กรุงเทพฯ 30 มกราคม 2562 : ทีเอ็มบี หรือ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) เปิดตัวสาขาต้นแบบแนวคิดใหม่ “ทีเอ็มบี เอ็กซ์พีเรียนซ์” (TMB Experience) ให้เอสเอ็มอีใช้อวตารแทนตัว เพื่อค้นหาผลิตภัณฑ์ และบริการทางการเงินที่เหมาะสมกับความต้องการของเอสเอ็มอีในแต่ละช่วงธุรกิจด้วยตนเอง ผ่านการใช้งานในรูปแบบดิจิทัล เอ็ดดูเทนเมนต์ (Edutainment)
เน้นสร้างประสบการณ์ใหม่ที่นำเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อให้สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และการบริการต่างๆ ได้ตอบโจทย์และตรงใจมากขึ้น (Need-based) มีความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้น (MORE Personalize) แม้ต้องการรับคำปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน (MORE Advisory) เพิ่มเติมก็สามารถทำได้สะดวกยิ่งขึ้น ด้วยการออกแบบพื้นที่ให้บริการที่แตกต่างจากสาขาในรูปแบบเดิมๆ โดยปัจจุบันเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบแล้ว 2 สาขา คือ ไอคอน สยาม และ อาคารยูไนเต็ด เซ็นเตอร์ สีลม
นางสาวชมภูนุช ปฐมพร ประธานเจ้าหน้าบริหารลูกค้าเอสเอ็มอี ทีเอ็มบี กล่าวว่า “TMB Experience คือสาขาต้นแบบแนวคิดใหม่ของทีเอ็มบี ที่ยกระดับประสบการณ์การใช้บริการของลูกค้าเป็นสำคัญ โดยเฉพาะการใช้บริการที่สาขาที่มองว่าสาขาต้องเปลี่ยนบทบาท เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีพร้อมให้คำปรึกษาทางการเงินให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยเริ่มตนที่ความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริงและนำเสนอสิ่งที่เหมาะสมกับลูกค้าอย่างจริงใจ ตอกย้ำว่าลูกค้าทีเอ็มบีต้องได้มากกว่า (Get MORE with TMB) โดยเป็นการส่งมอบประสบการณ์ที่ผสมผสานด้วยเทคโนโลยีแบบเบ็ดเสร็จไร้รอยต่อ (Omni-Channel)”
“ประสบการณ์ใหม่ที่เอสเอ็มอีจะได้รับใน TMB Experience จะแตกต่างจากเดิมอย่างชัดเจน ไม่ใช่การเสนอขายในสิ่งที่ธนาคารอยากจะขาย แต่เป็นการให้เอสเอ็มอีได้รู้จักตัวตนทางการเงินและได้รับคำแนะนำเรื่องโซลูชั่นที่สอดคล้องกับช่วงธุรกิจของตนเอง” นางสาวชมภูนุช กล่าวเพิ่ม
TMB Experience ได้ออกแบบขึ้นภายใต้แนวคิด Glass House คือ ความโปร่งใส (Transparent) และ เติบโตไปถึงเป้าหมายด้วยกัน (Growing Together) ทีเอ็มบีใช้เส้นทางการเดินทางของลูกค้า หรือ Customer Journey เป็นจุดเริ่มต้นในการออกแบบ ทำให้รูปแบบสาขาตอบโจทย์ของเส้นทางการเดิน และตลอดเส้นทางการเดินจะเป็นการนำเสนอในรูปแบบ Edutainment คือการทำความเข้าใจการเงินเพื่อเอสเอ็มอีแบบเข้าใจง่าย เริ่มตั้นตั้งแต่ Welcome and Engage Zone พื้นที่ส่วนด้านหน้าของสาขาที่ปรับโฉมให้ดูโล่งขึ้น โปร่งใส สบายตามากขึ้น
รวมถึงมัลติมีเดียต่างๆ โดยใน Welcome Zone เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญเพื่อให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้ค้นหาตัวตนทางการเงิน ด้วยการสร้างตัวตนในรูปแบบอวตาร (Avatar) จากการกรอกข้อมูลส่วนตัวเพียง 4-5 ข้อเท่านั้น จากนั้นจะได้รับ QR Code ตามตัวตน ก่อนที่จะได้รับคำแนะนำและเป้าหมายตามช่วงธุรกิจต่อใน Need Zone โดยผู้ประกอบการจะใช้ QR Code ที่ตนเองได้รับ เพื่อรับการนำเสนอข้อมูลต่างๆ ที่เหมาะสม ซึ่งผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจะได้รับคำแนะนำในบริการจาก MORE Growth for SMEs Station โดยเอสเอ็มอีมีกลุ่มอวตาร 3 กลุ่ม คือ
1. SME 4.0 เอสเอ็มอีที่ต้องการความง่าย และสะดวกสบาย ไม่ชอบเสียเวลาในการทำธุรกรรมต่างๆ เพราะเวลาเป็นเรื่องสำคัญของการทำธุรกิจ
2. นักธุรกิจมือทอง เอสเอ็มอีที่มองเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจ มองหาการพัฒนาธุรกิจ แหล่งเงินทุน ช่องทางการตลาด และตัวช่วยต่างๆ ให้ธุรกิจเติบโต
3. นักธุรกิจมือโปร เอสเอ็มอีที่มีความเติบโตและมั่นคง การขยายกิจการจึงไม่ใช่สิ่งที่มองหา แต่สิ่งสำคัญคือ ทำอย่างไร ให้รายได้ธุรกิจมั่นคงและคล่องตัว ตลอดไป
จากนั้นเมื่อผู้ประกอบการได้รับคำแนะนำภายใน MORE Growth for SMEs Station แล้ว สามารถสแกน QR Code ที่เครื่องแท็บเล็ตเพื่อกรอกรายละเอียด และทางเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญของทีเอ็มบีจะติดต่อกลับหาภายในวันต่อไป ซึ่งธนาคารได้รับข้อมูลในเบื้องต้นแล้วว่า ผู้ประกอบการนั้นมีความต้องการโซลูชั่นทางการเงินอย่างไร
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการสามารถติดต่อเพื่อเข้ารับคำปรึกษาได้ทันทีในพื้นที่ Advisory Zone ซึ่งออกแบบเป็นพื้นที่ส่วนตัวสำหรับผู้ประกอบการ ทั้งแบบให้คำแนะนำทั่วไป หรือ TMB BIZ ADVISORY สำหรับการ VDO Conference กับผู้เชี่ยวชาญด้านเอสเอ็มอีโดยตรงได้อีกด้วย
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการสามารถเปิดบัญชีธุรกิจ TMB SME One Bank ได้ทันทีในพื้นที่ของ Transaction Zone ที่ TMB Experience ซึ่งเป็นพื้นที่ให้การให้บริการธุรกรรมการเงินทั่วไป เพื่อค้นหาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่เหมาะสมตอบโจทย์และตรงใจ ที่สาขารูปแบบใหม่ ทีเอ็มบี เอ็กซ์พีเรียนซ์” นางสาวชมภูนุช กล่าวสรุป