28 กุมภาพันธ์ 2562 : นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยนายพิสิทธิ์ พัวพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค ในฐานะรองโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ว่า “การประมวลผลข้อมูลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจรายจังหวัดล่าสุด จากสำนักงานคลังจังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ (คาดการณ์ 6 เดือนข้างหน้า) อยู่ในเกณฑ์ที่ดีทุกภูมิภาค
นำโดยภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคตะวันออก โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนหลักจากภาคอุตสาหกรรมและการเกษตร เป็นสำคัญ”
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออก มีทิศทางการขยายตัวดีอยู่ที่ระดับ 71.2 โดยใน 6 เดือนข้างหน้า จะได้รับปัจจัยสนับสนุนหลักจากภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตร เนื่องจากมีโครงการสร้างนิคมอุตสาหกรรม ประกอบกับเป็นพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งจะส่งผลให้การคมนาคมสะดวก และส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรมขยายตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับมีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีขึ้นในด้านราคาสินค้าเกษตรที่เพิ่มสูงขึ้น
เนื่องจากการดำเนินนโยบายด้านการเกษตรเพื่อปฏิรูปกาคเกษตรที่มีมาอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ส่งผลให้แนวโน้มการจ้างงานและการลงทุนภาคเกษตรดีขึ้นด้วย สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคกลางขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ที่ 71.0 จากแนวโน้มภาคอุตสาหกรรมและภาคการลงทุนที่ดี เนื่องจากนักลงทุนยังเชื่อมั่นในภาวะเศรษฐกิจ ทำให้ยังมียอดคำสั่งซื้อสินค้าล่วงหน้าเพิ่มขึ้น สำหรับภาคการลงทุน คาดว่าจะมีการลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชนในโครงสร้างพื้นฐาน อีกทั้งการประกาศการเลือกตั้งทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคเหนือ ยังอยู่ในเกณฑ์ดีที่ 69.3 เนื่องจากได้รับแรงสนับสนุนจากแนวโน้มที่ดีของภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตร โดยภาคอุตสาหกรรม คาดว่าหลังเลือกตั้ง รัฐบาลจะมีนโยบายหรือมาตรการสำคัญที่ส่งเสริมและสนับสนุนเศรษฐกิจ ในส่วนของการเกษตร คาดว่าจะขยายตัวเนื่องจากเป็นช่วงที่พืชผลทางการเกษตรหลายชนิดออกสู่ตลาด เช่น ข้าวนาปรัง ข้าวโพด มันสำปะหลัง สับปะรด เป็นต้น
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของภาคตะวันตกมีทิศทางที่ดีขึ้นกว่าเดือนก่อนอยู่ที่ระดับ 68.5 โดยจะได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคการลงทุนและการบริการเป็นหลัก ในส่วนของภาคการลงทุน คาดว่าจะขยายตัวจากการเร่งดำเนินการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ และมีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นหลังการเลือกตั้ง ในส่วนของภาคบริการ มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น เนื่องจากยังอยู่ในฤดูท่องเที่ยว และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวของภูมิภาคที่ยังมีอย่างต่อเนื่อง สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคใต้ มีแนวโน้มการเติบโตอยู่ที่ 65.1
โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคการลงทุนและภาคบริการเป็นหลัก ในส่วนของธุรกิจภาคบริการ มีสัญญาณขยายตัวดี เนื่องจากภาครัฐและภาคเอกชนร่วมมือกันจัดกิจกรรมต่างๆ ประกอบกับได้รับจัดสรรงบประมาณเพื่อปรับปรุงและสร้างถนนเข้าสู่สถานที่ท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของภาคการลงทุน คาดว่าบริษัทเอกชนภาคบริการเริ่มมีการตื่นตัวในพัฒนา และเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาในพื้นที่มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการลงทุนเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมห้องพัก และบริษัทนำเที่ยว สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ กทม. และปริมณฑล อยู่ที่ระดับ 63.7 โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรม