11 ธันวาคม 2561 : นายอโณทัย เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้านพัฒนาธุรกิจ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ GPI เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา GPI Myanmar Company Limited ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บมจ.กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้ลงนามในบันทึกข้อความตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ Automotive Association of Myanmar (AAM) หรือสมาคมยานยนต์แห่งประเทศเมียนมาร์ เพื่อให้บริษัทฯ เป็นผู้จัดงาน Yangon International Motor Show ครั้งที่ 1 ขึ้น ที่ประเทศเมียนมาร์ และเป็นการยืนยันความพร้อมการจัดงานดังกล่าวที่คาดหวังจะให้เป็นงานมหกรรมแสดงสินค้าด้านยานยนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมียนมาร์
โดยการจัดงานดังกล่าวจะมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 23 – 27 มกราคม 2562 ภายใน Yangon Convention Center (YCC) ซึ่งเป็นศูนย์การประชุมและแสดงสินค้าแห่งใหม่ในย่านใจกลางเมืองย่างกุ้ง โดยใช้คอนเซปต์ ‘Navigating the Automotive Industry of Tomorrow’ หรือการนำอุตสาหกรรมยานยนต์สู่วันพรุ่งนี้ ซึ่งทางบริษัทฯ ได้วางแผนเตรียมการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่จะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้ประชาชนชาวเมียนมาร์ที่เดินทางเข้ามาชมงาน
ขณะเดียวกันภายในงานจะมีการนำเสนอรถรุ่นใหม่ๆ ที่มีเทคโนโลยี นวัตกรรมและความก้าวหน้าด้านวิศวกรรมยานยนต์ที่ล้ำสมัย ตลอดจนการนำเสนอโปรโมชั่นส่งเสริมการขายที่น่าสนใจจากค่ายผู้ประกอบการยานยนต์ให้แก่ประชาชนที่มีความต้องการจองซื้อรถภายในงาน
“ก่อนหน้านี้เรามีความจำเป็นต้องชะลอการจัดงานออกไปก่อน เนื่องจากต้องการรอความพร้อมด้านสถานที่การจัดงาน อย่างไรก็ตามขณะนี้บริษัทฯ และสมาคม Automotive Association of Myanmar ได้เดินหน้าการจัดงานอย่างเต็มตัว และเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชนชาวเมียนมาร์ที่วางแผนซื้อรถใหม่หรือหาข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจ เนื่องจากเป็นงานมหกรรมแสดงยานยนต์ขนาดใหญ่ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรก” นายอโณทัย กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้านพัฒนาธุรกิจ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ GPI กล่าวว่า บริษัทฯ คาดหวังการจัดงานดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อรถเพิ่มขึ้น และส่งผลดีต่อการสนับสนุนภาพรวมเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศเมียนมาร์เติบโตได้ดียิ่งขึ้น จากปัจจุบันที่ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ในเมียนมาร์อยู่ในช่วงที่เริ่มขยายตัว หลังจากที่มีผู้ประกอบการรถยนต์เข้าไปลงทุนตั้งฐานการผลิต โดยคาดการณ์กันว่าในอีก 1-2 ปีข้างหน้า ตลาดรถยนต์ในเมียนมาร์จะมีอัตราเติบโตที่ดียิ่งขึ้นตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ อีกทั้งยังเป็นการช่วยยกระดับมาตรฐานการจัดงานมอเตอร์โชว์อีกด้วย
“การเข้าไปรับจัดงานมอเตอร์โชว์ในเมียนมาร์ จะเป็นการเพิ่มช่องทางสร้างรายได้จากการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ จากปัจจุบันที่มีรายได้จากธุรกิจในประเทศเป็นหลัก โดยนอกจากการขยายธุรกิจเข้าไปในเมียนมาร์แล้ว บริษัทฯ อยู่ระหว่างศึกษาโอกาสขยายธุรกิจการจัดงานมอเตอร์โชว์และงานแสดงสินค้าอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องในประเทศภูมิภาคอาเซียน เพื่อสร้างการเติบโตที่ดีให้แก่บริษัทฯ ในระยะยาว” นายอโณทัย กล่าว