กรุงเทพฯ 16 มิถุนายน 2559 : “ยันฮี” ชี้ประเทศไทยขึ้นแท่นแชมป์ 1 ใน 3 การผ่าตัดแปลงเพศชั้นแนวหน้าของเอเชีย ต่างประเทศให้การยอมรับ โดดเด่นทั้งฝีมือแพทย์ประณีต ราคาไม่แพง บริการเป็นเลิศ คาดสิ้นปีมีลูกค้าแปลงเพศโตขึ้น 10 %
นพ.กรีชาติ พรสินสิริรักษ์ หัวหน้าศูนย์ศัลยกรรมตกแต่ง โรงพยาบาลยันฮี กล่าวถึง สถานการณ์การแปลงเพศของประเทศไทยในปัจจุบันว่า มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะได้รับการยอมรับจากทั้งชาวไทยและต่างชาติว่า แพทย์ไทยเป็นผู้ที่มีฝีมือประณีต มีความเชี่ยวชาญจนเป็นที่ยอมรับ คาดว่า ภายในปีนี้ ยันฮีจะเป็นโรงพยาบาลที่มีจำนวนผู้แปลงเพศมากที่สุด ติดอันดับ 1 ใน 3 ของเอเชีย หรือจำนวนยอดผู้แปลงเพศ รวมทั้งสิ้น 1,500 รายตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ทำการผ่าตัดแปลงเพศ และคาดว่า ภายในสิ้นปี จะมีผู้มารับการแปลงเพศเพิ่มอีก 10 %
สำหรับโรงพยาบาลยันฮีนั้น มีการผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิงและผ่าตัดรักษาด้านความสวยความงามอย่างครบวงจรมาเป็นระยะเวลากว่า 30 ปี พร้อมด้วยแพทย์ศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะทางจำนวนทั้งสิ้น 16 ท่าน นับว่าเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่มีจำนวนแ พทย์ศัลยกรรมตกแต่งมากที่สุดในประเทศ และทุกท่านล้วนเป็นสมาชิกสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย
นอกจากนั้น ยังมีความพร้อมในทุกๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์เทคโนโลยีที่ทันสมัย ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของแพทย์ ทำให้เชื่อมั่นได้ว่า ยันฮีเป็นโรงพยาบาลระดับมาตรฐานสากล และที่สำคัญยังได้รับการรับรองจาก JCI (The Joint Commission International) ซึ่งเป็นองค์กรที่ส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพและความปลอดภัยในการดูแลรักษาพยาบาลให้กับสถานพยาบาลต่างๆ ทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการแปลงเพศมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนหนึ่ง เพราะฝีมือแพทย์ที่มีทั้งประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการผ่าตัด ส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและความงามมีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งในแต่ละปี สามารถดึงดูดลูกค้าชาวต่างชาติเข้าประเทศได้กว่า 2 ล้านคน สร้างรายได้ 140,000 ล้านบาท และ ชาวต่างชาติที่เข้ามารับการผ่าตัดส่วนใหญ่มาจากประเทศจีน ตะวันออกกลาง และออสเตรเลีย เป็นเพราะแพทย์ไทยผ่าตัดได้ผลดีออกมาสร้างความพึงพอใจ ให้กับผู้ข้ารับการผ่าตัดได้เต็มที่และปลอดภัยด้วย