12 กุมภาพันธ์ 2562 : นายปฐมภพ สุวรรณศิริ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการค้า บมจ.ไทยคม (THCOM) เปิดเผยว่า บริษัทคาดรายได้จากการขายและการให้บริการรวมปีนี้จะลดลงจากปีก่อนที่มีมีรายได้อยู่ที่ 6,008 ล้านบาท ลดลงกว่า 10% เนื่องจากการแข่งขันด้านราคามีความรุนแรง ประกอบกับยังมีความไม่ชัดเจนของอนาคตธุรกิจดาวเทียมในประเทศไทย ซึ่งหากมีความชัดเจนจากทางหน่วยงานภาครัฐมากขึ้น เชื่อว่าจะสามารถเรียกความเชื่อมั่นกับลูกค้าได้
แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทจะรักษาระดับการทำกำไรสุทธิในปีนี้ให้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 230 ล้านบาท จากการควบคุมค่าใช้จ่ายการบริหารให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น
ทั้งนี้ แผนการดำเนินงานของธุรกิจดาวเทียมในปีนี้ ปัจจุบันดาวเทียมบรอดแบนด์ไทยคม 4 หรือ ไอพีสตาร์ มีอัตราการใช้งานแบนด์วิธอยู่ที่ 26% และดาวเทียมที่รองรับบรอดคาสท์ (ไทยคม 5,6,7,8) จะมีอัตราการเช่าใช้สัญญาณทรงตัวที่ระดับ 59-60%
โดยปีนี้จะเน้นการขายผ่านพันธมิตรในภูมิภาคมากขึ้น เช่น ประเทศในกลุ่มอาเซียน ประเทศแถบอินโดจีน และอินเดีย เป็นต้น เนื่องจากยังมีการเติบโตในธุรกิจดาวเทียมอยู่ ขณะเดียวกันบริษัทฯ ก็อยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรในต่างประเทศ 3-4 ราย เพื่อร่วมลงทุนสร้างดาวเทียมขนาดใหญ่โดยใช้วงโคจรในต่างประเทศ มูลค่าราว 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในปีนี้
ส่วนดาวเทียมไทยคม 3 ดวง ได้แก่ ไทยคม 4, ไทยคม 5 และไทยคม 6 จะหมดสัมปทานในเดือน ก.ย.64 นั้น บริษัทฯ พร้อมดำเนินการตามกระบวนการที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติให้ดำเนินการในรูปแบบให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) ซึ่งหลังจากนี้จะเดินหน้าหาพันธมิตรที่เหมาะสมเพื่อเข้าร่วมทุนในรูปแบบ PPP ตามที่ ครม.อนุมัติ เพื่อให้ธุรกิจดาวเทียมสามารถดำเนินการหลังปี 64 ต่อไปได้ แต่ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน
“ในระยะกลางถึงระยะยาว ธุรกิจดาวเทียมถือว่ายังมีอนาคตอยู่ โดยเฉพาะในเรื่องของบรอดแบนด์ ที่มีความต้องการใช้ DATA มากขึ้นเรื่อยๆ และมีเทคโนโลยีใหม่ๆในอนาคต”นายปฐมภพ กล่าว
สำหรับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักดาวเทียม ปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างการดำเนินการในการเข้าไปให้คำปรึกษากับหน่วยงานที่จะสร้างดาวเทียมในประเทศจีน หรือโครงการ TCSTAR-1 คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ ซึ่งหลังจากได้ข้อสรุปบริษัทก็จะดำเนินการสร้างดาวเทียมดังกล่าวและจะสามารถรับรู้รายได้เข้ามาทันที โดยมีสัญญาก่อสร้างดาวเทียมระยะ 3 ปี และมีสัญญาบริหารดาวเทียมตลอดอายุสัญญา 15 ปี
ด้านการให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านดาวเทียมสำหรับใช้สื่อสารระหว่างเรือที่ออกไปปฏิบัติการกับชายฝั่ง “Thaicom Maritime Service” ภายใต้ “Nava” ปัจจุบันบริษัทฯ ได้มีการขยายการให้บริการครอบคลุมไปถึงทะเลจีนใต้ เช่น ฮ่องกง,สิงคโปร์,เซี่ยงไฮ้ เป็นต้น และได้ให้บริการแล้ว 65-70 ลำ โดยปีนี้เตรียมเปิดให้บริการอีกแพลตฟอร์มเข้าไปต่างประเทศ
นายปฐมภพ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันบริษัทมีเงินสดในมืออยู่ที่ 7,057 ล้านบาท และมีหนี้รวมอยู่ที่ 7,000 ล้านบาท โดยปีนี้จะใช้คืนหนี้ทั้งสิ้น 2,200 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะใช้รองรับกับการลงทุนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น การร่วมลงทุน PPP เป็นต้น ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังมีโอกาสตั้งด้อยค่าสินทรัพย์ในปีนี้ในดาวเทียมไทยคม 7-8 หลังการแข่งขันด้านราคารุนแรง จากปีก่อนมีการตั้งด้อยค่าสินทรัพย์สำหรับดาวเทียมไทยคม 4 และไทยคม 6 อยู่ที่ 2,253 ล้านบาท