29 พฤศจิกายน 2561 : นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมืองไทยประกันชีวิตได้เตรียมเพิ่มกองทุนรวมใหม่ 5 กองทุน ที่มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ เพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการกรมธรรม์ประกันชีวิตควบการลงทุน mDesign และ mOne จากเดิมที่มีอยู่ 27 กองทุน เพิ่มเป็น 32 กองทุน ครอบคลุมสินทรัพย์ทางการเงินมากขึ้น เปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถเลือกจัดพอร์ตกองทุนรวมได้หลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกระดับความเสี่ยง
“จากความผันผวนของการลงทุนในประเทศ รวมถึงภาวะอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันที่ยังคงทรงตัวในระดับต่ำ เมืองไทยประกันชีวิตเล็งเห็นถึงความสำคัญของการขยายโอกาสการลงทุนไปยังต่างประเทศ เพื่อเป็นตัวช่วยกระจายความเสี่ยงในการลงทุน ให้ลูกค้ามีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่มากขึ้น บริษัทฯ จึงเพิ่มกองทุนรวมใหม่ 5 กองทุนจาก 2 บลจ.ชั้นนำ ครอบคลุมการลงทุนในตราสารหนี้ หุ้นและสินทรัพย์ทางเลือกในต่างประเทศ รวมถึงการลงทุนในกองทุนที่ใช้เทคโนโลยี Machine learning และ Big data มาประมวลผลและวิเคราะห์การลงทุน เพื่อให้การวางแผนการเงินผ่านประกันชีวิตควบการลงทุน mDesign และ mOne มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น” นายสาระกล่าว
ทั้งนี้เมืองไทยประกันชีวิตได้คัดสรรกองทุนรวมคุณภาพจาก 2 บลจ. เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ลงทุน ประกอบด้วย
1. บลจ.กสิกรไทย นำเสนอ 4 กองทุนใหม่ ได้แก่
· กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ พลัส (K-FIXEDPLUS) มีนโยบายลงทุนในเงินฝาก ตราสารหนี้ภาครัฐและเอกชนทั้งในและต่างประเทศ มีสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศได้ตั้งแต่ 0% -100% โดยป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนไม่ต่ำกว่า 90% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน เหมาะสำหรับผู้ที่คาดหวังผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝาก ยอมรับผลตอบแทนที่อาจต่ำกว่าหุ้น และอยากเริ่มลงทุนในต่างประเทศ แต่ยังรับความเสี่ยงได้ไม่มากนัก
กองทุนเปิดเค แพลน 3 (K-PLAN3) กองทุนผสมที่สามารถเพิ่มการลงทุนในหุ้นได้สูงสุด 55% ส่วนที่เหลือกระจายลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ โดยลงทุนในต่างประเทศไม่เกิน 30% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน เหมาะกับผู้ที่สามารถลงทุนในระยะยาว และยอมรับความเสี่ยงได้ในระดับปานกลางค่อนข้างสูง
กองทุนเปิดเค อิควิตี้แอบโซลูทรีเทิร์น ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (K-ART) เน้นลงทุนในหน่วยลงทุน BSF Americas Diversified Equity Absolute Return Fund, Class I2 USD โดยกองทุนหลักมีนโยบายมุ่งสร้างผลตอบแทนที่เป็นบวกโดยไม่คำนึงถึงสภาวะตลาดโดยใช้ตราสารอนุพันธ์ และใช้โปรแกรมจัดการลงทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการคัดเลือกหุ้น โดยนำการวิเคราะห์ Big Data และ Machine Learning มาใช้ในการวิเคราะห์หลักทรัพย์ กองทุน K-ART เหมาะกับผู้ที่ต้องการกระจายเงินลงทุนส่วนหนึ่งไปในสินทรัพย์ทางเลือกรูปแบบใหม่ เพื่อให้พอร์ตการลงทุนโดยรวมมีความผันผวนลดลง สามารถลงทุนในระยะยาว และยอมรับความเสี่ยงได้ในระดับสูง
กองทุนเปิดเค พร็อพเพอร์ตี้ เซคเตอร์ (K-PROP) มีนโยบายลงทุนในตราสารภายใต้หมวดอสังหาริมทรัพย์ ทั้งในและต่างประเทศ และมีนโยบายจ่ายเงินปันผล เหมาะกับผู้ที่สามารถลงทุนในระยะยาว และยอมรับความเสี่ยงได้ในระดับสูงมาก
2. บลจ.วรรณ นำเสนอกองทุนใหม่ 1 กองทุน ได้แก่
กองทุนเปิดวรรณ อัลติเมท โกลบอล โกรว์ธ (ONE-UGG) มีโยบายลงทุนในกองทุน Baillie Gifford Long Term Global Growth Fund (กองทุนหลัก) ในหน่วยลงทุนชนิด Class B net accumulation (ชนิด B ประเภทสะสมมูลค่า) ที่เน้นคัดเลือกหุ้นที่มีอัตราการเติบโตสูงในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงหรือมีนวัตกรรมใหม่ๆ รวมถึงมีแนวโน้มเติบโตสอดรับกับพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคในอนาคต เหมาะกับผู้ที่ต้องการลงทุนให้หุ้นเติบโตขนาดใหญ่ทั่วโลก สามารถลงทุนในระยะยาว และยอมรับความเสี่ยงได้ในระดับสูง