16 มิถุนายน 2559 : บมจ.เน็ตเบย์ ผู้นำการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการด้าน e-Logistics Trading และ e-Business Services ครบวงจร ที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคดิจิตอล (Digital Economy) ของประเทศไทย พร้อมเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เป็นวันแรกในวันที่ 16 มิ.ย.นี้ มั่นใจนักลงทุนให้การตอบรับดีจากพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง สามารถเติบโตต่อเนื่องในระยะยาวจากจำนวนผู้ที่มาใช้บริการรับ-ส่งและเชื่อมโยงข้อมูลธุรกรรมทางออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายพิชิต วิวัฒน์รุจิราพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เน็ตเบย์ จำกัด (มหาชน) หรือ NETBAY ผู้นำการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการด้าน e-Logistics Trading และ e-Business Services ครบวงจร ที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคดิจิตอล (Digital Economy) ของประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เป็นวันแรก ในวันที่ 16 มิถุนายน 2559 โดยใช้ชื่อย่อ ‘NETBAY’ เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ หลังได้เสนอขายหุ้น IPO จำนวน 40 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท ในราคาจองซื้อ 4 บาทต่อหุ้น เมื่อวันที่ 8-10 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยมีความมั่นใจว่าหุ้น NETBAY จะได้รับความสนใจและการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีประสบการณ์ดำเนินธุรกิจมากว่า 10 ปี โดยเป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีซอฟท์แวร์ e-Logistics Trading และ e-Business Services ที่ให้บริการครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำ (ลูกค้าที่ใช้บริการ) กลางน้ำ (ระบบ Gateway ของบริษัทฯ) และปลายน้ำ (การเชื่อมโยงการทำธุรกรรมกับหน่วยงานต่างๆ) อย่างครบวงจร เกิดประโยชน์แก่ทุกฝ่าย
พร้อมทั้งเป็นศูนย์กลางการให้บริการรับ-ส่งและเชื่อมโยงข้อมูลธุรกรรมทางออนไลน์ระหว่างหน่วยงานต่างๆ จากจุดเดียว (Omni Channel Connectivity Gateway) ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ศูนย์ประมวลผล ศูนย์ประมวลผลสำรอง ระบบซอฟท์แวร์ปฏิบัติการที่ใช้รองรับการทำธุรกรรมรับ-ส่งข้อมูล ระบบเครือข่ายและระบบป้องกันความปลอดภัยข้อมูลเพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกรวดเร็ว ลดขั้นตอนและลดต้นทุนจากการรับ-ส่งข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ แทนการใช้เอกสาร
นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายการให้บริการธุรกรรมข้อมูลผ่านระบบออนไลน์ไปยังฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ โดยอยู่ระหว่างพัฒนาโครงการ e-DLT (Department of Land Transport) เพื่อให้บริการรับ-ส่งและเชื่อมโยงข้อมูลการชำระภาษีรถยนต์ทุกประเภท ระหว่างกลุ่มผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์กับกรมการขนส่งทางบก คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปีนี้ ซึ่งขึ้นอยู่กับนโยบายและข้อกำหนดของกรมการขนส่งทางบก โดยระบบดังกล่าวจะส่งผลดีต่อผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ สามารถชำระภาษีรถยนต์ทุกประเภททางระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้หลายรายการพร้อมกันในคราวเดียว เพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็วและลดค่าใช้จ่ายการชำระภาษีรถยนต์ รวมถึงช่วยลดภาระให้แก่เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่าย กล่าวว่า จากพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งของเน็ตเบย์ ซึ่งเป็นผู้คิดค้นและพัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยของตนเองเพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง ช่วยให้ลูกค้าลดขั้นตอนและความซับซ้อนในการรับ-ส่งและเชื่อมโยงข้อมูลธุรกรรมทางออนไลน์ จึงทำให้เน็ตเบย์มีฐานรายได้ที่เติบโตอย่างสม่ำเสมอจากปริมาณลูกค้าที่มาใช้บริการธุรกรรมทางออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
โดยผลการดำเนินงานในปี 2556-2558 บมจ.เน็ตเบย์ มีรายได้จากการให้บริการ 149.30, 184.74 และ 223.81 ล้านบาทตามลำดับ ขณะที่ไตรมาส 1/59 มีรายได้จากการให้บริการรวมทั้งสิ้น 63.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.45% และมีกำไรสุทธิ 19.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.88% สะท้อนถึงขีดความสามารถการทำรายได้และกำไรที่ดี นอกจากนี้ยังมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 31 มีนาคม 2559 เพียง 0.42 เท่า (ปัจจุบันไม่มีภาระหนี้สินที่มีดอกเบี้ย) สะท้อนว่าบริษัทฯ มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง