WELCOME TO SEQUEL ONLINE (ซีเคว้ล ออนไลน์)
วันอาทิตย์ ที่ 22 ธันวาคม 2567 ติดต่อเรา
“พร้อมเพย์” มาแล้ว…คุณ…พร้อมแล้วหรือยัง??

“โลกเราหมุนเร็วไปเท่าไหร่ เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมักจะหมุนเร็วนำหน้าก่อนหนึ่งก้าวเสมอ” หากนิยามความก้าวไกลของเทคโนโลยีแบบนี้คงไม่ผิด หลังจากระบบอินเตอร์เน็ตและระบบสื่อสารต่างๆ ได้มีการพัฒนากันอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่หลายคนไม่เคยคิดว่าจะมีในโลกปัจจุบันก็เกิดขึ้นให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง แล้วธุรกิจน้อยใหญ่ละ จะอยู่นิ่งๆ เฉยได้อย่างไร ยิ่งเรื่องการค้าการขายหากไม่วิ่งตามเทคโนโลยีที่ปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา เท่ากับว่าธุรกิจนั้นๆร อแห้งเฉาตายอย่างเดียว

เทคโนโยลีที่ล้ำสมัยนี้ สามารถเปลี่ยนคนจนๆให้สามารถเป็นมหาเศรษฐีระดับโลกได้เลยที่เดียว ดูอย่าง “แจ๊ค หม่า หรือ “หม่า หยุน” นักธุรกิจใหญ่เมืองหังโจว ประเทศจีน ผู้ ก่อตั้ง “อาลีบาบา กรุ๊ป” หรือ บริษัทอี-คอมเมิร์ซ ที่ใหญ่ที่สุดในจีน และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กเมื่อปี2557 ที่ผ่านมา และทุบสถิติมูลค่าการซื้อขายอย่างเป็นทางการครั้งแรกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 21,800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ผลที่ตามมาคือ “แจ๊ค หม่า” ประธานบริษัทและผู้ก่อตั้งอาลีบาบา กรุ๊ปกลายเป็นบุคคลที่รวยที่สุดในจีนด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 29,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มั่งคั่งเป็นอันดับ 2 ของเอเชียรองจากมหาเศรษฐีชาวฮ่องกง ลี กาชิง และขึ้นแท่นเศรษฐีลำดับ 18 ของโลกที่จัดอันดับโดยนิตยสารฟอร์บส ขณะที่บริษัทอาลีบาบา กรุ๊ปของเขามีมูลค่า 230,000 ล้านเหรียญ สูงกว่าสื่อโซเชียลมีเดียอย่างเฟสบุ๊กเสียอีก บุคคลตัวอย่างดังกล่าว นับเป็นบุคคลที่ยอมรับในเรื่องเทคโนโลยีและมีการหยิบยกมาใช้ให้เป็นประโยชน์

พร้อมเพย์-600x400

ส่วนประเทศไทย ภาครัฐบาลก็ไม่เคยนิ่งนอนใจ พยายามทำทุกวิธีทางให้ประเทศก้าวสู่ความเป็นสากลและเป็นมาตรฐานไปพร้อมกับการกระตุ้นเศรษฐกิจไปในตัว อย่างล่าสุด รัฐบาลได้ทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e-Payment) ขึ้นมา หวังลดการใช้เงินสดในสังคมไทยซึ่งมีต้นทุนสูง เพื่อจะช่วยเอื้อประโยชน์ต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศในระยะยาว สั่งการให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (แบงก์ชาติ) เป็นตัวตั้งตัวตีในเรื่องนี้ ด้านแบงก์ชาติก็ได้มีการศึกษารายละเอียดพร้อมผลักดันโครงการฯให้เป็นไปตามแผนที่รัฐบาลวาดฝันไว้

จนรัฐบาลไทยก็สมหวังดังใจ หลังจากแบงก์ชาติร่วมกับสมาคมธนาคารไทยในการเดินหน้าโครงการฯดังกล่าว ภายใต้ชื่ออันเก๋ไก๋ว่า ”พร้อมเพย์” ซึ่งเป็นบริการการรับโอนเงินรูปแบบใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ที่รับบาล ล่าสุด เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (13-17มิ.ย.59) สมาคมธนาคารไทยโดยธนาคารพาณิชย์ 15 แห่ง และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ 4แห่ง ประกาศความพร้อมให้ประชาชนลงทะเบียนบริการพร้อมเพย์ อย่างเป็นทางการ พร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 15 ก.ค.59 นี้

นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวไว้อย่างน่าสนใจว่า บริการพร้อมเพย์เป็นหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติของรัฐบาล ที่จะลดการใช้เงินสดในสังคมไทยซึ่งมีต้นทุนสูง เพื่อจะช่วยเอื้อประโยชน์ต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศในระยะยาว ที่สำคัญบริการนี้ได้ปรับลดค่าธรรมเนียมการโอนเหลือสูงสุดไม่เกิน10 บาทต่อรายการ บริการดังกล่าวเป็นบริการรับโอนเงินแบบใหม่ ที่มีการผูกบัญชีของผู้รับเงินโอนกับเลขที่บัตรประชาชนหรือเบอร์โทรศัพท์มือถือ

ซึ่งจะทำให้ผู้โอนเงินสามารถโอนเงินให้ผู้รับโดยไม่ต้องระบุธนาคารและเลขที่บัญชีของผู้รับโอน เพียงระบุเลขประจำตัวประชาชนหรือเบอร์โทรศัพท์มือถือของผู้รับโอนที่ผูกไว้ก็สามารถทำธุรกรรมได้ ช่วยให้ประชาชนได้รับความสะดวกในการทำธุรกรรมโอนและรับโอนเงิน เนื่องจากผู้โอนไม่ต้องจำเลขที่บัญชี และผู้รับโอนไม่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลบัญชีของตน มีหลักฐานการโอนเงินในระบบชัดเจน และลดความเสี่ยงจากการพกพาเงินสดอีกด้วย

jb8ag5afg8ek5a6ah69ia

ธนาคารพาณิชย์ในไทยทั้ง 15 แห่ง และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ได้ร่วมกันพัฒนาบริการพร้อมเพย์ ด้วยมาตรฐานความปลอดภัยสูง ซึ่งทุกธนาคารพร้อมให้ประชาชนลงทะเบียนเพื่อใช้บริการ โดยมีขั้นตอนการตรวจสอบตัวตนและความเป็นเจ้าของบัญชีของผู้ลงทะเบียน รวมทั้งตรวจสอบความเป็นเจ้าของเบอร์โทรศัพท์มือถือ ในกรณีการลงทะเบียนพร้อมเพย์ด้วย

สำหรับคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนพร้อมเพย์ ต้องเป็นเจ้าของบัญชีเงินฝากและเจ้าของเบอร์โทรศัพท์มือถือที่จะลงทะเบียน เลือกบัญชีออมทรัพย์หรือบัญชีกระแสรายวัน เป็นบัญชีเดี่ยว (ไม่ใช่บัญชีร่วม) ที่จะใช้เป็นบัญชีหลักในการทำธุรกรรมโอนและรับโอน เพื่อนำมาผูกกับเลขประจำตัวประชาชนหรือเบอร์โทรศัพท์มือถือภายใต้บริการพร้อมเพย์ โดยบัญชีธนาคารที่นำมาลงทะเบียน 1 บัญชี จะมีหมายเลข หรือ ID เพื่อการผูกบัญชีได้สูงสุด 4 เบอร์ ได้แก่ เลขประจำตัวประชาชน 1 เบอร์ และหมายเลขโทรศัพท์มือถืออีกไม่เกิน 3 เบอร์ ทั้งนี้ หมายเลข หรือ ID ที่นำมาผูกนั้นจะต้องไม่เคยผูกกับบัญชีใดมาก่อน

