18 ธันวาคม 2561 : นายตรรก บุนนาค ประธานเจ้าหน้าที่ด้านโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY เปิดเผยว่า การประชุมอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ในที่ 19 ธ.ค.2561 เชื่อว่ามีโอกาสขยับขึ้นประมาณ 0.25% และช่วงไตรมาส 1/2562 มีโอกาสขยับดอกเบี้ยขึ้นอีก 0.25% เช่นกัน ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยในปี 2562 เฉลี่ยอยู่ที่ 2.00%
ในส่วนอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ มองว่า มีโอกาสขยับขึ้นตามเช่นกัน แต่ไม่ขึ้นทันทีในปีนี้ แต่ไปจะปรับขึ้นในช่วงปี 2562 โดยขึ้นทั้งดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้
“สำหรับทิศทางดอกเบี้ยในปี2562 สะท้อนการดูแลความเสี่ยงด้านเสถียรภาพนั้น คาดว่า ธปท.จะปรับสทดุบนโยบายการเงินอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยทางการจะให้น้ำหนักไปที่การดูแลความเสี่ยงด้านเสถียรภาพ ซึ่งสะสมความเปราะบางเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา แม้ว่าเงินเฟ้อซึ่งวัดโดยดัชนีราคาผู้บริโภคจะอยู่ในระดับต่ำ
นอกจากนี้ ผู้ดำเนินนโยบายต้องการสร้าง Policy Space เพื่อให้มีกระสุนรับมือกรณีเกิดสถานการณ์ที่ทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจหยุดชะงัก” นายตรรก กล่าว
นายตรรก กล่าวอีกว่า ส่วนการเติบโตทางเศรษฐกิจได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน แต่แนวโน้มการชะลอตัวลงของการส่งออกและการท่องเที่ยวยังคงต้องติดตามใกล้ชิด
ส่วนเงินเฟ้อ มองว่า ในปี 2562 ยังขยับขึ้นช้า จากปัจจัยเชิงโครงสร้างเป็นหลัก ขณะที่ภาพการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ และนโยบายการลงทุนของภาครัฐ อาทิ EEC เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน จะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการรักษาแรงส่งเชิงบวกของเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้าในปี 2562 ยังมีความต่อเนื่อง
นายตรรก กล่าวอีกว่า ส่วนอัตราดอกเบี้ยธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ในปี 2562 ยังคงขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องแต่แนวโน้มชะลอตัวลง ทั้งนี้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเฟดปรับดอกเบี้ยไปแล้ว8ครั้ง ตั้งแต่ ธ.ค.2538 และมีแนวโน้มจะปรับขึ้นอีกในการประชุมวันที่ 18-19 ธ.ค.2561 ท่ามกลางอัตราการว่างงานที่แตะระดับต่ำสุดในรอบ 49 ปี และการเติบโตของค่าจ้าง
อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อทั่วไปถูกจำกัดโดยราคาพลังงานเป็นสำคัญ โดยคาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยช้าลง และมีโอกาสยุติ วัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2562 ขณะที่แรงส่งจากนโยบายการคลังของรัฐบาลทรัมป์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจแผ่นลง และเริ่มมีสัญญาณการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์รวมถึงผลกระทบเชิงลบจากภาวะการค้าโลกในระยะทางหน้า 
