28 กุมภาพันธ์ 2562 : นายพิชิต วิวัฒน์รุจิราพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เน็ตเบย์ จำกัด (มหาชน) หรือ NETBAY บริษัทแห่งนวัตกรรมเทคโนโลยี (Innovative Technology Company) และผู้นำการพัฒนาผลิตภัณฑ์ Digital & FinTech Innovative Technology Platform เพื่อให้บริการด้าน Digital Business Services อย่างครบวงจรที่ ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคดิจิทัล เปิดเผยภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2561 เป็นปีที่บริษัทฯ มีการเติบโตอยู่ในระดับ ที่น่าพอใจ
โดยมีกำไรสุทธิ 148.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.51% จากปีก่อนที่ทำได้ 115.80 ล้านบาท และมีรายได้จากการให้บริการ 361.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อนอยูที่ 314.79 ล้านบาท การที่บริษัทฯ สามารถสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีที่ผ่านมา เกิดจากการที่ภาคธุรกิจ ปรับเปลี่ยนมาใช้แพลตฟอร์มการทำธุรกรรมทางออนไลน์ของเน็ตเบย์เพิ่มขึ้น เพื่อทดแทนการทำธุรกรรมด้วยเอกสาร เช่น
บริการทำธุรกรรมพิธีการทางศุลกากรทางออนไลน์ การทำธุรกรรมเอกสารการค้าทางออนไลน์ ฯลฯ โดยมีเน็ตเบย์ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางทำธุรกรรมและเชื่อมโยงข้อมูลทางออนไลน์หน่วยงานต่างๆ ณ จุดเดียว หรือ Omni Channel Connectivity Gateway ซึ่งช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้แก่ภาคธุรกิจในยุคดิจิทัลที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว และลดข้อผิดพลาด
นอกจากนี้บริษัทฯ ได้พัฒนาแพลตฟอร์มการให้บริการธุรกรรมทางออนไลน์เพิ่มขึ้น เพื่อขยายการเชื่อมโยงเครือข่ายการให้บริการและฐานลูกค้าเพิ่มเติม เช่น ความร่วมมือกับ บมจ.การบินไทย ให้บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (TG-e-Import Service Payment Gateway) แก่ผู้ใช้บริการคลังสินค้าของการบินไทย, ความร่วมมือกับท่าเรือกรุงเทพและธนาคารกรุงไทย เปิดให้บริการ E-Payment แก่ผู้ส่งออกสินค้าผ่านท่าเรือกรุงเทพในปีที่ผ่านมา เป็นต้น
ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงานที่ดีในปีที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทฯ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จึงมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลจากกำไรสุทธิงวดผลการดำเนินงานปี 2561 ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.7556 บาท กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 2 พฤษภาคมนี้ กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) วันที่ 3 พฤษภาคมนี้ และจะจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นวันที่ 21 พฤษภาคม 2562
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NETBAY กล่าวว่า ส่วนการดำเนินธุรกิจปี 2562 บริษัทฯ มั่นใจจะสร้างการเติบโตอย่างมีศักยภาพ โดยมีปัจจัยจากภาคธุรกิจต่างๆ ที่มีความต้องการใช้บริการทำธุรกรรมทางออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับบริษัทฯ อยู่ระหว่างศึกษาและพัฒนาแพลตฟอร์มให้บริการธุรกรรมทางออนไลน์ใหม่ๆ เพื่อนำไปเชื่อมต่อกับหน่วยงานต่างๆ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯ สามารถนำเสนอบริการและขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้บริการในยุคปัจจุบัน
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังให้ความสนใจนำเทคโนโลยีดิจิทัล อาทิ ปัญญาประดิษฐ์ (AI), บล๊อกเชน มาพัฒนาต่อยอดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแก่ลูกค้าและขยายไลน์ธุรกิจเกี่ยวกับการให้บริการแพลตฟอร์มการทำธุรกรรมทางออนไลน์เพิ่มเติม เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคง