28 กุมภาพันธ์ 2562 : นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานคณะกรรมการ บมจ.ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น (SUPER) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้บริษัทย่อย ได้แก่บริษัท ซุปเปอร์ วินด์ เอนเนอร์ยี จำกัด (SWE) และบริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี กรุ๊ป จำกัด (SUPERE) เข้าลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นในบริษัทที่เป็นเจ้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ประเทศเวียดนาม จำนวน 2 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตรวม 250 เมกะวัตต์ ได้แก่โครงการ HBRE PHU YEN และโครงการ HBRE GIA LAI มูลค่าการเข้าทำรายการสูงสุดไม่เกิน 577 ล้านบาท
ปัจจุบัน บริษัทฯเจ้าของโครงการอยู่ระหว่างขั้นตอนการขอ และออกใบอนุญาตต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเทศเวียดนาม
“การเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานลมในครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งและศักยภาพในการแช่งขันในการดำเนินธุรกิจ และสร้างรายได้ในอนาคตให้แก่บริษัทได้อย่างต่อเนื่อง และเป็นการขยายการลงทุนของบริษัทไปยังต่างประเทศ ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนจากรัฐบาลเวียดนาม เช่น สิทธิประโยชน์ด้านภาษีและสิทธิประโยชน์ในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน”นายจอมทรัพย์ กล่าว
ทั้งนี้ การเข้าลงทุนในโครงการพลังงานลมดังกล่าว ถือว่านอกเหนือจากโครงการพลังงานลม กำลังการผลิต 700 เมกะวัตต์ ที่ก่อนหน้าบริษัทฯ ได้มีการลงนามไว้ และจะทยอยก่อสร้างตามแผนงานและตามความพร้อมของบริษัท คาดว่าจะเริ่มเห็นเฟสแรกในไตรมาส 3/62 ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยสนับสนุนให้การสร้างรายได้ และกำไรของบริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต สอดคล้องกับปัจจุบันที่ความต้องการใช้พลังงานในประเทศเวียดนามเพิ่มมากขึ้น
ในส่วนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่บริษัทเข้าร่วมลงทุนในประเทศเวียดนาม ขนาดกำลังการผลิตรวม 236.72 เมกะวัตต์ ปัจจุบันมีการดำเนินการก่อสร้าง และมีกำหนดที่จะเริ่มทยอยจ่ายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ในเดือน มิ.ย.62 นี้ จะเริ่มรับรู้รายได้และทยอย COD อย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
“แผนการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทให้ความสำคัญกับการลงทุนในประเทศและต่างประเทศ โดยในประเทศบริษัทมีโรงไฟฟ้าจากพลังงานขยะทั้งที่ดำเนินการแล้วและที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ส่วนการลงทุนในต่างประเทศ ปีนี้ถือเป็นปีที่เริ่มเก็บเกี่ยวโดยเฉพาะในประเทศเวียดนามในส่วนของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์”นายจอมทรัพย์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากประเทศเวียดนามแล้ว SUPER มีแผนที่จะขยายการลงทุนในตลาดต่างประเทศอื่นๆ อาทิ จีนและญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น รวมถึงประเทศในภูมิภาคอาเซียนเพิ่มเติม โดยคาดว่าสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศในช่วง 1-2 ปี ข้างหน้าจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก และวางเป้าก้าวขึ้นสู่ความเป็นผู้นำด้านพลังงานทดแทนในภูมิภาคเอเชียภายในปี 63
ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงานงวดปี 61 บริษัทรายได้รวม 5,729.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.98% จากปีก่อน หลังจากที่บริษัทฯ ได้ทยอย COD โครงการต่างๆ เข้ามาใน โครงการโรงไฟฟ้าสหกรณ์การเกษตร เฟส 2 ขนาดกำลังการผลิต 28 เมกะวัตต์ในช่วงปลายปี และโรงไฟฟ้าขยะ จ.สระแก้ว ขนาดกำลังการผลิต 9 เมกะวัตต์