในทุกๆ ปี ณ ปัจจุบัน บริษัทฯ มีจุดบริการสินไหมอยู่ทุกทิศทั่วไทยรวมทั้งสิ้น 161 แห่ง
สำหรับแผนการดำเนินงานด้านประกันภัยที่มิใช่รถยนต์ (Non-Motor) นายเกรียงศักดิ์ โพธิเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2562 นี้ บริษัทฯ ยังคงเน้นการขยายงานด้านประกันภัยบุคคลเป็นหลัก เพื่อรับประกันภัยไว้เองมากกว่าที่จะไปประกันภัยต่อ และจากพฤติกรรมของผู้บริโภคในสังคมปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมหรือมีวิถีการใช้ชีวิตที่ไม่เหมือนเดิม
บริษัทฯ จึงได้มีการพัฒนากรมธรรม์ให้หลากหลายเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป เช่น กรมธรรม์ประกันภัยทรัพย์สินที่เหมาะกับธุรกิจขนาดย่อม โดยให้ความคุ้มครองครอบคลุมกับความเสี่ยงของทรัพย์สินและการดำเนินธุรกิจ ในอัตราเบี้ยประกันภัยที่เหมาะสม การประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายก็ยังแบ่งแยกตามประเภทของธุรกิจ
“ในส่วนของการประกันภัยสุขภาพ จะออกผลิตภัณฑ์กรมธรรม์ให้มีความหลากหลาย แบ่งตามกลุ่มวัยทำงาน กลุ่มนักธุรกิจ หรือแบ่งให้เหมาะสมตามแต่ล่ะช่วงอายุ อีกทั้งมุ่งเน้นในการให้คำปรึกษาและการดูแลสุขภาพ ทั้งก่อนและหลังเข้าการรักษา การพัฒนาช่องทางการจำหน่ายให้เข้าถึงผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง เช่น ความร่วมมือระหว่าง บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ (มหาชน) BDMS
โดยล่าสุด บริษัทฯ เข้าไปเปิดจุดบริการด้านประกันสุขภาพในโรงพยาบาลเครือข่ายกว่า 45 แห่งทั่วประเทศ การเปิดความร่วมมือกับสถาบันการเงินอื่นๆ และองค์กรธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เพื่อการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภครายย่อยทั่วประเทศ และการพัฒนาช่องทางดิจิทัล เพื่อให้ผู้บริโภคได้สื่อสารโดยตรงถึงบริษัทเกี่ยวกับความต้องการ และการบริการต่างๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อลูกค้า” นายเกรียงศักดิ์ กล่าวในที่สุด