ธนาคารจะเปิดรับลงทะเบียนผ่านช่องทางต่าง ๆ ตามความพร้อมของแต่ละธนาคาร อาทิ ช่องทางเอทีเอ็ม ธนาคารทางอินเทอร์เน็ต ธนาคารบนโทรศัพท์มือถือ และสาขา ทั้งนี้ จะมีธนาคารบางแห่งเปิดลงทะเบียนล่วงหน้า (Pre-register) ในวันที่ 1-14 กรกฎาคม 2559 และทุกธนาคารจะเปิดรับลงทะเบียนบริการพร้อมเพย์อย่างเป็นทางการ พร้อมกันทั่วประเทศ ในวันที่ 15 กรกฎาคม 2559 เป็นต้นไป โดยไม่มีกำหนดสิ้นสุดการรับลงทะเบียน

ขณะที่ด้านธนาคากรุงไทย จำกัด (มหาชน) นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารจัดการทางการเงินเพื่อธุรกิจ เปิดเผยถึงการเปิดให้บริการพร้อมเพย์ว่า ธนาคารมีความพร้อมที่จะเปิดให้บริการในรูปแบบดังกล่าว ยืนยันว่าการให้บริการนี้มีมาตรฐานความปลอดภัยสูง โดยธนาคารพาณิชย์จะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเพื่อผูกหมายเลขบัญชีกับหมายเลขประจำตัวประชาชน หรือเบอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ทั่วประเทศในวันที่ 15 ก.ค.นี้

สำหรับคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนพร้อมเพย์นั้น ต้องเป็นเจ้าของบัญชีเงินฝากและเจ้าของเบอร์ที่จะลงทะเบียน โดยจะต้องเลือกบัญชีออมทรัพย์ หรือบัญชีกระแสรายวัน ที่จะใช้เป็นบัญชีหลักในการทำธุรกรรมโอนและรับโอน เพื่อนำมาผูกกับเลขประจำตัวประชาชนหรือเบอร์มือถือภายใต้บริการพร้อมเพย์ โดยบัญชีธนาคารที่นำมาลงทะเบียน 1 บัญชี จะมีหมายเลข หรือ ID เพื่อการผูกบัญชี ส่วนผู้ที่มีบัญชีจำนวนมากสามารถผูกบัญชีได้สูงสุด 4 บัญชี ได้แก่ เลขประจำตัวประชาชน 1 เบอร์ และหมายเลขโทรศัพท์มือถือได้ไม่เกิน 3 เบอร์ ทั้งนี้ หมายเลข ID ที่นำมาผูกนั้นจะต้องไม่เคยผูกกับบัญชีใดมาก่อน

ส่วนกรณีที่ผู้ลงทะเบียนมีความประสงค์จะเปลี่ยนธนาคารที่ผูกกับ ID ไว้ ก็สามารถยกเลิกการลงทะเบียนกับธนาคารเดิมที่ใช้บริการอยู่และไปลงทะเบียนกับธนาคารใหม่ หรือในกรณีที่ผู้ใช้บริการพร้อมเพย์ต้องการเปลี่ยนหมายเลขบัญชี หรือหมายเลขโทรศัพท์ที่ลงทะเบียนไว้แล้ว ก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยไม่ได้มีการคิดอัตราค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถเลือกได้ว่าต้องการโอนเงินจากช่องทางเดิมที่ใช้ในปัจจุบัน หรือใช้ช่องทางพร้อมเพย์ก็ได้ โดยอัตราค่าธรรมเนียมจะยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง

ภาคธนาคารเชื่อว่า ระบบดังกล่าวจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ประชาชนในการทำธุรกรรมทางการเงินได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ในส่วนของสวัสดิการของประชาชนที่รัฐจะจ่ายนั้น มองว่า หากจะผูกบัญชีด้วยนั้น อยากให้ประชาชนเลือกผูกกับหมายเลขบัตรประชาชนน่าจะเป็นช่องทางที่มีความสะดวกมากที่สุดในส่วนของบัญชีประจำวัน ก็สามารถผูกกับหมายเลขโทรศัพท์ได้ถึง 3 หมายเลข

การเงิน ดูทั้งหมด



COPYRIGHT © 2016 SEQUEL ONLINE. ALL RIGHTS RESERVED.
FOLLOW UP